"อรุณสวัสดิ์...แม่แตงหูฉลาม"

"อรุณสวัสดิ์...แม่แตงหูฉลาม"

....ลงบล็อกเอาเกือบค่ำ แต่ก็ยังอยากใช้คำว่าอรุณสวัสดิ์ เหตุเพราะตื่นเช้าเจอเลยค่ะ

หน้าตาอย่างนี้ปรากฏให้ตื่นเต้น ทั้งที่เย็นวานเปลือกเมล็ดก็ยังปริ่ม ๆ เสมอขอบดิน ชั่วข้ามคืน โผล่มาไวมาก ให้ดีใจกันแต่เช้า

ขอขอบคุณภาพจากบล็อก แตงหูฉลาม 

รู้จักครั้งแรกเมื่อเพื่อน สมช.บ้านสวนฯ เสนอบล็อกให้ชมและทักถามกันผ่านห้องสนทนาในเวลาไล่ ๆ กัน เคยได้เมล็ดมาเพาะงอกใช้สารพัดวิธีเพื่อหวังจะให้งอกเป็นต้นกล้างาม ๆ ทั้งวิธีการใส่กระดาษทิชชูชุบน้ำเอาแช่ตู้เย็น สุดท้ายมางอกง่าย ๆ ตอนที่ฝังดินเอา

มาถึงวันนี้เพาะไม่ยากเลยค่ะ

เพียงนำเมล็ดแตงหูฉลามแช่น้ำให้เมล็ดพอง

แล้วเตรียมวัสดุเพาะสักหน่อย ที่ทำคือใช้กระถางดินที่ปรับสูตรลดดินเหนียวให้น้อยลง ยามที่ดินแห้งจะได้ไม่แข็งมาก เนื้อดินผสมทราย(ขอขอบคุณคำแนะนำสูตรดินผสมทรายจากผู้มอบเมล็ดมาให้)

เมื่อเมล็ดพองตัวจากการแช่น้ำไว้สักสี่ชั่วโมง (หรือมากน้อยแล้วแต่สังเกตเอาว่าเมล็ดน่าจะพองตัวแล้ว )

ให้ปักส่วนแหลม ๆ ของเมล็ดแตงเอียงไว้สักสี่สิบห้าองศา หรือจะกี่องศาก็ได้นะคะขอให้ส่วนแหลมของเมล็ดอยู่ข้างล่าง ข้างบนเอาขุยมะพร้าวชื้น ๆ  คลุมไว้ ไม่กลบดินจนมิด คิดเองว่าน่าจะช่วยให้เมล็ดที่งอกดันหมวก(เปลือกหุ้มเมล็ด)โผล่พ้นดินขึ้นมาได้ง่าย ๆ

จะสังเกตเห็นมีรากสีขาว ๆ งอกยื่นออกมาจากก้อนเพาะนี้

เลยขอเอาก้อนเพาะนี้ใส่ถุงเพื่อกักความชื้นไว้ในวันอากาศร้อนอย่างนี้

เย็นนี้ต้องรีบนำลงดิน สมช.ผู้มอบเมล็ดให้ แนะนำความรู้ที่รับทราบมาอีกทอดหนึ่งไว้ว่าเมื่อรากงอกแล้วไม่ควรย้ายที่ปลูก เพื่อต้นจะได้เจริญงอกงามอย่างดี

 ปี พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๕๔ ปลูกต้นแตงหูฉลามจนมีดอกให้ดีใจ 

แล้ววันหนึ่งแมลงหรือไวรัสหรืออะไรก็สุดแล้วแต่ พาให้ต้นแตงเหี่ยวลงทุกวัน กระทั่งบอกลากัน

...วันนี้เราเจอกันใหม่ “อรุณสวัสดิ์ แม่แตงหูฉลาม” อยากบอกกันว่า อยู่กันนาน ๆ นะ อย่างน้อยได้มีผลไว้ชิม มีเมล็ดไว้ให้ปลูกกันต่อ ....

ขอขอบคุณบ้านสวนพอเพียง ผู้ใหญ่โสทร-ทีมงาน และขอขอบคุณ สมช.Tui มากค่ะ ที่ทำให้วันนี้ได้กล่าว “อรุณสวัสดิ์กับ...แม่แตงหูฉลาม”  อีกครั้ง