เมื่อไรจะเข้าใจ

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ติดตามรายการทีวีที่เกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของมนุษย์เรา เช่น ภาวะโลกร้อน สภาพที่่น้ำืท่วมในหน้าน้ำหลาก แต่พอหน้าแล้งเราไม่มีน้ำใช้ทำนา หรือแม้แต่ทุกวันนี้เราเตรียมถุงทรายกลัวน้ำเข้าบ้านแต่พอตกเข้าเดือนนี้น้ำแห้งต้องขอดน้ำในบ่อที่ขุดไปลึกแต่มีน้ำไม่พอใช้ ปัญญาของมนุษย์ไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้จริงหรือ หรือเป็นเพราะเราเอาแต่ได้โดยไม่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมทั้งๆที่คนรุ่นพ่อ-แม่ทำให้ดูแล้วแต่เราไม่ทำตาม ไม่เคารพธรรมชาติ ไม่ยอมอยู่ร่วมกับธรรมชาติ คิดว่าตัวเองเ่ก่ง วันนี้ธรรมชาติจึงเอาคืน(ที่จริงธรรมชาติไม่ได้ลงโทษหรือเอาคืนอะไรหรอก ธรรมชาติก็เป็นไปตามปกติเช่นน้ำก็ต้องไหลลงสู่ทีี่่่ต่ำพอเราไปกั้นไม่ให้น้ำไปจนระดับน้ำสูงขึ้น(น้ำที่มีระดับสูงขึ้นจะทำให้แรงดันของน้ำมากขึ้นจนพยายามจะไหลให้ได้มากขึ้น)ในที่สุดก็จะดันออกจากที่กั้นจนได้แล้วน้ำก็จะท่วมที่มนุษย์อยู่อาศัย(ซึ่งไปถมที่ๆน้ำเคยขังอยู่เมื่อหน้าน้ำหลาก) คนเรากินแล้วก็ทิ้งถุงพลาสติกที่ห่อของ ขวดต่างๆแล้วพอฝนตกของที่ถูกทิ้งก็ไปอุดทางที่น้ำจะไหลลงท่อน้ำเลยท่วม ภาพเหล่านี้เห็นได้ทั่วไป แม่ป้อนขนมลูกอยู่ริมถนนพอป้อนเสร็จก็ทิ้งลงบนถนนต่อหน้าลูก ฯลฯ

ผมขุดบ่อนี้้เมื่ิอปี 2542 ริมสายเตราะ (สายน้ำเล็กๆจะมีน้ำมากในหน้าฝนแต่ในหน้าร้อนจะมีน้ำไหลไม่มาก) เมื่อตอนซื้อสวนใหม่ๆพอกินข้าวเสร็จก็พาจานชามไปล้างในสายเตราะ ล้างหน้ากับน้ำในสายเตราะแล้วสดชื่นเพราะความชุ่มเย็นของน้ำในสายเตราะ

 

 สถาพสายเตราะหน้าแล้งหากแล้งจัดน้ำจะไม่มีให้เห็น

เดี๋ยวนี้ปี 2555 ทุกๆปีมีการฉีดยาฆ่าหญ้ากันทุกปีทุกสวนเพราะยางราคาดี ขี้เกียจตัดหญ้า ตัดแล้วไม่นานก็งอกใหม่สู้ฉีดยาไม่ได้เร็วดี แีต่แล้วก็ล้างถังฉีดลงในสายเตราะ  แม้แต่ยาที่ฉีดผลท้ายสุดเมื่อฝนตกลงมาก็ชะล้างไหลลงสายเตราะ ถังที่ฉีดก็ล้างลงสายเตราะ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นปลากินยาเข้าไปใหม่่ๆปลาตาย นานๆเข้าปลาสร้างภูมิต้านทานแล้วเราก็กินปลา น้ำที่แต่ละสวนที่ฉีดไหลลงทะเล(คนต้นน้ำบอกว่าฉีดแล้วเดี๋ยวมันก็ไหลไปผมฟังแล้วงืด แล้วคนปลายน้ำจะเป็นยังไง  เราบุกกรุกป่าทุกวันแล้วปลูกยางพาราบนเขาบนควน ป่่าหายไปเรื่อยๆ รากยางไม่ยึดหน้าดิน ไม่ดูดซับน้ำ เกิดดินถล่มกันทั่วไปแต่ใครพูดไม่ฟังยางมันราคาดี มีคนคาดการณ์ว่าไม่เกินสิบปีจะประท้วงที่ราคายางราคาตกต่ำแล้วเอาน้ำยางมาเทบนถนน ไม่ทันถึงไหนเร็วๆนี้ก็ประท้วงแล้ว เหตุผลว่าต้นทุนสูง(หนึ่งในเหตุผลนั้นคือต้นทุนยาฆ่าหญ้าฟังแล้วไม่มีใครออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ ผมก็เข้าใจว่าใครออกมาพูดก็เจ็บตัว เพราะไปขัดผลประโยชน์เขา แต่ว่าใครคิดกันบ้างว่าได้ราคาตามที่ต้องการในวันนี้ได้ทำลายธรรมชาติซึ่งส่งผลต่อลูกหลานคุณและทุกๆคนในวันข้างหน้าอย่างไรบ้าง เด็ดดอกไม้กระทือนถึงดวงดาว 

