ตอนเสาวรส
ตอนเสาวรส
แม้ว่าบ้านจะอยู่ในเขตเมือง ที่พื้นที่การปลูกจำกัดมาก แต่ด้วยความที่ชอบใจคุณค่าผลเสาวรส เมื่อสามปีก่อนจึงตัดสินใจเอาเมล็ดเพาะ ปัจจุบันต้นโต สองต้น แต่ละต้นเส้นผ่าศูนย์กลางนิ้วถึงนิ้วเศษ เถาเสาวรสเลื้อยพันต้นมะม่วงและต้นมะเฟือง สุดท้ายต้องตัดริดลงจนแทบเรียกได้ว่าเหลือแต่ตอ แตกยอดออกมาเรื่อย ๆ (ไม่ยอมขุดทิ้งยังหวังว่าสักวันจะพอได้ประโยชน์บ้าง)
ประมาณเดือนที่แล้ว(ช่วงนั้นตอนกิ่งเชอรี่หรืออะเซโรล่า ต้นไม้ผลมากวิตะมินซี) อดไม่ได้ที่อยากทดลองตอนเสาวรสบ้าง
...ไม่รอช้า จากที่เคยอ่านวิธีการตอนหลาย ๆ อย่างจากหลาย ๆ ที่ จำ ๆ เอาแล้วมาปรับใช้ การตอนครั้งนี้ก็ทำแบบเดียวกับที่ครั้งหนึ่งเคยตอนแตงหูฉลามจนกิ่งตอนได้ราก
เตรียมวัสดุ น้ำยาเร่งราก เชือกฟาง
ขุยมะพร้าวหรือขุยทลายปาล์มแช่น้ำจนชุ่ม(แช่ข้ามคืน)
แล้วการตอนเสาวรสก็เริ่มขึ้น ด้วยการเลือกกิ่งตอนไม่แก่ไม่อ่อนเกินไป (มีสีเขียวเข้มหรือออกแดง)
เลือกตำแหน่งตรงก้านต่ำกว่าข้อสักหนึ่งถึงสองเซนติเมตร
ใช้ใบมีดคม ๆ บากประมาณครึ่งหนึ่งของก้าน อย่าให้ขาด
เอาเศษก้านใบไม้สอดไว้ไม่ให้ก้านกลับมาติดกัน
(ตัดเศษก้านใบไม้ให้เล็กก่อน ค่อยสอดขวางไว้)
ตัดใบและมือจับ(หนวด)ตรงข้อออก
ป้ายน้ำยาเริ่งรากตรงข้อและรอยบาก
หุ้มด้วยวัสดุตอน(ขุยมะพร้าวแช่น้ำจนชุ่มหรือเป็นขุยจากทลายปาล์ม)
ห่อพันด้วยเชือกฟางที่คลี่ออกแผ่เป็นแผ่น
และห่อทบสักสองสามชั้นหุ้มห่อให้รอบวัสดุตอน
แล้วมัดหัวท้ายและตรงกลาง มัดให้แน่น
ทิ้งไว้สามถึงสี่สัปดาห์ รากจะงอกให้เห็น
พลิกดูรากเห็นชัดเจนขึ้น (ก่อนชำไม่ต้องแก้วัสดุมาพลิกดูราก จะเห็นรากได้ชัดเจนเอง) ให้ชำทั้งวัสดุหุ้ม(แกะเชือกฟางที่แผ่เป็นแผ่นใช้ในการห่อออกก่อน)ในกระถาง ระวังรากกระเทือน ตั้งไว้ในร่มแดดรำไร เมื่อแข็งแรงค่อยลงดิน...
