สร้างสวนป่า 11
สร้างสวนป่า 10
หลังจากว่างเว้นมาเดือนกว่าๆ ก็ได้เวลามาเล่าสู่กันฟัง ความก้าวหน้า ถอยหลัง ของสวนป่าของผม
เริ่มต้น ใส่ปุ๋ยน้ำหมักสีอำพัน ให้กับต้นไผ่ในสวนยาง
การทำน้ำหมักสีอำพัน ให้ใส่น้ำตาล และน้ำหมักเล็กน้อยใส่ถังไว้
หลังจากนั้นก็วางถังไว้ในห้องน้ำ หรือห้องไหนๆ
ปวดฉี่เมื่อไหร่ ก็ จัดการได้เลย
ต่อไป การบ้าน อะโวกาโด จาก โจ
สองต้น ในถุงดำ
การบ้านจาก สร ย่านาง
เอาน้ำหมักเปลือกมังคุด ไปให้ สร สร ก็ให้ ย่านาง ที่เพาะในขวด
ผมก็เอามาแยกใส่แก้วนมเปรี้ยว ได้หลายต้นอยู่ครับ
วันก่อนไปเก็บผลหม่อน มาทำน้ำหมัก ได้ดี
คราวนี้เลยตัดกิ่งไปปักชำ จะเอาไปปลูกในสวนป่า
คงปลูกได้อีกหลายปี เอาใบมาทำ ชาใบหม่อน ผล ก็ทำน้ำหมัก
อยู่ในถุงสีแดง และสีขาวด้านหน้า
เคล็ดลับการปักชำในถุงดำ ผมจะใส่ถุงกรอบแกรบเอาไว้ เวลารดน้ำ
น้ำจะขังอยู่ในถุงกรอบแกรบ หากผมไม่อยู่หลายวัน ความชื้นยังพอมี
เมล็ดเตียน ที่เพาะไว้เริ่มงอก ฝนหน้า คงโตพอที่จะปลูกได้
ถุงเพาะก็ใส่ในถุงกรอบแรบเหมือนเดิม
ข้อดีอีกอย่างคือ เวลาจะขนไปปลูกก็หิ้วไปได้เลย ไม่ต้องหาถุงมาใส่ใหม่
ลูกเตียน เป็นผลไม้ชนิดเดียวกับ สะท้อน เคยเขียนลงในนี้แล้ว
ต้นประ ที่เพาะไว้ ก็เริ่มงาม ฝนหน้าคงได้ปลูกอีกแปลง
ต้นประ ถ้าจะให้ดี เอาเมล็ดไปปลูกในหลุมปลูกเลยจะดีกว่าการเพาะในถุง
กล้า พยอม ถอนต้นมาจากอำเภอ ตามคำชี้แนะของ สร
ต้นอ้อยแดง (บางคนบอกว่า อ้อยดำ เพราะสีเข้ม) ปลูกไว้ในสวนป่า
เอามาต้มน้ำกินได้ เป็นยาสมุนไพร แก้อะไรไม่รู้
ตอนนี้ เริ่มเข้ามาในสวน (ก่อนนี้อยู่แถวเรือนเพาะชำ)
ต้นกล้วย ล้มไปแล้ว 2 ต้น เดิมอยู่ในที่ค่อนข้างร่ม ต้นเลยสูงใหญ่
แต่พอโค่นยางออกมาทำสวนป่า ก็กลายเป็นที่โล่ง
ไม่มีที่กำบังลม พอลมฝนมา ทานน้ำหนักไม่ไหว ก็ต้องล้มลง
ต่อไปคงจะต้องปลูกไผ่เสริมเป็น wind brake
ขวามือ หลังกอ กล้วย เป็นโรงปุ๋ย ทำปุ๋ยหมัก และน้ำหมัก
ระหว่างแถว ห่างกัน 4 เมตร ก็ลงสับปะรด มี 2 พันธุ์ คือ พันธุ์ภูเก็ต และปัตตาเวีย
เอากันง่ายๆก็คือ สับปะรดภูเก็ต กับ มะลิพัทลุง
ข้าวโพดสีม่วง สั่งเมล็ดมาจาก สระบุรี
พอโตขึ้นคงจะแดงมากกว่านี้
ต่อไป ต้นไม้ยืนต้นที่กำลังงามๆ
ต้นแรก ไม้แดง
อายุ 2 เดือน ให้กินแห้งชาม น้ำชาม (น้ำหมัก + ปุ๋ยหมักชีวภาพ)
ต้นจำปาทอง
จำปาทอง อยู่ในดงกล้วย
ได้เวลาเอนหลังแล้ว ผู้เฒ่าขอตัวก่อน แล้วจะมา update ครับ
- บล็อกของ ลุงพูน
- อ่าน 10590 ครั้ง
ความเห็น
RUT2518
25 พฤศจิกายน, 2011 - 14:45
