ซีรีย์..ความพอเพียง..เพื่อเพียงพอ # 17 หาบข้าวเข้าลาน
บล็อกนี้ใกล้จะจบขั้นตอนการทำนาปีนี้แล้ว วันนี้ก็เช่นเคยลงแขกกันหาบข้าว คนเยอะงานก็เสร็จไวยิ่งขึ้น แม้จะหนักและเหนื่อย ชาวนาจำเป็นแบบผมก็ต้องทน ปีนี้รู้ซึ้งกับคำว่า "หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน" แล้วว่ามันหนัก มันเหนื่อย แค่ไหนกับการทำนา แต่ก็ดีใจที่ได้ทำครับ
ภาพการหาบด้วยไม้คานหลาว เดี๋ยวนี้หาดูยากมาก ๆ ครับ ปีนี้ได้ใช้เพราะที่นามีน้ำรถลงขนไม่ได้ ย้อนยุคเลยครับ
ไม้คานหลาว เป็นไม้ไผ่ที่เหลาให้มีปลายแหลม ๆ 2 ด้านเพื่อใช้หาบข้าวจากในแปลงนาขึ้นมาไว้ที่ลาน ของแบบนี้เริ่มเลือนหายไปกับกาลเวลาแล้วครับ แต่ที่นายังได้ใช้อยู่
ผมจัดการดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ใช่เทคโนโลยีเข้าช่วยไม่ให้เจ็บบ่า ฮ่า ๆๆๆ รองเท้าแตะรองกันเจ็บบ่าได้อย่างดีเยี่ยมครับ
ลานข้าวสมัยใหม่ ใช้ตาข่ายสีฟ้าแทน เมื่อก่อนลานจะเป็นพื้นดินที่ทาด้วยขี้ควายเพื่อให้เรียบ ๆ เปลี่ยนไปตามกาลเวลาเช่นกัน
คนงานเยอะ 2 คนช่วยกันเสียบมัดข้าวใม้คานหลาว ถ้าคนงานน้อย ๆ จะใช้ไม้ 3 ขาวางคานหลาวแทน เดี๋ยวนี้ไม้ 3 ขาก็เริ่มหาดูยากแล้วครับ
หาบ ๆ ทั้งไม้คานได้ประมาณ 20 มัดสำหรับผมสบาย ๆ เพราะมีตัวช่วยรองบ่า เวลาหาบข้าวมีข้อแม้ห้ามวางโดยเด็ดขาด ไม่งั้นข้าวจะร่วงออกจากรวง ฉนั้นคนที่หาบต้องคำนึงถึงกำลังและระยะทางที่จะหาบไปถึงลานด้วยไม่งั้นไหล่ทรุดกว่าจะถึง ฮ่า ๆๆๆ
อีกแบบ แบบนี้เรียกว่าแบกครับ วางมัดข้าวแล้วแบกใส่บ่าครับ ถนัดใครถนัดมัน
หลาน ๆ ก็มาช่วยเอาตามกำลัง ข้างละ 4-5 มัดก็หนักแล้วครับ
สุดท้ายหาบข้าวเหนียวดำพี่หยอย ไปไว้ที่เถียงนา (กระท่อม) เพื่อตีครับ สรุปได้ทั้งหมด 12 มัด
ไม่นานข้าวทั้งหมดก็ขึ้นมาอยู่บนลาน ปีนี้ได้ไม่มากครับข้าวล้มไม่ได้เต็มที่ งามเกินเหตุ
รวงข้าวสีทอง ปลอดสารพิษจากนาข้าวที่ทำมากับมือ สะท้อนแสงแดดยามเย็น
มือน้อย ๆ ของลูกสาวยื่นมือมาถามว่า เขาเรียกว่าข้าวอะไร พ่อตอบว่า "ข้าวเปลือกลูก"แล้วลองแกะดูซิลูก
ไม่นานลูกสาวตัวน้อยก็จดจ้องกับเมล็ดข้าวเปลือกแล้วบรรจงแกะ เมล็ดข้าวเปลือกอย่างตั้งใจ
