จากคนตกปลา มาเป็นคนหาปลา

หมวดหมู่ของบล็อก: 

จากกระทู้คนตกปลาที่ได้เขียนเรื่องวีรกรรมของตัวเองเกี่ยวกับการตกปลาและไส้เดือนไปแล้วนั้น ผลก็คือมีบางคนไม่กล้ากินปลาที่ตกได้จากไส้เดือนเหมือนกันค่ะ (พี่เล็กนั่นเอง)     แต่น้องเอส กับสาวน้อยไม่แคร์ค่ะ   เห็นบอกว่าใหฉันกินผัก ส่วนสองคนนั่นจะแบ่งปลากันกิน  


ป้าต่ายบอกสงสารฉัน ...(หรือสงสารปลาคะ?)  พี่น้อย คนแต่แรกเข้ามาร้องเพลงของหม่อมถนัดศรี   ไม่รู้ว่าเคยมีความหลังกับเพลงนี้หรือเปล่า   สาวอีฟคนแฟนหล่อ   มาทุกนัดอยู่แล้วรายนี้.....    ป้าลัดและพี่หยอย ก็เข้ามาชวนให้ทานผักเพิ่มขึ้น คงอยากบอกว่าศีลข้อหนึ่งฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมันเป็นบาปนะจ๊ะ   คุณวรพจน์ก็เข้ามาขู่ให้กลัวบาป แต่สายไปแล้วค่ะ ปลาหมดเหลือแต่ไส้เดือน  คุณแม่ลูกหนึ่งบอกว่าปลาตัวอื่นก็กินใส้เดือนแล้วทำไมไม่กลัว  อิอิ   กลัวค่ะ   แต่ไม่เห็น    ...คุณ Sunavee  เข้ามาติดตามแบบเห็นภาพ  น้องศิษฐ์ก็ยุให้กินปลาแบบไม่ต้องกลัวไส้เดือน ก็มันอยู่ในพุงปลานี่น้องจะกินเข้าไปได้งัย      ป้าเล็ก อุบล ให้ข้อคิดที่คมกริบเชียวค่ะ   บอกว่าจริงๆแล้วคนเราต้องการแค่เห็นปลากินเหยื่อเท่านั้น   หาได้ต้องการให้ปลาติดเบ็ดไม่   คงเป็นเช่นนั้นจริงๆค่ะ 

   

ส่วนท่านอื่นก็แนะนำเหยื่ออันโอชะ  พี่เก้บอกให้ใช้กุ้งฝอย  น้องอ้อมะโหน่งบอกว่าเคยตกกับขนมปัง   (ปลาน้องอ้อคงกินเจ)  น้องรุจ ตกกับข้าวเหนียว (ปลาลูกอีสานแท้ๆ)


ลุงโรส บอกว่าไส้เดือนเป็นยา แล้วยังให้ข้อคิดอีกว่า     ความกลัวเกิดจากใจเราเอง... คมค่ะ คมมาก   คงต้องขอต่อยอดยามลุงโรสไปใต้คราวหน้านะคะ


น้องพาบอกว่าซื้อกินง่ายกว่า    อ้ายลำไยให้ขอแนะนำมาเยอะแยะ  ทั้งตก ทั้งทอดแห ทั้งงมปลา ปักเบ็ด เหยื่อก็สารพัดทั้งจิ้งหรีด ตั๊กแตน ปลาหมอ ไส้เดือน เนื้อหมู เนื้อวัว  สุกและดิบ  สบู่ก็ยังเอามาเป็นเหยื่อ  สุดท้ายก็ใช้ผักตก  สงสัยจะเป็นปลากินรักษาศีล  ชนิดเดียวกับมะโหน่ง


แต่จะเป็นปลาอะไรหรือใช้เหยื่อชนิดไหนตกก็แล้วแต่นะคะ    ปรัชญาคนตกปลาก็ยังทิ้งข้อคิดให้คนกินปลาอย่างเราๆได้นำเอามาใช้เพื่อดำรงอยู่อย่างพอเพียงได้เสมอค่ะ


