เดือนละ หนึ่งหมื่นบาท

หมวดหมู่ของบล็อก: 

          น้ำท่วมโรงสีวันก่อน ท่วมแค่ไม่กี่ชั่วโมง น้ำมาเร็วไปเร็ว อีกอย่างแดงกับอ้ายเวทย์เตรียมรับมือไว้แล้ว เลยไม่มีอะไรเสียหาย พักทำความสะอาดแค่วันเดียว เมื่อวานนี้เลยเปิดบริการตามปกติ โรงสีตั้งอยู่ในสวน 6 ไร่ ห่างจากบ้านราว 200 ม. หกโมงเช้า อ้ายเวทย์ปั่นจักรยานมาเปิดโรงสีทิ้งไว้ แล้วก็ไปนาไปสวน

              ใครเอาข้าวมาสีก็บริการตัวเอง โรงสีเปิดหกโมงเช้า หยุดทุกวันเสาร์

                         ใครเอามา็ก็เขียนชื่อไว้

                         ส่วนนี้ เก็บไว้เป็นค่าไฟ

        แปดโมงเช้า  อ้ายเวทย์พร้อมเด็ก 3 ตัวก็ได้เวลาทำงาน

              โรงสี ไม่มีเครื่องยนต์กลไก ที่ซับซ้อนมากมายอะไรนัก ตอนน้ำมาก็แค่ยกไดร์ขึ้นไม่ให้ทำท่วม

                      พื้นยังไม่แห้งดีนัก แต่ไม่เป็นปัญหา

                                    เริ่มสีข้าว

         ข้าวที่สี บางคนชอบให้ขัดขาว ๆบางคนชอบข้าวกล้อง อ้ายเวทย์จัดให้ได้ แต่ส่วนใหญ่ชาวบ้านชอบข้าวขาว ๆบอกสีสวยน่ากิน

                             พี่คนนี้นำข้าวมาสี

             ชาวบ้านแถวนี้มีน้ำใจ ยกกระสอบเองเลย

                                   ลุงคนนี้ก็มา

                   ส่วนลุงคนนี้ มาทีไร ไม่เคยใส่เสื้อ

               มาดูกันว่า สิ่งที่ได้จากการสีข้าวมีอะไรบ้าง เผื่อเป็นแนวทางให้พี่น้องบ้านสวนที่สนใจทำอาชีพนี้

         1. ฝุ่นผงจากข้าวเปลือก บ้านแดงเรียกคายข้าว ส่วนนี้จะนำไปใส่ต้นไม้ได้เลย ไม่ต้องผสมอะไร เป็นปุ๋ยชั้นยอด

        2. เศษฟางข้าว ที่ร่อนออกมาแล้ว มีเศษข้าวเปลือกติดมาด้วย ส่วนนี้อ้ายเวทย์เอาไปให้ไก่กิน

       3. แกลบ เอาไว้ใส่นา รองพื้นคอกวัว ไม่พอขาย ชาวบ้านต้องการมาก ขายได้วันต่อวัน

         4. ปลายข้าว บ้านแดงเรียกข้าวปาย ขายก.ก.ละ 10 บาท ไม่พอขาย ขายได้วันต่อวัน

          ปลายข้าว ที่ได้แต่ละวัน เฉลี่ยข้าวหนึ่งกระสอบจะได้ปลายข้าวประมาณ 1 ก.ก. แต่ก็ขึ้นอยู่กับข้าวที่นำมาสี ถ้าข้าวงามหน่อย เม็ดจะสวยไม่หัก จะเป็นปลายข้าวน้อย แต่ก็ถือว่าได้มากแล้ว  อ้ายเวทย์อยากจะแนะนำตรงนี้ เพราะบางคนที่ทำโรงสี จะมีความโลภ ใช้ตะแกรงตาห่าง เพื่อจะให้ได้ปลายข้าวมาก ๆ ผลของความโลภตรงนี้ มันเหมือนกับการฆ่าตัวเอง อีกหน่อยชาวบ้านได้ข้าวน้อยก็จะไม่มาสีข้าว ปิดกิจการไปหลายรายแล้วเพราะความมักได้ 

               5. รายได้อีกอย่างคือรำ ท่อรำจะมี 2 ท่อ คือรำอ่อนและรำแก่ เจ้าของโรงสีบางรายจะเก็บรำอ่อนไว้เอง(บางคนจะเลี้ยงหมู เป็ดไก่) แล้วจะขายรำแก่ให้ลูกค้า โดยที่ขายราคารำปกติ  แต่อ้ายเวทย์ไม่ทำอย่างนั้น จะเอาผสมกันเลย ทำให้รำงาม

         รำอ้ายเวทย์จะใหม่ทุกวัน ไม่อ่อนไม่แก่พอดี  ขาย ก.ก.ละ 5 บาท ชาวบ้านจะแย่งกันซื้อ มีเท่าไหร่ขายได้หมด

               พี่คนนี้มาซื้อรำ บอกมีเท่าไหร่เอาหมด

           แต่อ้ายเวทย์บอก แบ่ง ๆให้คนอื่นบ้าง ชาวบ้านทุกคนมีเป็ดมีไก่ ขายให้คนเดียวไม่ได้หรอก