แล้วมือน้อย ๆ ข้างเดิมก็ยื่นมาตามว่า "แบบนี้ใช่ไหมพ่อที่เขาเรียกข้าวสารนะพ่อ" พ่อตอบ "ใช้แล้วลูก"
แล้วคำตอบก็ปรากฎขึ้นในเด็กตัวเล็ก ๆ"แบบนี้ใช่ไหมพ่อที่เขาเอาไปหุงแล้วมาเป็นข้าวสวยในจานเมล็ดสีขาว" ๆ "ใช่แล้วลูก" พ่อตอบ
ปีนี้การทำนาเพื่อให้ได้ข้าวไว้บริโภคในครัวเรือน ก็เป็นจุดประสงค์หลัก แต่จริง ๆ แล้วสิ่งที่ผมตั้งใจที่สุดก็คือการทำนาให้ลูกสาวได้เห็นถึงข้นตอนการทำ เห็นถึงความยากลำบากที่กว่าจะมาเป็นเมล็ดข้าวสีขาว ๆ สิ่งนี้เป็นผลพลอยได้ ที่แอบซึมซับความลำบากของอาชีพชาวนา ซึ่งเป็นบทเรียนที่ผมได้สอนลูกสาวตัวน้อย ของผมผ่านการปฏิบัติจริง ถ้าทุกคนสังเกตุ การทำนาแทบทุกบล็อกที่ผมนำเสนอไปนั้น ลูกสาวก็จะได้เห็น ได้ลงมือทำไปด้วย แม้จะไม่ได้ช่วยอะไรมากมาย (อาจจะยุ่งเสียมากกว่า) แต่ผมว่าสิ่งนี้ต่างหากคือความคุ้มค่าของการทำนาในปีนี้ของผม
การจะสอนเด็กด้วยวิธีการบอกเล่า ไม่เห็นภาพ ให้เด็ก ๆ จินตนาการ เอาเอง ยังไงก็ไม่เท่ากับการปฏิบัติจริง โรงเรียนชีวิตแบบความพอเพียงห้องใหญ่แห่งนี้ที่มี พ่อ-แม่ เป็นครู เป็นแบบอย่างให้ลูกเห็น ผมเองก็แอบคาดหวังไว้ว่าอย่างน้อย ๆ สิ่งเหล่านี้จะซึมซับเข้าไปในตัวลูกสาวของผมบ้างไม่มากก็น้อย แต่สิ่งที่เป็นผลตอบแทนได้จริง ๆ ซึ่งจับต้องได้ครอบครัวเราก็มีผลผลิตที่มาจากหยาดเหงื่อ แรงงาน กินข้าวแต่ละคำก็มาจากความภูมิใจ ในสิ่งที่ได้ลงมือทำทั้งครอบครัว แม้ผลผลิตที่ได้มาจะไม่มากมายอะไร แต่ก็เพียงพอที่ไว้กินได้ตลอดทั้งปี นี้แหละครับความสุขเล็ก ๆ ของผมกับคำว่า "ชาวนา"
จะพอเพียง....เพื่อเพียงพอ...ให้ได้ในสักวัน
โปรดติดตามตอนต่อไป...wisit_photo@hotmail.com
- บล็อกของ วิศิษฐ์
- อ่าน 8889 ครั้ง
ความเห็น
แดง อุบล
24 พฤศจิกายน, 2011 - 09:30
Permalink
Re: ซีรีย์..ความพอเพียง..เพื่อเพียงพอ # 17 หาบข้าวเข้าลาน
ปีนี้อ้ายเวทย์ก็ทั้งหาบทั้งแบก ได้ข้าวน้อยเหมือนกัน
"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"
สาวภูธร
24 พฤศจิกายน, 2011 - 14:41
Permalink
Re: ซีรีย์..ความพอเพียง..เพื่อเพียงพอ # 17 หาบข้าวเข้าลาน
ขยันจริง ๆ เลย :cheer3: :cheer3:
หน้า