อากาศดีๆ ที่มีในเวลาเช้า.....

วันนี้ตั้งใจว่าจะตื่นเช้า(เป็นพิเศษ)  เพื่อเก็บภาพบรรยากาศในสวนของข้าพเจ้ามาฝากชาวบ้านสวนฯ ทุกท่าน

ภารกิจแรก: ตั้งใจจะรอถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นตรงบริเวณสระเก็บน้ำสาธารณะประโยชน์ที่อยู่ข้างบ้าน (อืม....พระอาทิตย์ขึ้นนี่สวยจริง ๆ )

ได้รูปพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว กลับบ้าน เจอเจ้าตูบรออยู่ ทำท่ายืนตรงแล้วเหยียดขาหน้าใส่ 1 ที ไม่เข้าใจที่ตูบทำ? แน่จริงก็พูดเลยสิ(ไปเดินเล่นในสวนกันเถอะ คงตั้งใจจะบอกแบบนั้น)

ภารกิจที่สอง: เช้า ๆ แบบนี้เริ่มต้นด้วยการไปชมแปลงมะม่าว (ยอดม่าว, ส้มม่าว) กันดีกว่าครับ

มะม่าว เป็นผักพื้นบ้าน ยอดอ่อน ใบอ่อน นำมาทำอาหารได้หลายชนิด (ทำอะไรก็อร่อย โดยเฉพาะนำไปแกงใส่ปลาย่าง หรือกุ้งแห้ง อร่อยอย่าบอกใคร)  ผลสามารถเอามาทำไวน์ (เป็นสินค้า OTOP ชั้นดีเลย)  ตอนแรกปลูกไว้รับประทานเอง  ปลูกไปปลูกมา เริ่มเยอะต้น เลยตัดยอดส่งแม่ค้าในตลาดนัดสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ขายดีมาก ยิ่งช่วงหน้าแล้งแบบนี้ มะม่าวที่ขึ้นตามธรรมชาติจะไม่ค่อยมียอด แต่ถ้ารดน้ำ ใส่ปุ๋ย สม่ำเสมอแบบนี้ เก็บยอดได้ตลอด

รดน้ำด้วยระบบน้ำพุ่ง ทั่วแปลงก็คลุมด้วยเศษใบไม้ ใบหญ้า ใบตะไคร้ ใบหญ้าคา ฯลฯ รักษาความชื้นได้เป็นอย่างดี

ภารกิจที่สาม: พาไปดูสวนกล้วย (ปลูกแซมไว้ระหว่างต้นยางพารา)

เช้า ๆ แบบนี้จะเห็นแสงแดดส่องลอดใบกล้วย เห็นเป็นลำ ๆ เลย ระหว่างกอกล้วยก็ปลูก พริกขี้หนู กับมะเขือ

ช่วงนี้บรรดากล้วยต่างก็แข่งกันออกลูก เครือยาว ๆ หวีโต ๆ ทั้งนั้น  มีกล้วยไข่  กล้วยน้ำว้า  กล้วยหอม (กำลังหาพันธุ์อื่น ๆ มาปลูกเพิ่ม) กล้วยนี่เป็นพืชสามัญประจำสวนครับ ควรจะปลูกไว้ เพราะมีสารพัดประโยชน์

เอ๊ะ...นั่น ขวดอะไรหว่า???
(เฉลย  หากท่านเคยเดินทางผ่านถนนสาย ตรัง-ปะเหลียน จะเห็นถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร วางคู่กันต้นปาล์มที่ปลูกไว้บนเกาะกลางถนน ต้นละถัง คาดว่าเอาไว้ใส่น้ำทำเป็นระบบน้ำหยดให้กับต้นปาล์มในช่วงหน้าแล้ง แต่ไม่รู้ว่าเข้าใจผิดรึเปล่านะ เพราะไม่เคยจอดรถลงไปดู  มาวันหนึ่งเจอขวดเปล่าขนาด 3 ลิตร ก็เกิดไอเดียน่าจะเอามาใส่น้ำแล้วเจาะรูเล็ก ๆ เลียนแบบมั่งดีกว่า ได้ผลประการใดจะแจ้งให้ทราบครับ)