Permalink
Re: สร้างสวนป่า 11
ติดตามผลงานลุงอยู่นะครับ และจะคอยติดตามตลอดไปครับลุง
ลุงพูน
25 พฤศจิกายน, 2011 - 14:51
Permalink
Re: สร้างสวนป่า 11
ขอบคุณครับ ตอนนี้ผมติดฝน ทำอะไรได้ไม่มากครับ แต่ก็พยายาม เอาภาพมาเขียนประกอบความคิดเห็นเรื่อยๆครับ
สมจิต
25 พฤศจิกายน, 2011 - 14:48
Permalink
Re: สร้างสวนป่า 11
ลุงพูนผลงานมากจริงค่ะแค่คนดูยังจำไม่ไหวเลยค่ะ
ลุงพูน
25 พฤศจิกายน, 2011 - 14:52
Permalink
Re: สร้างสวนป่า 11
อย่าว่าแต่คนเข้ามาอ่านเลยครับ ผมคนปลูกเองบางทีก็ต้องใช้เวลาในการนึกชื่อต้นไม้ ครับ
ลุงพูน
25 พฤศจิกายน, 2011 - 14:53
Permalink
Re: สร้างสวนป่า 11
.
แม่น้องน้ำหนึ่ง
25 พฤศจิกายน, 2011 - 14:51
Permalink
Re: สร้างสวนป่า 11
ยานาง ปลูกที่ไรก็ไม่รอดทุกที ลุงเก่งจังเพราะขึ้นเต็มเลย
แรงกาย+แรงใจ ลงมือทำในวันนี้ เพื่อชีวิตที่พอเพียง
ลุงพูน
25 พฤศจิกายน, 2011 - 14:55
Permalink
Re: สร้างสวนป่า 11
คุณสร เขาเพาะไว้ครับ แล้วเอามาให้ผม ผมก็เอาลงแก้วนมเปรี้ยว ให้โตกว่านี้หน่อยค่อยลงดินครับ
teerapan
25 พฤศจิกายน, 2011 - 15:28
Permalink
Re: สร้างสวนป่า 11
ตามมาชมสวนป่า ท่าทางผมต้องทำ Wind Brake แบบลุงพูนบ้างต้นกล้วยล้มไปหลาย :shy:
:confused: แต่สงสัยจริงๆ ว่าทำไมต้นกล้วยที่ปลูกในที่โล่งๆ ในสวนถึงได้ล้มน้อยกว่าต้นกล้วยที่ปลูกแซมในฝั่งที่ปลูกผลไม้ หรือมีต้นไม้จะทำให้ลมระหว่างต้นแรงกว่าที่ไม่มีต้นไม้
“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison
ลุงพูน
25 พฤศจิกายน, 2011 - 20:05
Permalink
Re: สร้างสวนป่า 11
Wind Brake น่าจะใช้ไผ่ครับ ไผ่รวก ใบเล็กๆ ย่อยสลายได้ง่าย เป็นปุ๋ยบำรุงดิน ลำใช้ทำค้าง
การล้มของต้นกล้วย ของผม เนื่องจากบริเวณนั้น ปลูกยางมาก่อน กล้วยปนอยู่กับยาง ทำให้ต้นสูง แต่พอโค่นยางออก ลมพัดมาต้นกล้วยต้านลมไม่ไหว เลยล้ม
ในแปลงนี้ ผมก็ปลูกกล้วยลงไปใหม่ ต้นจะไม่โตมากนัก เนื่องจากได้รับแสงตามปกติ (ปลูกในสวนยาง ได้แสงน้อยกว่า ต้นกล้วยเลยต้องยืดตัว)
teerapan
25 พฤศจิกายน, 2011 - 20:53
Permalink
Re: สร้างสวนป่า 11
:ahaaah: ลุงพูนพูดถูก.. ต้นกล้วยในบริเวณที่ปลูกต้นไม้จะสูงกว่า ต้นกล้วยที่ปลูกในที่โล่ง น่าจะเป็นเพราะเหตุนี้ทำให้มันล้มเยอะกว่าในบริเวณที่ปลูกต้นไม้ งั้นผมต้องศึกษา Wind Brake แบบของลุงพูนดู
ขอบคุณมากครับ :cute2:
“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison
หน้า