ทุกวันนี้ถามว่าถ้าคุณเป็นผมคุณกล้าล้างจานชาม หรือล้างหน้ากับน้ำในสายเตราะมั๊ย ? 

 

ในรูปนี้เรากำลังเพลินกับการผลักแผ่นหินโดยเราไม่สนใจ (เพราะว่าไม่นำพาซึ่งธรรมชาติเตือนเราแล้ว) แล้วในที่สุดหินแผ่นสุดท้ายก็มาล้มทับตัวเราเอง (จริงๆไม่ใช่หินแผ่นสุดท้าย มันแล้วแต่เวรกรรมของใครของมัน)

ฝากให้ช่วยคิดหน่อยนะครับ (วันเวลาล่วงไปๆเราทำอะไรกันอยู่)คิดแล้วจะช่วยกันยังไงดี

ความเห็น

ขอบคุณ คุณสมศักดิ์ครับที่เข้ามาแบ่งปันความคิดเห็น ผมคิดอย่างนี้ครับ คนที่่จะรับฟังเรื่องเหล่านี้ผมคิดว่าเหล่า สมช.นี่และครับและนี่เป็นเหตุผลที่ผมสมัครเข้ามาครับ ผมว่าเราต้องรีบช่วยกัน เช่นพูดคุยกับคนที่พอจะรับฟังได้อย่างก็สะกิดต่อมรับรู้ ดีกว่าปล่อยไปเรื่อยๆแล้วพอเราแก่มากๆก็ได้แต่นั่งปลงซึ่งก็ปลงไม่ค่อยจะได้ เช่นพี่แกขับรถมอเตอร์ไซค์เสียงดังมากๆ ทำปลายท่อให้พ่นควันพิษใ่ส่รถที่อยู่่ข้างหลัง สังคมแย่มากๆแล้ว ผมว่าเมื่อก่อนเราเขย่าต้นไม้เวลามีราหูอมจันทร์ มันก็ดีนะดีกว่านอนเฉยๆ มันคล้ายกับการฝากความคิดให้กับพ่อแม่ของเด็กที่เราพอพูดได้เผื่อว่าวันนึงเขาอาจคิดได้ดีกว่าปล่อยไปเจอคนประเภทเดียวกับ เช้าขับรถมาจอดรถซ้อนคันกันหน้าเซเว่นซื้ออาหารเช้าให้ลูก(หนักเข้าไปอีก) มีเรื่องจะแลกเปลี่ยนความคิดอีกเยอะครับ ฝากสมช.ท่านอื่นลองๆอ่านคำตอบที่ผมเขียนแม้ว่าไม่ได้ตอบในช่องของท่านด้วยครับที่สดุดตาเผื่อว่าจะมีประเด็นใดที่จะนำมาพูดคุยเพื่อช่วยเหลือกันนะครับ ขอบคุณครับ

ทุกอย่างต้องเริ่มต้นที่ตัวเรา...สังคมที่เล็กที่สุดคือครอบครัว...เอาเรื่องง่ายที่สุดการทิ้งขยะในที่สาธารณะ...พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเห็น...เมื่อวานขับรถอยู่ในตลาด..ตอนติดไฟแดง..เห็นเด็กสาวสวย แต่งตัวดี...ท่าทางเหมือนนักศึกษา...ยืนดูดน้ำอยู่บนฟุตบาท...หล่อนดูดน้ำเสร็จก็ทิ้งขวดพลาสติกลงถนนปับ...ทั้งๆ ที่ถังขยะอยู่ห่างไปแค่ 50 เมตรเอง..เห็นแล้วมันจี๊ดขึ้นสมองเลย...