ในวันนี้เสาวรสที่ตอนให้รากแล้ว จากที่ตอนไว้ห้ากิ่งได้มาสองกิ่ง ... เลยนำมาแบ่งปันกันว่าการตอนกิ่งเสาวรสนั้นก็ทำได้ (เคยตัดกิ่งเสาวรสปักชำสิบถึงยี่สิบกิ่งจะโชคดีได้กิ่งปักชำรากงอกสองสามกิ่ง บางครั้งก็มากกว่าแต่ก็ไม่บ่อย) ทำให้มั่นใจในการตอนมากขึ้น
หากคิดจะตอนและรู้วิธีการเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จะมีผลดีคือไม่ล่าช้าในการตอน ไม่ต้องลองผิดลองถูกกัน
หมายเหตุ ในระหว่างการตอนนี้กิ่งอาจแกว่งไกวไม่สะดวก ให้ใช้ไม้หนีบผ้าหนีบกิ่งไว้ให้คงที่ไม่แกว่งมากนักจะสะดวกในการทำมากขึ้น
และหากกิ่งตอนมีแนวโน้มว่าจะหักพับงอให้เอาเศษไม้เล็ก ๆ ดามไว้จะช่วยทำให้การตอนประสบผลสำเร็จได้ดีขึ้น
ระวังการบากกิ่งตอน อย่าบากลึกเกินไปทำให้ขาด หากบากตื้นอาจตอนไม่ได้ราก
- บล็อกของ สายพิน
- อ่าน 14107 ครั้ง
ความเห็น
ยุพิน
26 กันยายน, 2011 - 14:12
Permalink
Re: ตอนเสาวรส
ขอซื้อไอเดียค่ะ..พี่สาวคนเก่ง.ไม่ต้องเพาะเมล็ดแล้วค่ะ
สายพิน
26 กันยายน, 2011 - 14:36
Permalink
น้องยุพิน
ด้วยความยินดีแบ่งปันกันเลยค่ะ ไม่ขาย ๆ ๆ ... อิอิ ตอนแล้วปลูกได้ผลขอแบ่งชิมมั่งอ่ะค่ะ (ล้อเล่นนะคะ)น้องยุพิน
สาวภูธร
26 กันยายน, 2011 - 16:27
Permalink
Re: ตอนเสาวรส
ประหยัดเวลาดีคะ :embarrassed: :embarrassed:
สายพิน
27 กันยายน, 2011 - 09:30
Permalink
Re: ตอนเสาวรส
น้องสาว ...เห็นด้วยเลยค่ะ ว่าย่นเวลาในการเพาะจากเมล็ดมาเป็นต้นนะคะ
noBody
27 กันยายน, 2011 - 08:03
Permalink
Re: ตอนเสาวรส
ขอมาเยี่ยมมาเยียนบ้าง
ขอบคุณนะคะที่หากันจนเจอแล้วไปช่วยทำการบ้านของป้า ขอตอบคำถามที่ถามป้าก่อนนะคะว่าซุ้มของป้าน่ะ อีลุงเค้าทำเพื่อกันแดดให้ป้าในระหว่างรอต้นไม้โต เพราะป้าฮอร์โมนแปรปรวนมานาน หน้าเป็นฝ้าและชอบบ่นเวลาที่ตากแดด แกเลยทำเพราะขี้เกียจฟังคนบ่น มันก็เลยเป็นสภาพนั้น พอป้าเห็นก็กร๊๊ดสลบในความน่าเกลียดของมัน เลยอยากปลูกอะไรปิดบังความน่าเกลียด เรื่องมันก็เป็นเยี่ยงนั้นล่ะค่ะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์เรื่องอัญชันนะคะ
