สมบัติของฉัน

หมวดหมู่ของบล็อก: 

 dookdik icon ดุ๊กดิ๊กน่ารัก สวัสดีค่ะเพื่อนๆ บ้านสวน วันนี้นุสิ เอารูปสมบัติส่วนตัวที่มีอยู่เพียงน้อยนิดมาให้ชมค่ะ เพื่อนๆ คงนึกสงสัุยว่ายัยนุสิ พากิน เที่ยวตลอดเลย นี่มันเวปบ้านสวนนะยะ (ล้อเล่นค่ะ)

      นุสิก็ชอบต้นไม้นะคะ ก็เป็นสาเหตุของการสมัครเป็นสมาชิก แต่ไม่ค่อยกล้ารับการบ้านเท่าไหร่ เพราะ มีพื้นที่น้อยนิด แถมทางบ้านก็ไม่อยากให้ปลูกเยอะ เพราะกลัวจะมีปัญหากับตึก ผลงานที่ได้ก็เลยมีเท่านี้

    เชื่อมั้ยคะ บริเวณเท่านี้ แต่เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของครอบครัวค่ะ ค่อยๆ เพิ่มต้นไม้ไปเรื่อยๆ ในเวลาที่ว่าง มีพ่อกับแม่ช่วยกันดูแลด้วย  มาชมกันเลยค่ะ

ถั่วครกโตได้โตดี ไม่ต้องดูแลมาก โตยันเลื้อยไปบ้านข้างๆ เลย แต่ผลผลิตไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ปลูกเอาฮา อุตส่่าห์สู้จนรอดมาขนาดนี้ จะฟันทิ้งก็กระไร

ส่วนสีดำๆ ที่เห็น ก็เลียนแบบเค้ามาค่ะ ผืนละ 200 กว่ามั้ง ซื้ออิฐประสาน ราคาก้อนละ 20 ไม่ไหว แพงเกิน ตอนเริ่มปลูกครั้งแรกใช้อิฐประสาน


  นุสิตา มีครูอยู่ 2 คนเท่าที่จำได้คือ ป้าเล็ก อุบล และคุณวิศิษฐ์ ต้นไม้ที่ท่านจะได้เห็นต่อจากนี้ ของครูทั้ง 2 ท่านคะ ระบุไม่ได้ว่าต้นไหน ขอโทษคุณครูอย่างแร๊งงงงงง

ทั้งหมด ก็เห็นจะมี เจ้าดอกไม้ทั้งสองชนิดนี้ ที่พอจะเป็นหน้าเป็นตาอวดเพื่อนๆ ไม่ให้เราได้ขายหน้าได้บ้าง ฮี่ ฮี่

ดอกสองสลึง จำได้แม่น เพราะไปอบรม เจอที่ระยอง ต้นเตี้ยๆ แต่ก็ยังอุตส่าห์ออกดอกให้เชยชม

ดอกนี้ น่าจะชื่นว่านสี่ทิศ เพราะเหมือนของพี่เหมียวเลย โผล่มาดอกเีดียวก็มีกำลังใจแล้ว

ดอกนี้ ดอกรัก ค่ะ เป็นกำลังใจให้กันมาตลอด ไม่เคยทอดทิ้งเรา แสดงความรักชัดเจนมาก กระโดดสูงเท่าอก กระดิกหางใส่ แม้เวลาไม่มีของฝาก อยู่กันมา 8 ปีแล้ว พุดเดิ้น ผสม ไทย  น่ารักมะ ตอนนี้สายตาสั้น เพราะอายุเยอะแล้ว

นอกจากความรักของพ่อกับแม่แล้ว ความรักที่เราและสัตว์มีต่อกัน ก็ลึกซึ้งนะคะ ถ้าเสียเจ้าตัวเล็กไป ก็ลำบากเหมือนกัน

วันนี้แฟนแวะมาหาที่บ้าน ตั้งแต่คบกันมา ก็มีวันนี้แหละ ที่เขาทำสิ่งที่เราชอบและรัก ต้องอย่างนี้สิ ให้มีอะไรเหมือนกันบ้าง เจ้าหมูลิง !!

บ่นกับคุณศิษฐ์ว่า อยากปลูกต้นไม้ แต่บริเวณน้อย ค่าอิฐแพงมาก ต้องซื้อดินเท ใช้บริเวณเยอะ ทุกอย่างเงินทั้งนั้นเลย เทดินไม่เต็มซักที คุณศิษฐ์ แนะนำอย่างนี้ค่ะ


เป็นรูปที่เขาช่วยคิดให้ เราบอกว่าอยากทำค้างด้วย จะได้ปลูกเสาวรส หรือต้นไม้ที่เลื้อยได้เหมือนเพื่อนสมาชิก ดูตัวอย่างค้างจากแป๊ปน้ำ ของป้าเเมวดำแล้วชอบมาก เลยได้อย่างนี้แทน ประหยัดดินสุดๆ

อาจารย์ส่งทางเมลท์มาให้ทำตาม กะบะนี้ ทำจาก กะบะส้มจี๊ดค่ะ ใบละ 10 บาทเอง ขอบคุณมากค่ะ อาจารย์..........