                   ใครมาก็แบ่ง ๆักัน ได้กันทุกคน

        พี่คนนี้มาเอาข้าวที่สี  บ้านใกล้ ๆแบกกลับบ้านเลย

                     ค่าบริการ กระสอบละ 5 บาท

                         รปภ.ประจำโรงสี อยู่กันคนละมุม

มุมนี้ยังเป็นเด็ก เลยอยู่กันสองตัว  ซ้ายรปภ.ไจแอนท์ ขวารปภ.เบิ้ม

               ทำงานไปด้วย เล่นกับเด็ก ๆไปด้วย ไม่ถึงบ่ายโมง อ้ายเวทย์ก็เสร็จงานแล้ว

             ข้าวที่สีเสร็จชาวบ้านยังไม่มาเอา ก็ขนกลับมาไว้ที่บ้าน เย็นชาวบ้านกลับจากไร่นาถึงจะมาเอา

                 รายได้วันนี้ ขายรำ ปลายข้าว ค่าสีข้าว รวม เจ็ดร้อยกว่าบาท  (วันนี้ยังไม่ได้ขายแกลบ)นับว่าดีมาก ๆ วันนี้ทำงานไม่ถึง 5 ชั่วโมง สีข้าวประมาณวันละ 20-30 กระสอบ หักค่าไฟแต่ละเดือนแล้ว อ้ายเวทย์จะมีรายได้เฉลี่ยเดือนละ หนึ่งหมื่นบาท ได้อยู่กับครอบครัว บ้านไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องซื้อ เลี้ยงครอบครัวได้สบาย  แบ่งให้ แม่ พ่อตา แม่ยาย ใช้อีกคนละ หนึ่งพันบาท(สามพันบาท) ทุกเดือน 

                       กลับบ้านมาก็อาบน้ำให้เด็ก ๆทุกตัว

                            ใช้ผงซักฟอกอาบน้ำให้

                                   มีเวลาทำนา

 

                               มีเวลาทำสวน

                     มีเวลาเกี่ยวหญ้าไปให้วัว

        ถ้าพ่อเวทย์อยู่ เด็ก ๆจะไม่กล้าขึ้นเล่นบนบ้านเพราะรู้ว่าโดนตีแน่ แต่ถ้าอยู่กับแม่แดง เด็กสามตัวจะรู้ว่าทำอะไรก็ได้ สบายอยู่แล้ว 

          14-16 ตุลาคม 2554 นี้ แดงกับอ้ายเวทย์จะไปอบรม ที่ศูณย์กสิกรรมธรรมชาติสองสลึง จังหวัดระยอง อยากเชิญชวนพี่น้องบ้านสวนไปอบรมด้วยกัน แดงกับอ้ายเวทย์อยากเจอทุกคนค่ะ

 

                                            โปรดติดตามตอนต่อไป.........


ความเห็น

ชื่นชม ชีวิตที่อยู่อย่างขยันทำประโยชน์แก่สังคม ชุมชน สีกระสอบละห้าบาทและอยู่ได้เดือนละหนึ่งหมื่นบาท เรียกได้ว่าเป็นที่พึ่งของชุมชนด้วยนะคะ

มีความสุขไปกับครอบครัวพี่แดงค่ะ อ่านทุกครั้งก็มีความสุขไปด้วยทุกครั้ง

วิถีการดำเนินชีวิตน่าอิจฉาที่สุด อยู่แบบพอเพียง แค่นี้ก็มีความสุขแล้วใช่มั้ยจ๊ะพี่แดง 


ค่าสี ๕ บาทถูกมากครับ แถวบ้าน ๑๐ ถึง ๑๕ บาทแล้ว

บอกให้สีข้าวกลัองก็ไ่ม่ค่อยยอมสีให้

พอเพียง พอเพียง

ถ้าอยู่ใกล้กัน สงสัยจะได้จากที่บ้านผมเดือนนึงหลายบาทนะครับ

ถ้าชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อ

E-mail : pinit25@hotmail.com

น้องแดง ๆ ดูลายมือให้น่ะ  ....ดูจากเส้นลายมือน้องแดงเป็นคนมีวาสนา  มีทรัพย์สินเงินทอง  ที่สำคัญสามีรัก  สามีหลง  (หลงจนกลับบ้านไม่ถูก)  เอิ้กกกกกๆๆๆๆ

:uhuhuh:

ดูมีความสุขดีจังนะคะ 


พ่อณัฐ ก็มีโรงสีเหมือนกัน อยู่ยโสธรโน่นแน่ะ  คนมาสีไม่เยอะขนาดนี้ หมู่บ้านเล็ก ๆ ได้เดือนละไม่กี่พัน


แต่ ..ก็ดีแล้วเพราะถ้าลูกค้าเยอะ พ่อคงทำไม่ไหว แก่แล้วลูกเอ้ยยยยย :sweating:  หนูว่างั้น

อะไรที่ไหน อันความงาม มีอยู่ตาม หมู่ซากผี อันความดี อยู่ที่ละ สละยิ่ง ความเป็นพระ อยู่ที่เพียร บวชเรียนจริง นิพพานดิ่ง อยู่ที่ตาย ก่อนตายเอย ฯ

พี่แดง, พี่เวทย์ น่ารักมาก ๆค่ะ


ชื่นชมแนวคิดในการทำงานที่ซื่อสัตย์ 


และมีน้ำใจเอื้อเฟื้อต่อเพื่อนบ้านค่ะ

ดีจังเลยค่ะ ไม่ต้องเครียด

รปภ.ก็น่ารักทุกตัวเลย   :love:

 

"แค่พอเพียง...ก็เพียงพอ"

หน้า