นักเรียนใหม่เรียนการปลูกมะค่าโมง

เมื่อได้รับเมล็ดพันธ์มะค่าโมงมาและได้ศึกษาวิธีการก่อนนำเมล็ดไปปลูกซึ่งแตกต่างจากการปลูกเมล็ดพันธ์พืชโดยทั่วๆไป ซึ่งหากไม่รู้มาก่อนเอาไปปลูกก็จะไม่งอกหรืองอกได้ยาก

-จากคำแนะนำของยายอี๊ดที่คุณศิรินันท์เอามาลงให้เสร็จเพื่อสะดวกต่อการทำความเข้าใจไม่ต้องไปค้น ยายอี๊ดแนะนำให้เอาเมล็ดมะค่าโมงด้านที่มีสีดำไปฝนกับหินลับมีดด้านหยาบ150-200ครั้งต่อ1เมล็ด(เมื่อ 4 เมษายน 2553)

-ลุงป้อมเข้าไปแสดงความคิดเห็นและแนะนำในบล๊อกนี้ของยายอี๊ดว่าใช้หินเจียร์แทนการฝนจะเร็วและสะดวกไม่ต้องฝนให้เจ็บมือ (แต่ไม่แนะนำให้คุณสาวๆทำนะครับเพราะอาจทำให้เกิดอุบัิติเหตุจากการไม่ชำนาญในการใช้หินเจียร์ได้)(เมื่อ 4 พฤษภาคม 2555)

 ผมก็สอบถามเพื่อนๆที่เขารู้มากกว่าผม ได้รับคำตอบว่าเมล็ดพันธ์พืชบางชนิดสร้างสารป้องกันการงอก หรือสร้างเกราะป้องกันตัวเองเพื่อความอยู่รอดในการสืบต่อสายพันธ์วงศ์วานว่านเครือให้อยู่รอดจากการถูกสัตว์กิน หรือสภาพที่ไม่เหมาะต่อการงอกเป็นต้นใหม่ เช่นสภาพที่แห้งแล้งไม่มีฝนจากสภาพดินฟ้าอากาศเองหรือจากที่ไฟไหม้ป่าฯ อย่างกรณีของมะค่าโมงพอเมล็ดหล่นบนพื้นดินที่แห้งแล้งเมล็ดพันธ์ก็จะอยู่ได้ไม่ยอมงอกรอจนฝนมาเยอะๆพอที่จะทำให้เปลือกที่แข็งพองตัวออกให้ส่วนที่จะเกิดเป็นต้นแทงยอดออกมาได้ซึ่งนั่นก็คือสภาพดินเหมาะต่อการเจริญเติบโตนั่นเอง

ผมเอาคำแนะนำของทั้งสองท่านมาประยุกต์เข้าด้วยกันดังนี้ครับ

  สังเกตุเมล็ดด้านนึงมีสีดำเรียบ อีกด้านมีสีออกเหลืองขรุขระ เอาด้านที่สีดำเรียบที่อยู่ด้านตรงข้ามกับสีเหลืองมาฝนหรือเจียร์ ผมเลือกใช้วิธีัการเจียร์อย่างระมัดระวังแม้จะใช้หินเจียร์บ่อยๆแต่ระมัดระวังทุกครั้งที่ใช้ครับ

 ด้านนี้ครับที่จะเจียร์ นืีเป็นรูปเมล็ดก่อนเจียร์

  รูปร่างหน้าตาของหินเจียร์มือ อีกแบบจะเป็นหินเจียร์ตั้งแท่น

 เมื่อเจียร์แล้วส่วนดำที่เีรียบหายไปเห็นส่วนที่อยู่ข้างในอีกชั้นนึงสีคล้ายๆเนื้อไม้

ต้มน้ำให้เดือดเทใส่ภาชนะที่มีเมล็ดมะค่าโมงที่เจียร์แล้วตามจำนวนเมล็ดที่ต้องการ ที่แนะนำไว้ว่าแช่ประมาณ 5 นาทีแล้วเอามาแช่น้ำธรรมดาทิ้งไว้1คืน ผมสังเกตุดูหลังจาก5นาทีแล้วน้ำไม่้ร้อนเท่าไหร่จึงแช่ไว้อย่างนั้นและทิ้งไว้1คืน สภาพเมล็ดเป็นตามในรูปด้านล่าง

 เปลือกเมล็ดสีดำพองตัวออก เปลือกนอกสุดมีลักษณะคล้ายพลาสติกบางๆเหมือนเปลือกหัวมันชนิดหนึ่งจำชื่อไม่ได้ หรือคล้ายๆเปลือกด้านนอกของอินทะผาลัมชนิดที่ขายกันแบบเมื่อก่อนที่เ่กาะกันแน่นในถุง ผมลองแกะออกเรื่อยๆซึ่งแกะไม่ยากก็จะเห็นชั้นข้างในที่ว่าสีเหมือนเนื้อไม้  จากนี้ก็นำไปวางในที่จะเพาะเช่นถุงดำแล้วรอวันที่ต้นอ่อนจะแ่ทงยอดออกมาซึ่งผมก็เพิ่งทำเป็นครั้งแรก ได้ผลประการใดไว้ค่อยรายงานผลครับ ที่จริงสมช.หลายท่าเขียนวิธีการปลูกเสนอไปตั้งนานแล้ว เช่นป้าอี๊ดเขียนตั้งแต่ปี2553 แต่คนที่ไม่ได้อ่านเพราะเพิ่งเข้ามาในเว๊บบ้านสวน เช่นคุณน้อง_2552 บอกว่าให้ช่วยแนะนำวิธีการปลูก ส่วนผมเองไหนๆก็ต้องรายงานคุณครูพี่ข้าวโอ๊ตอยู่แล้วว่ารับการบ้านมาแล้วก็ต้องรับผิดชอบไม่ใช่รับมาแล้วก็แล้วกันไป ก็เลยเขียนให้เป็นเรื่องเป็นราวให้ผู้ที่ยังไม่เคยทำให้ได้ทราบไปด้วย แม้แต่ตัวผมเองถ้าไม่คิดจะปลูกก็ยังคงอ่านผ่านๆไปแต่จะปลูกก็ต้องสนใจในรายละเอียดเพื่อที่จะปฏิบัติได้ครับ ท่านที่เขียนไว้ก่อนคงไม่ว่านะครับ

ขอบคุณคุณโสทร ขอบคุณผู้ใหญ่ซึ่งเป็นที่นับถือของคนบ้านสวนทั้งหลาย ขอบคุณผู้่ที่ถ่ายทอดความรู้ทุกคน ขอบคุณพี่ข้าวโ๊อ๊ตและคุณศิรินันท์ครับ