เยือนเพชรบุรี ... เปิดวรรณคดี ... ยลศิลปกรรม

หมวดหมู่ของบล็อก: 

    ตระหนักอยู่ ... ว่า บล็อกนี้ อาจรบกวนอารมณ์ชื่นมื่น ของ สมมติวันแรกแห่งปี 2555 ... แต่หากไม่เขียน ก็กลัวข้อมูลจะบูด ...

    เอ่ยนาม “เพชรบุรี” ... แต่ละท่านก็ดึงภาพประสบการณ์ และสิ่งประทับใจออกมา สุดแท้แต่รัดดวง (ความชอบ) พาไป ...

    บ้างก็นึกกึง “พระนครคีรี” หรือ เขาวัง ที่เฝ้าอยู่โดยสายโลหิตหนุมาน ... บ้างนึกถึงของดังขึ้นชื่อ คือ “ขนมหวาน” คราใด ๆ ที่ผ่าน ก็มักแวะร้าน แม่นู่น ... พ่อนี่ ... เลือกซื้อติดมือเป็นของฝาก คนที่คิดถึง ... ฯลฯ!

    แต่สิ่งที่ข้าพเจ้าจะนำมาฝากวันนี้ มิใช่สิ่งที่กล่าวมา ... หากแต่เป็นสิ่งที่ จั่วหัวไว้ข้างบน ... ซึ่งหลาย ๆ ท่าน อาจออกปากว่า “เบื่อวะ .. ! ไอ้วรรณคดี เล่มใหญ่ ๆ นี่ ... แล้วแถมศิลปกรรม งานศิลป์ ที่ดูยังไงก็ไม่รู้เรื่อง ... มาอีกด้วย ... วางไว้นั่นแหละ ... ถึงฝากก็ไม่อยากรับ ... อิ่มโว้ย ... อิ่ม"

    ขอรับกระผม ... ต้องขออภัยที่รบกวน แต่โปรดอย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ ... มาดูกันก่อน ... ไม่มีดี ไม่กล้าเอามาอวดให้ท่านเสียเวลาหรอกครับ ... เพราะข้าพเจ้าก็ใช่จะหลงใหล ใฝ่หา วรรณคดี ... และศิลป์นัก ... ไม่งั้นคะแนนสอบไล่ปลายปี ม. 6 ของข้าพเจ้า คงไม่ใช่ 50.01% แน่ ๆ ... สมัยเรียนชั้นมัธยม วรรณคดี ... ทั้งหลาย เป็นเพียงอาหารกลางวันของข้าพเจ้า เท่านั้น เนื่องด้วยเป็นเด็กวัด ที่บริหารงบประมาณไม่เป็น จึงต้องนั่งห้องสมุด แทน ร้านอาหาร ... ฮุ ๆ ๆ (ไว้มีโอกาสจะมาเล่า)

    ที่จะนำเสนอในโอกาสต้อนรับปีใหม่ 2555 วันนี้  เป็นเรื่องเก่า ... ของเพชรบุรี ที่เขานำเสนอในรูปแบบที่เรียกได้สนิทปากว่า “นวัตกรรม” ...

    ปลายปี 2554 (28 ธ.ค. 2554)... ข้าพเจ้า มีภารกิจ ที่ เพชรบุรี ... และ หัวหิน

    จะด้วยว่า ติดอยู่บนชั้นสองของบ้าน นานเกินไป รึอะไรก็ตาม ... แต่ เมื่อข้าพเจ้าโผล่ทั้งตัว(มิใช่เฉพาะหน้า) เข้าไปในตัวเมืองเพชรบุรีเที่ยวนี้ ... ความทึ่งในแนวคิดของผู้บริหาร(ไม่ทราบเป็นใคร ไม่ได้หาข้อมูล) จังหวัดเพชรบุรี .... ที่ทำสิ่งเหล่านี้ให้ปรากฏ และ ก่อให้เกิดความทึ่งขึ้นแก่ข้าพเจ้า ... ถึงจะไม่ใหญ่หลวง แต่ก็ ไม่น้อยทีเดียว ด้วยเป็นการเปิดอ่านวรรณคดีที่ยิ่งใหญ่ของ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้ กันข้างถนน โดยมิต้องจับฉวยเล่มหนังสือแม้แต่น้อย ...

     เป็นการสร้างศิลปกรรม จาก วรรณคดีเรื่อง “รามเกียรติ์”  ... เดี๋ยวนี้ ฟังเขาเรียก ๆ กันว่า Ramayana  .... เอ้า ... เพ้อเจ้อ … มานานเกินควรแล้ว … มาดูกันครับ .....

 

 

 

 

    ช่าง ... กำลังทุ่มเท รังสรรค์ งาน ฝีมือสกุลช่างเพชรบุรี อย่างขะมักเขม้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

   ตอนแรก ๆ .... จอดรถริมฟุตบาท แล้วถ่าย ดูออกจะย้อนแสง และไกล ไปนิด ... แต่ก็ยังดี นะ

 

 

 

 

 

 

    เอ้าครับ! ... จากนี้ ... โปรดดู ... และ บรรยายกันเอาเองตามชอบนะครับ

    ไม่มีกติกาใด ๆ ... ฮึ ๆ ๆ

 

 

 

 

 


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


 

 

 

 

 

 

 


 

 

 

 

 

 

 

 


 

 

 

 

 

    จอดไป ... ถ่ายไป ... ถ่ายไป ได้ 3 – 4 ภาพ

    เกรงใจผู้ใช้ถนน คนอื่น ๆ ... เลยอ้อมรถเข้า วิ่งสายคู่ขนานใน ... จอดถ่ายจากในรถเป็นระยะ ๆ ...