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

ขอบคุณป้าต่ายครับ มีผู้แบ่งประเภทของคนเป็นดังนี้ครับ

1.ไม่มองอะไร

2.มองแต่ไม่เห็นมีอะำไรผ่านหน้าไปก็ไม่รู้ตอบไม่ได้

3.มองเห็นไม่ได้คิดอะไรคือสักแต่มอง

4.มองเห็นแล้วคิดว่าทำไมจึงเป็นอย่างนั้น ถูกต้องหรือไม่ถ้าไม่ถูกแล้วที่่ถูกมันควรเป็นอย่างไร จะแก้ไขอย่างไร เราสามารถช่วยเหลืออะไรเขาได้บ้าง

   ป้าต่ายจัดอยู่ในประเภทที่ 4 ครับ สาธุขอให้มีคนแบบนี้เยอะๆ ดูแต่คนงานก่อสร้างตอนนี้มีคนในประเทศข้างบ้านเราเป็นหลัก ส่วนคนไทยก็หนักทางบันเทิง สังสรรค์เฮฮาไปวันๆ เฮ้อ !

จริงครับ..เห็นด้วยเป็นที่สุด

 

ขอบคุณครับคุณวิศิษฐ์ก็ติดตามบล๊อกมานานตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นสมาชิก มีกิจกรรมมากมายให้ความรู้น่าติดตามตั้งแต่ชวนแม่บ้านและลูกสาวเข้าไปทำสวนและจัดการรดต้นไม้หาผักหญ้าปลาและยังชวนทำอาหารโดยใช้ผักและผลผลิตที่ปลอดสารพิษจากสวนที่ครอบครัวทำเองอีก ชื่นชมครับ ด้วยความจริงใจครับ รูปนี้น่ารักจังทั้งคุณแม่-คุณพ่อและคุณลูกเลย(เพราะแม้แต่คุณลูกยังยิ้มเลย ส่วนคุณพ่อ-คุณแม่ไม่ต้องพูดถึงสุขใจสุดๆ)

ให้แง่คิดที่ดีมากเลยครับ...ผลเกิดจากเหตุครับ

ชีวิตเป็นเรื่องง่ายๆ จะทำให้ยากทำไม


 

ขอบคุณครับคุณ maw_tot ก็เหตุปัจจโย เนาะ ขอต่อความคิดของคุณ moonlight พอเหตุการณ์ผ่านไปทุกคนก็ลืม ผมขับรถที่ความเร็วเกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงสำหรับผมคิดว่าเร็วแล้ว บางทีพอเผลอก็เป็น 120 กม/ชม พอมาเจออุบัติเหตุรถชนกันอยู่มีคนนอนตายเลือดเต็มตัวและมีคนร้องตะโกนด้วยอาการควบคุมสติไม่อยู่ซึ่งก็น่าจะเป็นญาติของผู้ตาย ผมก็เกิดอาการมืออ่อนเท้าอ่อน ขับรถต่อด้วยความเร็วประมาณ 60 กม/ชั่วโมง แต่ครั้นพอเลยที่เกิดเหตุมาไกลแล้วก็ลืมกลายเป็น 100 กม/ชั่วโมง น่าจะเป็นแบบนี้แหละเนาะ

ที่เป็นเช่นนี้ สาเหตุหลัก เกิดจากความโลภ ไม่รู้จักพอ  เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม   แม้ว่าธรรมชาติกำลังสำแดงพลังให้เห็นกันจะๆ แล้วก็ตาม  พอเหตุการณ์ผ่านไป  ทุกคนก็ลืม กลับมาใช้ชีวิตอย่างเดิมๆ  ไม่คิดว่าจะช่วยกันแก้ไขอย่างไรอย่างจริงจังง    เมื่อสังคมเป็นเช่นนี้ จะทำอย่างไรดี   ก็คงต้องเริ่มที่ตัวเองและคนใก้ลตัวก่อน  ดีกว่าที่จะงอมืองอเท้า ไม่ทำอะไร  

ขอบคุณมากครับที่เข้ามาแบ่งปันความคิดเห็น เห็นด้วยกับมูนไลท์แสงแห่งพระจันทร์ครับ

อ้อ ลืมตอบคำถามคุณอินเนียร์ไป  ที่ถามว่า "เมื่อไรจะเข้าใจ"   คิดว่า คำตอบอยู่ในภาพด้านล่าง  คือต้องรอให้แผ่นหินล้มลงไปให้หมด  คนรอดคือ คนที่หนีออกมาทัน   เมื่อหินล้มลงไปทั้งหมด ก็คงจะคิดได้เอง แต่ถ้ายังคิดไม่ได้อีก ก็สมควรสูญพันธุ์ไป 

หน้า