เพกา...เป็นได้ทั้งผัก และยา

หมวดหมู่ของบล็อก: 

เพกา หรือ "ลิ้นฟ้า"  ภาษาจีนเรียกว่า"โซยเตียจั้ว"


คนจีนนิยมนำส่วนเมล็ดแห้งมาใช้ประโยชน์ทางยา ส่วนคนไทยใช้เพกาเป็นทั้งผัก และยา ส่วนที่นำมาใช้ได้แก่ ดอก ใบอ่อน ฝักอ่อน เมล็ด และราก

สรรพคุณ
เป็นยาบำรุงปอด กระเพาะ และตับ ช่วยเจริญอาหาร
ราก-บำรุงธาตุแก้ท้องเสีย
เมล็ด-ช่วยระบายขับลม
ฝักแก่-ใช้แก้ร้อนใน
ฝักอ่อน-ใช้ขับลม
ราก ใบ ลำต้น ดอก และฝัก รวมกันจะแก้ท้องร่วง แก้ไข แก้น้ำเหลืองเสีย ฯลฯ
ยอด และฝัก
มีวิตามินเอ และซีสูงมาก จึงช่วยบำรุงสายตา และกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
วิธีใช้
ส่วนของยอด และฝักอ่อน ของเพกาสามารถนำมาประกอบอาหาร โดยลวกเป็นผัก หรือเป็นส่วนผสมในแกง ส่วนเมล็ดแห้งนิยมนำมาเป็นสวนผสมของน้ำจับเลี้ยง ซึ่งทำให้น้ำจับเลี้ยงมีรสชาติที่กลมกล่อม

-นำเมล็ดเพกาต้มกับน้ำไฟอ่อนๆ ดื่มเป็นประจำรักษาอาการไอ มีเสมหะ บำรุงกระเพาะ ปอด และตับ
-การดื่มน้ำจับเลี้ยงที่มีส่วนผสมของเมล็ดเพกาเป็นประจำจะช่วยให้ชุ่มคอ และสดชื่น

(ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก www.hilunch.com/peka-hurb)

มีประโยชน์ มากมายอย่างนี้ไม่ปลูกไม่ได้แล้ว....

วิธีการเพาะ ก็ไม่ยุ่งยาก(แบบที่ตัวเองถนัด) นำเมล็ดมาทำให้ชุ่มชื้นสัก3-4 วันก็งอกออกมาอย่างที่เห็นค่ะ สังเกตรากงอก ก็นำส่วนที่รากทิ่มออกคว่ำลงไปในดินจากทำครบทุกเมล็ดแล้วก็เอาดินกลบสัก 1ซม. รอจนกว่าใบจะโผล่พ้นดินค่ะ

เชื่อฟังหน่อย "แม่" บอกว่า "ไม่ต้องรอให้งอก เอาเมล็ดวางในกระถางดำได้เลย 4-5 เมล็ด ก็งอกเหมือนกันโตหน่อยแล้วค่อยแยกออกมา" ว่าแล้ว พี่ก็วางไป 6 เมล็ด ขึ้นครบถ้วน 2 กระถาง 12 เมล็ด ไม่เกิน 7 วัน ทะยอยงอกจนครบ ก็อายุครบ 10 วัน ได้ต้นกล้าที่แข็งแรงสมบูรณ์ค่ะ

จะเพาะปลูกแบบใดให้ได้ผล..
เลือกแนวทางกันเองนะค่ะ

ท่านใดที่ได้รับเมล็ดพันธุ์ไปอุปการะ..เป็นอย่างไรกันบ้าง ขอชมผลงานกันหน่อยค่ะ ...

ขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่เข้ามาทักทาย
ขอบคุณบ้านสวนพอเพียง และทีมงานค่ะ

ความเห็น

:crying2: ลองกินแล้วจะติดใจ นำฝักอ่อนๆลวก หรือเผา ปิ้ง ย่าง หั่นแนวขวางเป็นชิ้นๆ พอคำจิ้มน้ำพริกกะปิ อร่อยดีจัง

มี 2 ท่านสนใจ เมล็ดเพกา ===>jo korakod ===>aomdow

หน้า