 

 

 

 

   แต่ได้เป็น “ภาพด้านหลัง” ... มิใช่ “ด้านหลังภาพ” นะครับ

    เอ้า ... ดูกันต่อ ครับ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

    ภาพเหล่านี้ จัดวางไว้อย่างเหมาะเจาะ ตรงพื้นที่ว่าง ระหว่างชองจราจรของถนน ยามค่ำคืนในปัจจุบัน จะมี Spotlight ส่องขึ้นมาจากเบื้องล่าง สวยงามมาก และข่าวว่า เมื่อศิลปกรรมเหล่านี้ ตกแต่ง ประดับกระจก เสร็จ จะมีน้ำพุ เคียงคู่ทุก ๆ รูป

    ท่านคงตำหนิในใจ แล้วซีนะว่า ‘อะไรวะ! ... แกจบของแกเอาห้วน ๆ อย่างนี้เองเรอะ ...’

    ไม่ครับ ... ที่ถ่ายมายังมีอีกเยอะ ... แล้วที่ยังไม่ได้ถ่ายมา ก็ยังมีไม่น้อย! ... แต่หากเขียนต่อ ดูจะยาวมากไป ... เลยเม้มไว้ตอนหน้าซะบ้าง ...

    ครับ! .... ไม่นานเกินรอหรอก ครับ เข้าใจว่า ... ปีนี้คงได้อ่าน ... หากผู้เขียนยังอยู่  ... ฮุ ๆ ๆ ๆ ....

ความเห็น

ฝีมือสกุลช่างเพชรบุรี  มีอะไรที่แปลกตา  แหวกแนว  มาให้ดูบ่อย ๆ  บางคนบอก...ไม่เหมาะไม่ควร.... แต่ข้าพเจ้าคิดว่าการสร้างงานศิลปะไม่จำเป็นต้องเป็นแบบเดิม ๆ  คิดนอกกรอบบ้างก็จะได้งานที่แปลกตาอีกรูปแบบหนึ่ง  

ลุงว่าพรือ ????  Laughing

  ตั้งใจจะตอบ ...  "เจ้โส"   ... แต่ไหงไพล่มาปรากฏข้างบน ... หมู่นี้ เจอสองหนแล้ว ... คงไร้ "สติ"

"บางคนบอก...ไม่เหมาะไม่ควร"

   ลุงว่า ... คงตั้งคำถาม ...

    ใครดู ... ดูอย่างไร ... ดูแล้ว คิดในแง่ใด ... 

      ลุงไม่ใช่คนเพชรบุรี .... ที่นำมาให้ดู เป็นมุม Idea ที่น่าจะเป็น นวตกรรม ... และความละเอียดอ่อน ของงานศิลป์

   เป็นไปได้ ที่ลุงไม่รู้จัก แก่นศิลปะ ที่แท้จริง .... 

      แต่เห็นด้วยกะ เจ้ ... ที่ว่า "การสร้างงานศิลปะไม่จำเป็นต้องเป็นแบบเดิม ๆ  คิดนอกกรอบบ้างก็จะได้งานที่แปลกตาอีกรูปแบบหนึ่ง"

ตามมาชมด้วยค่ะ...ขอบคุณค่ลุงพาโล...

ชีวืตที่เพียงพอ..

   ด้วยความยินดียิ่ง ... ขอบคุณมาก ๆ คราบ

ข้าพเจ้าไม่กล้าคิดและบรรยายออกอากาศหรอกค่ะ...คุณลุง...ขอคิดเอาเองในใจแล้วกัน...ตาต่ำ ๆ อย่างข้าพเจ้า ลุงเอามาให้เห็นก็เป็นบุญตาแล้วค่ะ...ขอบคุณลุงนะคะที่เผื่อแผ่...

   ไม่มีใคร  สูง หรือ ต่ำกว่าใครหรอก หลาน ...

     แท้ที่จริง ... ทุก ๆ คน ล้วนสมาน -  .... เพียงว่้าใคร จะมองอะไรอย่างไร ตามรัดดวง(ตามที่ตนชอบ) ...

    ไม่มีใคร ถูกหรือผิด ... และใคร ๆ ก้ไม่ควรจะตัดสินความคิดของใครอื่น ว่า ถูกหรือผิด ... เพราะหากเราอยู่ในสถานการณ์เดีียวกันนั้น .. คิดหรือว่าเราจะไม่ทำอย่างนั้น 

    ทุกอย่าง เป็นไปปรกติอยู่แล้ว ... เพียงขาดการนำเอา ความ "สมาน-" มาบูรณาการ ให้เป็น "สมานคติ" ... ก็เท่านั้นเอง

      ด้วยความยินดีครับ

คิดว่าจะได้กินหนม....แต่ได้ชมงานศิลป์ก็อิ่มตาเหมือนกัน....


:embarrassed:


 

   เห็น เป็นแนวคิดที่แปลก ใหม่ หลานแจ้วเหอ ... ก้าเลยเอามาให้แลกัน

     หนมเมืองเพชรฯ กะพื้น ๆ ม้ายไหร ... หม้อแกง บ้าบิ่น อาลัว ....

        ลุงว่า .. ก้าเหมือนกล้วยฉาบพัดลุง บ้านเราฮันแนะ

ตามมาดูและคิดในใจอาจเหมือนและต่าง แต่ก็จะรอดูตอนต่อไปค่ะ

  คิดเหมือนบางอย่าง คิดต่างหลายกรณีย์ = ปรกติ ...

    คิดเหมือนทุก ๆ อย่าง ไม่ต่างกันเลย = ผิดปรกติ

     คนเดียวกัน คนเดิม คิดใหม่ ... ความคิดครั้งหลัง ... ยังมีส่วนต่างจากครั้งแรกเลย

        นับประสาอะไร ... กับ ... ต่างคน ... ต่างคิด

หน้า