ฉันเองไม่ได้เป็นคนใหญ่คนโตมาจากไหน     แต่อาจจะโชคดีกว่าหน่อยตรงที่เคยมีโอกาสเป็นผู้ให้ ทั้งในแง่ของรูปธรรมมและนามธรรมมาบ้าง 

   

ในแง่รูปธรรมนั้น ให้ไม่ยากค่ะ   มีเงินก็ให้เงิน   มีของใช้ก็ให้ของใช้   เพราะเป็นการให้แบบมิติเดียว  คือผู้ให้ให้ไป  ผู้รับก็รับไป และเอาไปใช้ได้เลย


แต่การให้อีกรูปแบบหนึ่งคือการให้แบบนามธรรม  ซึ่งตรงนี้ถือว่ามีหลายมิติซับซ้อนกว่าแบบแรก  จึงเป็นที่มาของบล็อกนี้ค่ะ คือเรื่องของคนตกปลา  เกี่ยวเนื่องกันตรงที่ว่า ถ้าเราเอาสิ่งของให้กับคนอื่น  เขาจะได้สิ่งนั้นไปใช้  แล้วก็หมดไป  แต่ถ้าเราให้วิธีหาสิ่งของแก่เขา  เขาจะได้ความชำนาญในการหาสิ่งของและจะไม่มีวันหมด  ซ้ำยังจะเพิ่มพูนความชำนาญขึ้นอีกเรื่อยๆ     

 

นั่นคือว่าถ้าเราเอาปลาไปให้เขา   เขาก็จะกินหมดแล้วก็รอว่าเมื่อไหร่ที่เราจะเอาปลาไปให้เขาอีก    ในทางกลับกัน ถ้าเราสอนให้เขาตกปลา  เขาก็จะตกปลาเป็น และทุกครั้งที่เขาต้องการปลา    ก็ไม่จำเป็นต้องมีเรา  แต่เขาสามารถออกไปตกปลาได้ด้วยตัวเอง 


การให้แบบนามธรรม ฉันคิดว่าผู้ให้ทุกคนคงเหมือนกันคือเกิดปิติและอิ่มเอิบใจในการได้ให้    ถึงแม้จะยากและเห็นภาพไม่ชัดเจนเท่าแบบแรก   แต่ก็ไม่ยากเกินกว่าความตั้งใจของผู้กระทำ  จริงไหมคะ  ?


ฉันจึงขุดบ่อปลาในที่นา เพื่อให้คนตกปลาได้เรียนรู้วิธีหาปลาค่ะ 


การหาปลามีหลายวิธีค่ะ   นอกจากตกปลาแล้ว  ก็ยังมีวิธีหว่านแห    ซึ่งวิธีนี้บอกตามตรงว่ามันยากมากสำหรับลูกผู้หญิงอย่างฉัน     ฉันเคยเห็นแต่นักหว่านแห   จัดท่าทาง  จัดแห จัดแขนขา  แล้วค่อยๆบรรจงเหวี่ยงแหออกไปให้ลูกตะกั่วตรงตีนแห่ค่อยหย่อนลงบนผิวน้ำอย่างเงียบกริบและเฉียบคม  


เวลาที่ฉันไปบ้านนอก ภาพเหล่านี้จะมีให้เห็นบ่อยๆค่ะ    ตรงขอบบ่อที่ขุดเมื่อปีกลาย   จะมีนักหว่านแหยืนห่างกันเป็นระยะๆ   ทุกครั้งที่แหถูกเหวี่ยงออกไป   ฉันมักจะมองตามภาพเหล่านั้นด้วยทุกครั้ง ด้วยเพราะเกิดปรากฏแห่งภาพศิลป์ที่ไม่ซ้ำกันเลยกันในแต่ละครั้ง     