ที่บ้านแม่ริมป้าก็มีเสาวรสอยู่หนึ่งต้นค่ะ นกกาแถวนั้นนำมาปลูกไว้ในกระถางพวงแสดป้า ป้าก็นึกว่าเป็นต้นพวงแสดเลี้ยงไปเลี้ยงมากลับกลายเป็นลูกเสาวรส ถ้ามีโอกาสจะลองนำวิชาคุณสายพิณไปลองทำบ้าง
สายพิน
27 กันยายน, 2011 - 09:42
Permalink
Re: ตอนเสาวรส
ป้าโนคะ ว้าวว... พาเอาท่านผู้เฒ่าเดินหากันเมื่อยเลย สุดท้ายเจอตัวกันแวะมาเยี่ยมเยียนกันจนได้ค่ะ ป้าโน ... คุณลุงคิดห่วงป้าโนเยอะเลยนะคะ อย่างนี้ป้าโนชื่นใจหลังจากฟื้นจากสลบได้เลยล่ะค่ะ ... จะว่าไปหากว่าแดดแรงมากก็ไม่ดีกับผิวพรรณนะคะ แต่ทราบมาอีกอย่างว่าหากแดดแรงร่างกายได้แดดมากพอประมาณหนึ่งละก้อกระดูกจะแข็งแรงมากเลยค่ะ ในวัยที่อายุเยอะขึ้น (ข้อมูลนี้แอบจำมาอีกที เตรียมตัวเองในวันที่วัยอายุเยอะขึ้นกว่านี้ ...ความว่าแสงแดดจะช่วยให้ไขมันตัวหนึ่งที่ผิวหนังเปลี่ยนเป็นวิตามินดีแล้ววิตามินดีนี้ก็จะมีผลต่อกระดูกของร่างกาย) ยังเมื่อคืนก่อนดูรายการทีวี พูดถึงเรื่องหากว่าบ้านมีแดดสว่างจ้ามากไปก็จะมีความเป็นหยางเยอะดังนั้นหากว่าปรับให้แสงน้อยลงก็จะทำให้หยินหยางลงตัว ... เลยพาป้าโนคุยไปซะตั้งหลายเรื่องเลย แล้วหลายเรื่องฟังบ้างอ่านบ้าง พอเข้าใจได้ก็จำ ๆ มา เล่าสู่กันฟังอีกทีค่ะ ป้าโน
เรื่องเสาวรส เคยอ่านเจอว่าเป็นพืชที่ผสมเกสรข้ามต้นจึงจะให้ผลนะคะ หากว่าป้าโนปลูกอีกสักต้นจะได้มีผลด้วย แต่ว่าต้องเป็นต้นที่มาจากเมล็ดอีกเมล็ดหนึ่ง ถ้าปลูกต้นเดียวอาจเก็บยอด ใบ มาปรุงอาหาร แต่ไม่ทราบว่าวิธีปรุงอาหารจากยอดเสาวรสทำอย่างไร น่าจะเป็นการผ่านความร้อนให้สุกนะคะ เพื่อจะได้ลดสารเป็นพิษในใบเสาวรสด้วย(เคยได้ยินมาอีกน่ะค่ะ ว่าใบสดจะมีสารเป็นพิษอยู่ด้วยจึงควรผ่านความร้อนให้สุกก่อนหรืออย่างไรนี้ล่ะค่ะ) แต่อ่านช้อความป้าโนแล้วทราบว่าต้นเดียวให้ผลเสาวรสด้วย ดีจังค่ะ ไม่ต้องปลูกสองต้น
ขอบคุณป้าโนมากนะคะ แวะมาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจกันในบล็อก ... มีโอกาสได้แวะไปเยี่ยมบล็อกกันอีกค่ะ ป้าโน
Suthikarn
27 กันยายน, 2011 - 12:34
Permalink
Re: ตอนเสาวรส
จด จด ลอก ลอก...ขอลอกการบ้านนะคะคุณสายพินคราวนี้จะมีเสาวรสเต็มสวนแน่ ๆ...
