สะสมอาหารไว้ยามขาดแคลน
ช่วงนี้วันหยุด ฝนตก อากาศเริ่มเย็น อยู่บ้านว่างๆ ไม่มีไรทำก็ออกไปเก็บฟักแม้วมาอัดขวดโหลไว้ทาน เวลาหมดหน้าจะได้มีฟักแม้วทาน
*****
เปิดน้ำใส่อ่างล้างจานให้ท่วมลูกฟัก หรือจะใช้กาละมังใหญ่ๆก็ได้ค่ะ เท่าที่หาได้สะดวกในครัวเรือน แล้วจัดการฝานเปลือกออก ผ่าครึ่ง แล้วล้างยางออกให้สะอาด ซึ่งการผ่าในน้ำแบบนี้ จะช่วยให้ยางไหลออกมากับน้ำ ไม่ติดมือ
*****
ผ่าเป็นซีกๆ แล้วผึ่งลมให้เหมือดน้ำ
*****
แล้วก็เอามาเรียงใส่ขวดโหลแก้ว ที่สะอาด ทีละชิ้น แบบนี้ค่ะ ห้ามใส่จนล้นขวดนะค่ะ ต้องเผื่อไว้ที่คอพอดี
*****
นำน้ำประปาที่สะอาดมาต้มให้เดือดนาน ประมาณ15 นาที เป็นอย่างน้อย เพื่อลดปริมาณคอลีนในน้ำประปาให้หมดไป (ห้ามใช้น้ำฝน เพราะฟักจะเน่า) ส่วนตัวแล้วไม่ชอบแบบดอง เพราะจะเอามาทำอาหารอย่างอื่นไม่ได้ อ๊อดไส่เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ ในน้ำเดือดๆค่ะ ก่อนปิดไฟ เมื่อเราชิมดูแล้ว รสชาติจะเจือจางมากๆค่ะ แต่ก็ยังมีรสเค็มหน่อยๆ แต่ไม่เข้มข้นมากนัก ในน้ำประมาณ 2 แกลลอน
*****
แล้วก็ใช้แก้วที่มีหู ตักน้ำที่ต้มสุกแล้ว เทลงไปในขณะที่ยังร้อนๆอยู่ ไม่ต้องรอให้เย็น เทใส่ให้ท่วม แต่ไม่ล้นขวดนะค่ะ
*****
แล้วก็จัดการเอาไปต้ม เพื่อปิดผนึก ไล่อากาศออกให้หมด เหมือนการอัดแยมลงขวด ซึ่งเป็นวิธีการถนอมอาหารที่ผ่านการรับรองจาก องค์การอาหารและยา US FDA ของสหรัฐอเมริกา แล้วค่ะ ว่าวิธีนี้ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค ในระดับครัวเรือน
*****
เพียงเท่านี้ก็จะได้ฟักแม้วเก็บไว้ทานในช่วงที่ไม่มีผลผลิตแล้วค่ะ โดยรสชาตินั้น ยังคงเดิม สามารถเอามาแกง ต้มจิ้มน้ำพริก หรือทำอาหารอื่นๆได้ตามปกติ โดยที่ไม่ต้องเอาไปยัดไว้ในช่องแช่แข็ง
ส่วนตัวแล้ว จะเก็บผักผลไม้แช่แข็งไว้ทานเป็นบางอย่างเท่านั้นค่ะ และเคยเอาฟักแม้วเนี่ยไปแช่แข็งไว้ พอมันหายแข็งแล้วฟักแม้วเละๆ เนื้อฟักเป็นฝ่อๆ ไม่อร่อยเลยค่ะ ก็เลยใช้วิธีนี้ดู พอเปิดขวดออกมา ฟักยังแข็ง กรอบเหมือนเดิมคะ สามารถเอาไปแกงจืดได้เลย ไม่เละ
และเก็บไว้ทานได้ ปีต่อปีนะค่ะ อย่าเก็บไว้นานกว่านี้นะค่ะ เพราะไม่ได้ไส่สารกันบูด และปริมาณของเกลือที่ไส่ลงไป น้อยมากๆ
******
วิธีนี้ น่าจะช่วยเพื่อนๆหลายคน ที่มีผักผลไม้เยอะๆ ทานไม่ทัน น่าจะลองเก็บไส่ขวดถนอมไว้ทานเวลาขาดแคลนดูบ้างนะค่ะ
และยิ่งไกล้เวลาน้ำท่วม อาหารขาดตลาด โดยเฉพาะคนเมือง ถ้ามีอาหารกักตุนไว้แบบนี้ ก็น่าจะเป็นอีกหนทางนึงที่จะช่วยให้คุณได้ทานผักปลอดสารที่คุณปลูกเองนะค่ะ
***************
อย่างอื่นก็ทำได้ค่ะ เช่น แครอท, ถั่วต่างๆ หน่อไม้, ผลไม้ ฯลฯ นึกไม่ออกแล้วค่ะ สงสัยอะไรถามหลังไมค์ได้ค่ะ
*****
หมายเหตุ : เมื่อแพคใส่ขวดเสร็จแล้ว ไม่ต้องเอาเข้าตู้เย็นนะค่ะ สามารถเก็บเรียงไว้ในห้องเก็บของ ใต้บันได ห้องครัว ชั้นวางของในบ้าน หรือในโรงรถก็ได้ค่ะ อย่าให้โดนแสงแดด เมื่อจะทานก็เอามาเปิดทานทีละขวด หรือตามจำนวนคนในครอบครัว เมื่อเปิดแล้วใช้ประกอปอาหารไม่หมด ให้นำเข้าตู้เย็น และนำมาปรุงอาหารให้หมดภายใน 1 สัปดาห์ หากใช้ไม่หมด ต้องทิ้งอย่างเดียวค่ะ เพราะแบคทีเรียจับแล้ว
*********
- บล็อกของ oddzy
- อ่าน 10545 ครั้ง
ความเห็น
ด้องแด้งรีเทิร์น
27 พฤศจิกายน, 2011 - 14:10
Permalink
Re: สะสมอาหารไว้ยามขาดแคลน
ดีจังค่ะ
ดูสะอาดน่ากินมากค่ะ
คนจน ทำจน อาจรวย
คนจน ทำรวย ยิ่งจน
คนรวย ทำรวย อาจจน
คนรวย ทำจน ยิ่งรวย
papen
27 พฤศจิกายน, 2011 - 14:14
Permalink
Re: สะสมอาหารไว้ยามขาดแคลน
ยอดเยี่ยมจัง :good-job:
ป้าต่าย
27 พฤศจิกายน, 2011 - 14:44
Permalink
Re หนูอ๊อด
สงสัย...บ้านเราอากาศร้อนชื่น...ถ้าทำแบบนี้แล้วไม่เอาไว้ในตู้เย็นจะเสียไหม ( ขอแก้คำผิดนิดหนึ่ง ใส่ ใช้ไม้ม้วนคะ ) อาทิตย์ที่แล้วป้าดองมะขามป้อม ตอนนี้ขึ้นเป็นราสีขาวๆ ไม่รู้กินได้ไหม...
คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก
oddzy
28 พฤศจิกายน, 2011 - 01:02
Permalink
ป้าต่าย
ถ้าหากว่าภาชนะที่นำมาบรรจุ เราล้างให้สะอาด ต้มฆ่าเชื้อนานตั้งแต่ 15 นาทีขึ้นไป ด้วยอุณภูมิ 100 องศา และปิดผนึก อากาศเข้าออกไม่ได้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหานะค่ะป้าต่าย เพราะแบคทีเรียต่างๆ อาศัยอากาศในการหายใจ
มะขามป้อมดองป้าต่ายขึ้นรา เพราะอากาศเข้าได้ ต่อให้อยู่ในตู้เย็นก็ราขึ้นค่ะ ถ้าที่ใดมีอากาศ ถ้าขึ้นราแล้ว ทิ้งไปเลยค่ะ อย่ากินเลย อันตราย
สมจิต
27 พฤศจิกายน, 2011 - 15:42
Permalink
Re: สะสมอาหารไว้ยามขาดแคลน
หนึ่งแกลลอนมีกี่ลิตรคะ เผื่อลองทำอย่างอื่นดูค่ะ
oddzy
28 พฤศจิกายน, 2011 - 01:26
Permalink
คุณสมจิต
ปริมาณน้ำจะใช้ไม่ตายตัวก็ได้ค่ะ เอาปริมาณพืชผักของที่เราต้องการจะยัดโหลเป็นหลัก ของมากก็เพิ่มน้ำมากตามจำนวน คือกะประมาณเอาอ่ะค่ะ ชิมน้ำดูว่า เค็มมากน้อยตามที่เราต้องการ น้ำส้มสายชูจะเพิ่มให้มากกว่าสองช้อนโต๊ะก็ได้ แต่อ๊อดเป็นคนที่ไม่ชอบกลิ่นน้ำส้มสายชู เลยไส่แค่นิดเดียว
จริงๆแล้วน้ำส้มสายชู ก็มีประสิทธิภาพในการทำงานคล้ายๆ "สารกันบูด" นะค่ะ แต่เราจะกินสารกันบูดเข้าไปทำไม เพราะน้ำส้มสายชูมันปลอดภัยกว่า
ครอง
27 พฤศจิกายน, 2011 - 16:56
Permalink
Re: สะสมอาหารไว้ยามขาดแคลน
จุ้ย
27 พฤศจิกายน, 2011 - 21:53
Permalink
Re: สะสมอาหารไว้ยามขาดแคลน
พี่อ๊อดตุนอาหารเพียบเลยนะพี่ยังงี้อิ่มไปอีกนานเลยพี่
ยุพิน
27 พฤศจิกายน, 2011 - 22:00
Permalink
Re: สะสมอาหารไว้ยามขาดแคลน
พี่เห็นด้วยกับป้าต่าย เมืองไทยร้อนอบอ้าว ร้อนตับแตก ทำแล้วไว้ในตู้เย็นดีสุดค่ะ น้องอ๊อด เก่งจริงค่ะ..ทำอะไรได้หลายๆ อย่างเลย โหวตค่ะ...
oddzy
28 พฤศจิกายน, 2011 - 01:34
Permalink
พี่ยุพิน
อย่างนี้ต้องพิสูจน์ เดี่ยวปีหน้ากลับเมืองไทย อ๊อดจะหิ้วไปด้วยสักกระปุก แต่เอาไปวางไว้ในตู้กับข้าวที่บ้านเฉยๆ ไม่กินนะค่ะ เอาไปวางพิสูจน์ว่านานแค่ใหนมันถึงจะบูด แล้วให้คนที่เมืองไทย เดินไปเปิดตู้ดูว่าขึ้นฟองหรือยัง ขึ้นฟองเดือนใหน อิอิ อ๊อดเป็นคนพวกชอบทดลองด้วยตัวเอง ก็อยากรู้นินา..ใครจะมาบอกเราได้ว่าเมื่อไหร่มันจะบูด นอกจากเราทดลองเอง
หน้า