เลยได้ตามรูปนี้ แต่ค้าง ติดไว้ก่อน กะให้ต้นไม้งอกอีกหน่อยค่อยต่อเติม


เมล็ดพันธุ์ ที่ได้รับแจกจากคุณศิษฐ์ 2 เดือนแล้ว


ต่อจากนี้ ก็รอ ร๊อ รอ .......

มาดูบริเวณบ้านของฉันกันบ้างค่ะ ภาพที่ 1 หน้าบ้าน ภาพที่ 2 หลังบ้าน


เวลาเพื่อนๆ โทรมา เวลาที่ฉันอยู่้ดาดฟ้า บรรยากาศรอบตัวฉันก็เป็นอย่างนี้แหละค่ะ เพราะอย่างนี้ถึงชอบดูสวนของเพื่อนๆ จังเลย

บ๊าย บาย ซาโยนาระ แล้วพบกันใหม่กับ รายการพากินพาเที่ยวของนุสิตา สาวแสบ สัปดาห์หน้านะคะ ฝันดีค่ะ dookdik icon ดุ๊กดิ๊กน่ารัก

 


MusicPlaylist
Music Playlist at MixPod.com

ความเห็น

ผมเป็นลูกชาวไร่ชาวนาโดยกำเนิดครับ เป็นคนลพบุรี แต่ครอบครัวของปู่พากันไปถากถางป่าทำไร่แถวเขตติดต่อเพชรบูรณ์ เมื่อถึงฤดูปลูกข้าวโพดก็จะอพยพกันไปอยู่ที่ไร่ ไร่ที่เป็นไร่ดงจริง ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆทั้งสิ้น ค่ำมาก็มีแต่ตะเกียงน้ำมันก๊าดสีฟ้าๆและวิทยุธานินท์ ละครคณะเกศทิพย์นี่ยังจำได้ติดหู สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือถ่านไฟฉาย ขาดไม่ได้เลยเพราะมันจำเป็นมาก มีทั้งถ่านไฟฉายตรากบ ตราแพะ เวลากลางวันพวกผู้ใหญ่ทำงานผมก็จะอยู่ที่ห้าง(ก็คือบ้านที่ไร่นะแหละ)บางทีก็ปีนต้นฝรั่งที่ลูกเล็กๆไส้แดงไส้ขาวกินอร่อยมาก บางทีเห็นน้อยหน่ามันสุกคาต้นมีรอยค้างคาวกินก็ปีนเก็บกิน อาหารก็มีปลากระป๋องตราปลายิ้ม ผัดผักบุ้งกับหอมแดง ผัดเห็ดที่มันขึ้นบนกองแกนข้าวโพด ต้มหยวกกล้วย ยอดชะอม ยอดฟักทอง แกงบวบกับรังผึ้ง แม่ทำกับข้าวอร่อยสำหรับเรา ปัจจุบันไร่ผืนนั้นขายให้คนอื่นแล้วตั้งแต่ผมอายุ 15 จนปัจจุบันผมอายุ 39 แล้วแต่ผมก็ชอบฝันถึงไร่ผมบ่อยๆนะ อยากกลับไปมีชีวิตที่สงบเงียบแบบนั้นอีกครั้งจังเลย ผมว่าคุณนุสิตาคงไม่ใช่รุ่นเดียวกับผมหรอก เพราะดูหน้าตายังอ่อนๆอยู่เลย ผมเกิด 2516 นะ

    อ่านแล้วสนุกจังเลยค่ะ มีชีวิตที่เป็นแบบคนต่างจังหวัดจริงๆ เคยได้ยินแต่คุณครูเล่าให้ฟัง เช่น ถ้าคนไหนขยัน เข้าไปหักล้างถางโพงทำเกษตรที่ไหน ก็จะได้กรรมสิทธิในที่ดินผืนนั้น เช่นไปขอออกโฉนดในภายหลัง ตรงที่ ปู่ย่าตายายของคุณ ก็ได้มาทางนี้ใช่มั้ยคะ ใครขยันก็จะมีที่ดินเยอะแยะหน่อย แต่สมัยคุณตาของฉัน ไม่ชอบเดินทางไปไกลบ้านค่ะ ชาวบ้านเขาไปหักล้างถางโพงกันถึงเชียงใหม่ นครสวรรค์ แต่ตาไม่ไป ไม่ได้หักล้างถางโพงอะไรที่ไหนเลย ทำนาอยู่บริเวณบ้าน ที่จ. สุพรรณบุรี เลยไม่มีที่ดินเป็นของตัวเอง แต่บ้านที่อยู่มาตั้งแต่รุ่นลูกรุ่นหลาน เป็นร้อยปีแล้ว หลวงก็ไม่อยากขับไล่ ก็เลยได้สิทธิอยู่ที่ดินนั้นไป