บางแหหวี่ยงออกไปเป็นรูปครึ่งวงกลม  แต่บางแหเหวี่ยงออกไปคลี่เป็นรูปหัวใจ 


อ้ายลำไยเป็นผู้จุดประการให้ฉันคิดเรื่องการหว่านแหค่ะ       ไม่แน่ใจว่าที่ปักษ์ใต้บ้านฉันเขานิยมหว่านแหกันหรือเปล่านะคะ     แต่เท่าที่ฉันเห็นและทึ่งมากก็คือ   เด็กหนุ่มแดนที่ราบสูงทุกคนจะหว่านแหเป็น  และเรียนรู้วิธีหาปลาจากแม่น้ำ ลำคลอง   เช่นการวางข่าย   หรือการใช้โพง  


ปักษ์ใต้บ้านฉัน  มีทรัพยากรในทะเลให้จับกินได้อย่างไม่เคยรู้สึกขาดแคลน   แต่เมื่อคราวฉันไปบ้านนอก (ของฉัน)   ก็ไม่มีครั้งไหนเลยที่น้ำจิ้มซีฟู๊ดรสเผ็ดจี๊ดดดของฉันจะไม่ได้เป็นนางเอกในวงปลาหมกขี้เถ้า ที่พี่ ป้า น้า อา และเด็กตัวเล็ก  ต่างก็สนุกสนานกับการจับปลาในบ่อเอามาปิ้ง ย่าง อบ หมก กันให้เป็นที่สนุกสนาน 


ถึงแม้ว่าปลาเหล่านั้น จะตัวไม่ใหญ่เท่าปลาจากอันดามันที่บ้านฉัน   แต่ด้วยน้ำจิ้มที่ตำกันสดๆจากพริกขี้หนูสวนในไร่    บีบมะนาวสดให้เปรี้ยวจี๊ดดดด  ตักใส่กระทงใบตอง  พร้อมแล้วก็นั่งลงปูเสื่อรอรับน้ำใจจากหนุ่มๆที่ทั้งหา  ทั้งย่างปลาส่งให้สาวๆหน้า ตาจิ้มลิ้มค่อยๆแกะหนังดำๆที่ติดขี้เถ้าออกไป เผยให้เห็นเนื้อในขาวนวลชวนน้ำลายหก


  สวรรค์บ้านนา กินข้าวเย็นกลางทุ่ง  บรรยากาศโล่ง โปร่งสบายยามแสงสุดท้ายแห่งวันกำลังจะลาลับขอบฟ้าทางด้านทิศตะวันตก กรุ่นกลิ่นหอมเถ้า  หอมกลิ่นดินที่ผสมในเนื้อปลาเผาแทรกในอณูเล็กๆของพริกหอมที่ปลูกเองยามนี้  

  

มื้อเย็นของฉันก็โอชะรสคงไม่ต่างจากมื้อของพระราชาหรอกค่ะ     เพราะถึงแม้ว่าฉันจะอยู่ที่ภัตาคารบ้านทุ่ง   หรือแห่งไหนในเมืองกรุง  

 

แต่คืนนี้ เราก็ชมพระจันทร์ดวงเดียวกันใช่ไหมคะ   ......???     

ความเห็น

เป็นเกียรติครับที่ได้รู้จัก สมช.บ้านสวนทุกท่านที่สอนให้เพื่อนสมช.รู้จักปลูกผัก ตกปลา เก็บของในสวนมาทำทาน กินกันในครอบครัวพึ่งพาตนเอง ดีใจที่เรามีการแบ่งปันกัน ไม่เคยเสียใจเลยที่เรามาสมัครสมช.บ้านสวนแล้วนั่งอ่านความคิดของสมช.ที่แบ่งปันความคิด ประสบการณ์ที่มีค่าของแต่ละท่าน ภูมิใจเสียอีกที่เราเป็นส่วนหนึ่งในหน้าของการแบ่งปัน ที่เรากำลังสร้างไว้ให้ลูกหลานยังรู้จักคำว่า "แบ่งปัน พอเพียง พึ่งพาตนเอง" 


.


.


