ต้นไม้ในอาขยาน

หมวดหมู่ของบล็อก: 

 ตอนเด็กๆสมัยเรียนอยู่ชั้นประถม ครูจะสอนให้ท่องอาขยาน จำไม่ได้แล้วว่า ป.อะไร ท่องบทไหน แต่บทที่จะมานำเสนอนี้เป็นบทที่เกี่ยวกับเรื่องรามเกียรติ ทุกวันนี้ยังท่องได้ ไม่ลืม ใครเคยท่องบ้างโปรดแสดงตัวด้วย(หาเพื่อน) คนรุ่นใหม่มีท่องแบบนี้บ้างไหมน้อ

บัดนั้น                           พระยาพิเภกยักษี

เห็นพระองค์ทรงโศกโศกี    อสุรีกราบลงกับบาทา

ทูลว่าพระลักษณ์สุริยวงศ์     ยังไม่ปลงชีวังสังขาร์

อันโมกขศักดิ์อสุรา            พรหมาประสิทธิ์ประสาทไว้

ทรงอานุภาพฤทธิรุทร         ต้องใครจะฉุดนั้นไม่ไหว

แต่มียาคู่หอกชัย               ให้ไว้สำหรับแก้กัน

แม้นละไว้จนรุ่งราตรี           ต้องแสงพระระวีจะอาสัญ

ขอให้ลูกพระพายเทวัญ      ไปห้ามพระสุริยันในชั้นฟ้า

อย่าเพ่อรีบรถบทจร           ข้ามยุคลธรภูผา

แล้วให้ไปเก็บตรีชวา          ทั้งยาชื่อสังขรณี

ยังเขาสรรพยาบรรพต         ปรากฏอยู่ยอดคีรีศรี

กับปัญจมหานที               สรรพยาทั้งนี้มาให้ทัน

แม้นว่าได้บดชโลมลง         องค์พระอนุชาไม่อาสัญ

จะดำรงคงชีพชีวัน             หอกนั้นก็จะหลุดขึ้นมา

 จะเห็นว่าในบทอาขยานบทนี้มีชื่อสมุนไพรอยู่สองต้น คือ ตรีชวา และ สังขรณี

ทีนี้วันก่อน ผมเข้าไปในสวนเฉลิมพระเกียรติ ก็ไปเจอกับต้นไม้ที่มีชื่อคุ้นทั้งสองต้น

ก็เลยนึกย้อนอดีตได้ว่า ชื่อนี้มีอยู่ในอาขยานบทหนึ่ง จึงนำมาถ่ายทอดให้สมาชิกบ้านสวนพอเพียงได้ชมกัน

ต้นนี้สังกรณี

ต้นนี้ตรีชวา

จะเห็นว่าทั้งสังกรณี(ในอาขยานเรียกว่า"สังขรณี") และตรีชวา มีคุณสมบัติในการแก้ อาการอักเสบ และสมานแผล ซึ่งสอดคล้องกับเนื้อเรื่อง การแต่งบทกลอนจึงไม่ใช่แต่งแบบมั่วๆเพียงแค่ให้คล้องจองกันเท่านั้น แต่ต้องอิงข้อเท็จจริงด้วย

ความเห็น

อันนี้อยู่ ป. อะไรไม่รู้จำไม่ได้แล้ว แต่จำได้จนขึ้นใจ

ถึงฤกษ์งามยามปลอดคลอดง่ายดาย          ลูกนั้นเป็นชายร้องแว้แว้
พี่ป้าน้าอามาดูแล                              ล้างแช่แล้วก็ส่งให้แม่นม    
ทาขมิ้นแล้วใส่กระด้งร่อน                     ใส่เบาะให้นอนเอาผ้าห่ม  
ปู่ย่าตายายสบายชม                           เรือนผมน่ารักดังฝักบัว
เอาขึ้นใส่อู่แล้วแกว่งไกว                      แม่เข้านอนไฟให้ร้อนทั่ว  
เดือนหนึ่งออกไฟไม่หมองมัว                  ขมิ้นแป้งแต่งตัวน่าเอ็นดู  
พ่อแม่ปรึกษากับย่ายาย                       จะให้ชื่อหลานชายอย่างไรปู่
ฝ่ายตาตะแกเป็นหมอดู                        คิดคูณเลขอยู่ให้หลานชาย  
ปีขาลวันอังคารเดือนห้า                        ตกฟากเวลาสามชั้นฉาย  
กรุงจีนเอาแก้วอันแพรวพราย                  มาถวายพระเจ้ากรุงอยุธยา
ให้ใส่ปลายยอดพระเจดีย์ใหญ่                 สร้างไว้แต่เมื่อครั้งเมืองหงสา  
เรียกวัดเจ้าพระยาไทยแต่ไรมา                ให้ชื่อว่าพลายแก้วผู้แววไว

พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า 

ป้าเล็กท่องอันนี้

  จะกล่าวถึงพลายแก้วแววไว     เมื่อบิดาบรรลัยแม่พาหนี

ไปอาศัยอยู่เมืองกาญจน์บุรี    กับนางทองประศรีผู้มารดา

โดยเฉพาะบทนี้ 

๏ มัสมั่นแกงแก้วตา         หอมยี่หร่ารสร้อนแรง
ชายใดได้กลิ่นแกง          แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา
๏ ยำใหญ่ใส่สารพัด         วางจานจัดหลายเหลือตรา
รสดีด้วยน้ำปลา             ญี่ปุ่นล้ำย้ำยวนใจ
๏ ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม    เจือน้ำส้มโรยพริกไทย
โอชาจะหาไหน             ไม่มีเทียบเปรียบมือนาง
๏ หมูแนมแหลมเลิศรส      พร้อมพริกสดใบทองหลาง
พิศห่อเห็นรางชาง           ห่างห่อหวนป่วนใจโหย
๏ ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น         วางถึงลิ้นดิ้นแดโดย
รสทิพย์หยิบมาโปรย         ฤๅจะเปรียบเทียบทันขวัญ

จะปลูกต้นไม้ในใจเธอ


เรื่องกินทั้งนั้นเลยนะ น่าอร่อยๆทั้งนั้นเลย หุหุ

พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า 

เรียกง่ายๆ ว่าคนตะกละจ้ะ

จะปลูกต้นไม้ในใจเธอ


พูดตรงไปป่าว

จริงครับป้าเล็ก ผมเป็นคนชอบกิน ชอบชิม แล้วก็ชอบลองทำอาหาร แต่ไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไรนัก ติดนิสัยมาจากแม่ครับ เวลาใครมีงานมักจะมาตามแม่ไปคุมโรงครัว แล้วเวลาไปกินข้าวนอกบ้าน แม่มักจะกลับมาลองทำ ไม่ได้พูดโม้นะครับ แม่เป็นประเภทที่กินอะไรแล้วจะรู้ว่าเขาใส่เครื่องปรุง เครื่องเทศอะไรบ้าง ผมก็ชอบเป็นลูกมือในครัว

จะปลูกต้นไม้ในใจเธอ


ถ้าเดาออกเกือบหมด  แล้วก็จำเก่ง นะ  ไปกินนอกบ้านเสร็จ  ก็จำมาเป็นเมนู   คนทำกับข้าวนี่บางทีไม่รู้จะทำอะไรดีนะ  ยิ่งป้าเล็กนี่พ้นเลย  เพราะชอบกินอาหารซ้ำๆ  ลุงไม่ชอบ  แกเลยชอบทำเอง  ป้าเล็กก็เป็นลูกมือ   พอแกไม่อยู่ก็ไม่ค่อยทำ

ผมกับแฟนทำอาหารเฉพาะวันเสาร์ - อาทิตย์ ครับ เวลาคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรกินดี ก็ใช้ Internet นี่แหละครับเป็นตัวช่วย

จะปลูกต้นไม้ในใจเธอ


ขุนช้างขุนแผน ตอนกำเนิดพลายแก้ว ดวงก็เคยท่องค่ะพี่จันทร์ สงสัยว่าเราจะรุ่นเดียวกัน ยังไม่แก่เหมือนกัน

หน้า