นกโอเลี้ยง

หมวดหมู่ของบล็อก: 

    สถานการณ์น้ำท่วมที่เป็นอยู่ขณะนี้ ปรุงอารมณ์ของใครต่อใครให้กระเจิดกระเจิง ไปคนละทิศ คนละทาง ตามปัจจัยที่มากระทบ

    ... กลุ่มหนึ่ง "ปลงตก" ด้วยรู้ เห็น เข้าใจตามความเป็นจริง

        ... กลุ่มหนึ่งแม้จะห่วงหวง “ของของกู” แต่ปลงตกเพราะจำยอมต่อสถานการณ์

             ... กลุ่มหนึ่งยังปลงไม่ได้ แต่จำยอมสละ “ของของกู” เพื่อรักษา “รักษาตัวกู” ไว้ก่อน

    .... อีกกลุ่ม ปลงไม่ได้ ไม่ยอมสละ “ของของกู” แถมลืมที่จะ “รักษาตัวกู” ไว้ก่อนซะอีก

    ยามสถานการณ์เช่นนี้ หากไม่คุมสติให้ดี  ความ ว้าวุ่น - หงุดหงิด - เซ็ง ของอารมณ์ เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา สัมปชัญญะ ก็จะขาดเตลิดกระเจิดกระเจิง ไปไหน ต่อไหน แล้วหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว ตั้งแต่ระดับ เล็ก ๆ น้อย ๆ จนถึงเรื่องใหญ่ เรื่องโต  ก็เป็นไปได้ ข้าพเจ้ามีอุทาหร ที่จะมาเล่าสู่กันฟัง เป็นการสังหารเวลานะครับ

        กาลละครั้งหนึ่ง ....

    วาระนั้นข้าพเจ้า ยังหนุ่มกว่านี้เยอะ .... มีกิจที่จะต้องไปร่วมประชุม ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

    ตอนนั้น การเดินทาง จากนครศรีฯ ไป สงขลา ยังไม่มีสะพานเปรมติณสูลานนท์ จึงต้องอาศัยข้ามด้วยแพขนานยนต์ ของกรมทางหลวง ระหว่างฝั่งหัวเขาแดง กับ ฝั่งแหลมทราย ซึ่งหากวันใดแพฯ มีปัญหา โดยเฉพาะ ช่วงเช้า หรือเย็น ที่มีผู้ใช้บริการเยอะ ๆ ... รถยนต์ ที่จะใช้บริการ ต้องต่อแถวกันยาว กว่ากิโลเมตร และเดินหน้าไปได้ครั้งละ ไม่กี่เมตร ตามขนาดของรถ ข้างหน้าที่ลงแพฯ ไปได้แล้ว

    เรื่อง .... เกิดขึ้นเมื่อรถของเรา (ในรถนั่งกัน 3 คน รวมสารถี) เลื่อนตำแหน่งมาอยู่หน้าท่าแพ ซึ่งมีเยาชนที่เป็นบุตรหลาน ของคนในชุมชนใกล้ ๆ นั้น มาเดินเร่ขายของ มีทั้งขนม ผลไม้เปรี้ยว - หวาน ไว้ให้ผู้ที่มารอลงแพฯ ขบเคี้ยว แก้เซ็ง เด็ก ๆ เดินไป ก็ร้องบอกไป ว่าตนขายอะไรบ้าง

    และแล้ว ... เด็กผู้หญิง วัยประมาณ ไม่เกิน 15 ขวบ คนหนึ่ง เร่ขายของมา พร้อมเสียงร้อง ...

        “ไข่นก โอเลี้ยงงงง .... ค่าาาา....ไข่นก โอเลี้ยงงงง .... ค่าาาา....”