แต่เราแบ่งปลากับพี่น้อยได้จริงนะ.... ตกลงกันแล้ว  :uhuhuh:

ถ้าเดินเรื่อยไป ย่อมถึงปลายทาง

เขาก็สอนกันเยอะนะคะ   แต่พี่ไม่จำ   555

โฮะๆๆ..คุณพัชรีย์ผมว่าว่างๆแวะมาอุบลจะสอนวิธีหว่านแห..แบบกระจายมาก..น้อย..กระจายเป็นแห่งๆ..อิอิอิ..ผมหว่านแหเป็นตั้งแต่อยู่ป.2 ปักเป็ด..กางข่าย..ว่ายน้ำ..หากบเป็นตั้งแต่จำความได้..ต่อให้กบซ่อนตัวในดิน.รูปู..ผมก็มีความสามารถเอาตัวออกมาจนได้(เป็นทักษะเฉพาะตัวที่ได้จากประสบการณ์ตรง)..ขนาดเกิด..แม่เกือบจะคลอดตอนไปปักเเบ็ดกับพ่อ(เดือนกันยายน)..พ่อประคองแม่กลับบ้านแทบไม่ทัน..แหะๆๆ..อันนี้แม่บอก..

เรียกพี่เพชรก็ได้นะ  ถ้าลำบาก   :uhuhuh:

 

อยู่อุลเหรอคะ    ใกล้น้องศิษฐ์หรือเปล่าจะได้ไปเยี่ยมพร้อมๆกันเลย   

บ้านนอกของพี่  (เพชรบูรณ์)    ก็คือกันค่ะ   ชาวบ้านหากบเก่งมากกก      กลางคืนมาใส่ไฟแบบที่เขาตัดยาหน่ะค่ะ    แต่ได้กบมาพี่ก็ไม่กล้ากินอีก   กลัวบาป  

แต่ถ้าผัดมาแล้วพี่ลุยโลดดด  

เป็นตาแซ่บบน้อ   555  

ครับพี่เพชร..อยู่อุบลครับ..ห่างจากพี่วิศิษฐ์ไม่ไกลอยู่อิสานเหมือนกัน..อืมม..ประมาณ 500  กิโลเมตรได้มั้ง..5555..ตอนนี้ไม่ค่อยกินแล้วกบ..การหากบเป็นความรู้อย่างหนึ่งในการดำรงชีวิตของชนบท..จะหาตอนกลางวัน..กลางคืน..ฤดูฝน..ฤดูหนาว..ฤดูร้อน..บนบก..ในน้ำ..ในป่า..เครื่องมือ..เหยื่อ..เทคนิคการจับกบไม่ให้หลุดมือ..การแปรูปกบ..ชนิดของกบ..อายุของกบกับการประกอบอาหาร..แหะๆๆ..เอาเท่านี้ก่อน..เดี๋ยวจะเป็นรายการ"ค้นกบ"ซะก่อน..ปล.เอ่อ..ไม่เกี่ยวกับน้องกบตัวหอมปากสีชมพูนะครับ..อิอิอิ..จะมาอุบลผมฝากเบอร์หลังไมค์..อย่าลืมโทรนะครับ..

เคยลองทอด...ตัวเองไปกับแหด้วยค่ะ....น้อยเป็นคนทำบาปไม่ค่อยขึ้น..(ตกปลาไม่ติด...แต่กินปลา..ถนัด..ขอบอก..)

ชีวืตที่เพียงพอ..

มาทอดแหแข่งกันไหม   ของใครจะเป็นรูปหัวใจ   555

ทอดแหไม่ยากเลยครับ


หวี่ยงออกไปแล้ว เป็นรูปหัวใจหรือเปลาจ๊ะ

รายงานตัวแล้วจ้า เอิ้กๆๆๆ  :uhuhuh:

สวัสดีค่ะดาราเฟซบุ๊คของวันนี้ ไม่รู้สัมภาษณ์กันถึงไหน

เน็ตหลุดก่อน  :sweating:

""

 

หน้า