ขอแชร์ไอเดียนะคะ ที่บ้านปลูกต้นเดียว ปล่อยไว้ก็มีผลเพียบเลย ไม่เคยได้ผสมเกสรเลยค่ะ...ยอดเสาวรส รสชาติไม่เอาไหนเลยค่ะ ทานครั้งเดียวไม่คิดจะทานอีกเลย...ส่วนผลเสาวรสถ้าผลสีเหลืองจะเปรี้ยวมาก วิธีทานให้อร่อย ผ่าครึ่งหยอดน้ำปลาแล้วใช้ช้อนตักเข้าปาก.. ว้าว...เปรี้ยวอร่อยสุด ๆ วิตามินซีเพียบ...แต่ถ้าจะให้อร่อยต้องลูกสีม่วงเก็บไว้ให้ลืมต้น...ผ่าครึ่ง...ตักเข้าปาก หวานอมเปรี้ยวไม่ต้องหยอดน้ำปลา เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม...ตั้งแต่ได้ทานผลสีม่วงก็โบกมือลาผลสีเหลืองตลอดกาล...ว่าแล้วเข้าสวนไปเก็บเสาวรสดีกว่า... :bye: :bye:
จะปลุกทุกอย่างที่กิน แม้จะไม่ได้กินทุกอย่างที่ปลูก
สายพิน
27 กันยายน, 2011 - 16:36
Permalink
Re: ตอนเสาวรส
ขอบคุณมากมายค่ะ คุณสุทธิกาญจน์ งานนี้หากว่าจะเหลือเสาวรสต้นเดียวก็ว่าน่าสบายใจได้เลย ว่ายังไงก็ยังให้ผลได้ ต้องขอบคุณมาก ๆ นะคะ วิธีการกินเสาวรสอย่างมีรสชาติได้วิตามินซีครบกระบวนความกัน ขอบคุณมาก ๆ เลยล่ะค่ะ
ธนนันท์
27 กันยายน, 2011 - 16:50
Permalink
Re: ตอนเสาวรส
พี่สายพิน... เมื่อก่อนอาจารย์ข้างบ้านเขาเอามาปลูก มีลูกห้อยโหนโตงเตง น้องกินไม่เป็น ชิมแล้วเปรี้ยวปิ๊ด เลยไม่รู้ค่า เก็บแต่ยอดมาลวกจิ้มน้ำพริก ต่อมาเอามาทำน้ำหมักเพรา...(ยังไม่เปลี่ยนคีย์บอร์ด มันรวนมา 2 วันแล้ว) รู้มาว่าบำรุงสมอง เลยหมักไว้ให้แม่กิน ตอนนี้เพา..ไว้ได้ 20 ต้นแล้ว
สายพิน
27 กันยายน, 2011 - 16:57
Permalink
น้องธนนันท์ ...Re: ตอนเสาวรส
น้องธนนันท์ ดีจังเลยค่ะ หมายถึงน้ำหมักใบเสาวรสนี้สามารถบำรุงสมองได้อย่างนั้นใช่ไหมคะ ... จะได้ถนอมกล่อมเกลี้ยงบำรุงให้ใบเยอะ ๆ เอามาทำน้ำหมักบ้าง ทุกวันนี้ได้แต่หมักทำปุ๋ยอย่างเดียว ... วิธีการหมักใบเสาวรสไว้กินนี้คือล้างแล้วปล่อยให้แห้งค่อยหมักอย่างนั้นไหมคะ ... ยังไงหากว่าลงบล็อกได้ด้วย(หลังเปลี่ยนคีย์ยอร์ดแล้ว)จะไม่พลาดตามเรื่องให้เจอการหมักใบเสาวรสนี้เชียวค่ะ ... ขอบคุณมากเลยนะคะ
ส่วนผลเสาวรสหากว่าเอาไปผสมน้ำเอ็นไซม์ผลไม้หมักด้วย พี่ว่ารสชาติน่าจะกลมกล่อม หอม ชวนชิมเยอะขึ้นเลยนะคะ ... อย่างนี้ต้องลอง ๆ ๆ ค่ะ แต่ว่าเวลานี้ยังไม่มีผลเลย ... ต้องรอ ๆ ๆ ๆ ซะแล้ว
หน้า