    อาจเป็น เพราะรอมานานจนอารมณ์ กระเจิดกระเจิง - เซ็ง จนล้น .... เมื่อเด็กมาใกล้ เพื่อนของข้าพเจ้า ก็เอื้อมมือ ... ไขกระจกลง(สมัยนั้นไม่มีกระจกไฟฟ้า) พร้อมชะโงกหน้าออกไปนอกหน้าต่างรถ ...

    “หนุ่ย ๆ ...” เขาเรียก แล้วเอ่ยต่อด้วยภาษาไทยถิ่นใต้ “นกโอเลี้ยง ตัวพันพรือ หะ ?” ....

    ก็ได้รับคำตอบจากแม่ค้าตัวน้อย สวนมาทันควัน

        “ตัวดำ ๆ เหมือนลุงนี่ แหละ !”

    ไม่มีเสียงต่อปากจากเพื่อน แต่อากัปที่ตอบสนอง คือ ดึงหัวผลุบเข้ามาในรถปานโดนกระชาก หมุนกระจกขึ้น จนข้าพเจ้ากลัวแขนหมุน ขึ้น - ลง กระจกจะหลุด หรือหัก ... คอตั้ง หน้าตรง มองไปข้างหน้า

    .... เสียงหัวเราะ แว่วเบา ๆ มาจากสารถี ....

       “ฮึ ๆ ๆ ...” เป็นเสียงที่ดังอยู่ในลำคอข้าพเจ้า พร้อมหันหน้าไปพยักพเยิด ... ก่อนจะเปล่งเป็นสำเนียงฟังได้ศัพท์ ออกมา “กลับไป เรามีอาชีพใหม่แล้วนะ”

    “อาชีพ ไหรหลาว” ... เสียงยังไม่ตกตะกอน จากเพื่อน

        “ไข(ออกไข่)มาขาย โหม(กลุ่ม)เด็กหัวเขาแดง” ... ข้าพเจ้าวิสัชนา ปนเสียงหัวเราะ “กะ(ก็) บนรถ มีนกโอเลี้ยงตั้งสองตัว ต่างคน ต่างไข แล้วรวมมาขาย  ... เรียกว่า แยกกันผลิต ร่วมกันจำหน่าย ... แค่น(ฝืน)ได้นะ” ข้าพเจ้าจาระไน

    แล้วก็ได้รับเสียงตอบ ปนหัวเราะจากเพื่อน สั้น ๆ

                   บ้าาาา ... !

ความเห็น

:uhuhuh: :uhuhuh: :uhuhuh: :uhuhuh: :uhuhuh:


ขยายพันธุ์ไว้เยอะมั๊ยคะ

   ถ้าสองตัวนี้ตาย สา ๆ อีเหม็ดพันธ์แล้ว หลานแจ้วเหอ

55555555555 อ่านตั้งนาน มาขำเอาอีตอน นกโอเลี้ยงตัวดำๆนี่แหล่ะ เข้าใจหาเรื่องมาเล่าเนาะ

:uhuhuh: :uhuhuh: :uhuhuh:

   ไม่เคยได้ยินริไง ?

      คนแก่ชอบเล่าความหลัง ฮุ ๆ ๆ ...

:uhuhuh: กลุ่ม  1-3  เอาตัวรอดได้อยู่  แต่อีกกลุ่มคงบอกและแนะนำไม่ได้  แต่พอเจอเข้าจริงก็มัววุ่นวายโทษคนอื่น  ว่าไม่บอกไม่เตือนสรุปแล้ว  "กูไม่ผิด"

  ฮึ ๆ ๆ ๆ ... !

 ขอบคุณครับสำหรับเรื่องเล่าดีๆ

  ด้วยความยินดีครับ

เด็กขายของนี่ปากมันร้ายนะครับ:uhuhuh: :uhuhuh:

   ลุงว่า ... เด็กเขาปกป้องสิทธิ ที่ถูกละเมิดโดยผู้ใหญ่มากกว่า นะ

       ก็สมน้ำ สมเนื้อดี ครับ

          ฮุ ๆ ๆ ....

หน้า