ภารกิจที่สี่:: ชมบ่อเลี้ยงปลาน้อย ๆ  กับโรงเลี้ยงหนอนนก

ในรูปนี้ไม่ได้ใช้พลาสติกใสรองบ่อ เพราะหาซื้อขนาดที่ต้องการไม่ได้... มีอยู่วันหนึ่งไปซื้อของที่ห้าง ma*ro เจอผ้าเต้นส์ ขนาด (4x6 m) เขียนว่ากันน้ำ 100%  (ราคา 600 กว่าบาท) ก็เลยซื้อมาทดลองใช้ดู ปรากฏว่าได้ผลครับ ตอนนี้เลี้ยงปลาจาระเม็ด ปลานิล ตะเพียน ยังไม่เคยจับกินเลยครับ บ่อนี้มีข้อเสียคือ ไม่สามารถระบายน้ำได้ เลยตักน้ำไปรดต้นไม้บริเวณใกล้เคียง แล้วก็เติมน้ำใหม่เรื่อย ๆ

ส่วนโรงเรือนด้านบนคือโรงเลี้ยงหนอน วิธีเลี้ยงก็หาข้อมูลจากในอินเตอเน็ตนี่แหละครับ แล้วมาทดลองเลี้ยงดู ปรากฏว่าได้ผล ตอนนี้ไข่จากรุ่นแรก กำลังจะกลายเป็นดักแด้ และเป็นพ่อแม่พันธุ์รุ่นถัดไป จากครั้งแรกซื้อหนอนมาเลี้ยง 1 ขีด (ราคาขีดละ 30 บาท) ตอนเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว หนอนนกนี่เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีเลยครับ ใช้เลี้ยงนก (โดยเฉพาะ นกกรงหัวจุก) เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ ได้ทั้งนั้นครับ (แต่คงไม่คุ้มครับ เพราะบางช่วงหนอนนกมีราคาแพงถึงกิโลกรัมละ 500-600 บาทเลยทีเดียว แต่อย่าทำตาโตละครับ บางช่วงก็ราคาตกเหลือกิโลฯ ละ ร้อยกว่าบาทเอง  ส่วนผมเลี้ยงเพื่อศึกษาครับ ไม่ได้คาดหวังอะไร ถ้าได้หนอนเยอะก็เอาไปขายให้ญาติ ๆ หรือเพื่อน ๆ  ที่เลี้ยงนก)

หน้าตาของหนอนนก น่ารักน่าชังดีแท้

ภารกิจสุดท้าย:(สำหรับเช้านี้) ชมไม้ชมสวน

รอบ ๆ บ้าน แม่จะปลูกไม้ดอก ไม้ประดับไว้เยอะเลย แต่ผมไม่ค่อยจะรู้จักชื่อ ชอบไปแอบถ่ายรูปอย่างเดียว ยิ่งต้นไหนออกดอกมายสวย ๆ ก็กดชัตเตอร์ แชะ ๆ !!!

กล้วยไม้ช่อนี้ ไม่รู้จัก แต่สวยดี ก็เลย ถ่ายซะ!!!

ต้นทับทิมต้นนี้ ปลูกทิ้งปลูกขว้าง ไม่ได้ตัดแต่งกิ่ง ตอนนี้ต้นสูงกว่าสายไฟที่เดินไปยังตัวบ้านแล้ว แถมออกลูกอีกต่างหาก แล้วจะเก็บกินยังไงละนี่

สระน้ำสาธารณะประโยชน์ บริเวณที่ถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นเมื่อตอนเช้า มีความจุ 8,542 ลบ. ม. ช่วงหน้าแล้งสามารถสูบน้ำไปแจกจ่ายชาวบ้านบรรเทาความเดือดร้อนได้ เย็น ๆ ก็เดินชมวิว หรือจะวิ่งออกกำลังกายรอบสระก็ได้

ขอจบด้วยภาพนี้ (ขอให้มีความสุขในทุก ๆ วันนะครับ)