   คุณเล่าว่า ค่ำมาก็มีตะเกียงน้ำมันก๊าดและวิทยุธานินทร์  นั่นมันชีวิตเเม่ของฉันในวัยเด็กเลยนะคะ ฉันเกิดและโตที่กรุงเทพฯ ไม่ได้สัมผัสหรอก แต่ไ้ด้ยินแม่เล่าให้ฟัง และบางครั้งดูจากหนังไทย ก็ชอบมาก วันนี้ฉันได้เจอตัวจริงเสียงจริง มาเล่าให้ฟังเลยนะนี่ ถือว่าโชคดี

  ตะเกีียงที่ว่านี่ ตะเกียงพายุรึเปล่าคะ ของโบราณ สมัยนี้ใครมีก็ถือว่าเจ๋ง ฉันเคยเห็นบ้านที่สุพรรณเขามีกัน แต่เป็นสีเขียวนะ และก็เตารีดตาไก่ สมัยก่อนไม่มีห้องน้ำและไฟฟ้าด้วยนะ พอปวดท้องดึกๆ ตื่นมาต้องเดินขึ้นเขา เอาใบไม้เช็ดก้นกัน กันดารสุดๆ เลย เวลาอาบน้ำก็ต้องนุ่งผ้าถุง ใช้ก็ไม่ค่อยจะเป็นเพราะอยู่กรุงเทพจะแก้ผ้าเลย  ลำบากจริงๆ บริเวณบ้านของฉันอยู่ตีนเขา มีต้นมะม่วง ล้อมรอบ และก็มีมะขามร้อยปี  หลายพันธุ์ พอตกกลางคืน ได้ยินเสียงมะม่วงหล่นบนหลังคาดังสนั่นหวั่นไหว ญาติพี่น้องบริเวณนั้นก็ต่างลุกจากเตียงแย่งกันหยิบไฟฉายส่องหามะม่วง ไว้ตากแห้งเผื่อกินยามหน้าแล้ง ยากจนจริงๆ แต่นึกแล้วก็สนุกดีนะคะ ประสบการณ์เหล่านี้ ฉันได้รับเมื่อกลับบ้านไปรดน้ำดำหัวให้พ่อคุณแม่คุณ (ตา ยาย) ช่วงวันสงกรานต์ปีละครั้ง

   และที่ว่าสมัยนั้นมีละครคณะเกศทิพย์ บรรยากาศตอนนั้นกับชาวบ้านที่นั่นเป็นงัยบ้างคะ เล่าให้ฟังบ้างสิคะ คณะละครชื่อนี้เคยได้ยินแต่ในหนังไทย แบบที่เล่นย้อนยุค แต่หากได้ฟังจากคุณ คงจะบรรยายได้สนุก ชัดเจนกว่า

  ถ่านไฟฉายตากบก็อีก สมัยก่อนโฆษณาดังมากเลยนะ ที่จริงเราก็จำไม่ค่อยได้หรอก แต่แฟนเล่าให้ฟัง ก็พอจะจำได้เลือนลางเต็มที  คิดในใจว่า ทำไมมันเชยจัง ฟังไปก็ขำไป (ซื้อซีดีที่วางขายที่เซเว่น เกี่ยวกับโฆษณาเก่า มาฟัง) แต่ก็มีมนต์เสน์บอกไม่ถูก สมัยก่อนมีเสียงแอ็คโค่ด้วยนะ 555(ถ่านไฟฉายตากบ กบ กบ ๆๆๆ )

  ที่เล่า่ว่าสมัยเด็กๆ ได้ปีนต้นฝรั่งและมีโอกาสได้กินทั้งผลเนื้อในสีขาวและไส้แดง อยากบอกเหมือนกันว่า เคยกินลูกเล็กไส้แดงเหมือนกัน ไม่ได้อร่อยธรรมดานะ แต่โคตรอร่อยเลย ตอนนั้นกลับไปรดน้ำดำหัว (อีกแล้ว)  ก็มีโอกาสได้กิน บ้านใครก้ไม่รู้ เเอบเด็ดกิน ติดใจจนโตเลยค่ะ ปีถัดไปกลับไปบ้านนั้นอีกครั้ง ไม่มีให้กินแล้ว ที่กรุงเทพฯ ผลสวยๆ ลูกใหญ่ๆ รสชาติสู้ไม่ได้เลย จากวันนั้น จนถึงวันนี้ก็ไม่มีโอกาสได้กินอีกเลย....

  ยังมีน้อยหน่าอีกใช่มั้ย ฉันก็มีประสบการณ์น้อยนิดกับน้อยหน่าอีกเหมือนกัน บ้านตาปลูกค่ะ ข้างกะต๊อบของตานั่นแหละ เเต่กินไม่ได้นะ ตาหวง ถ้ากินจะถูกตี 55

  ส่วนบรรดาอาหารที่คุณเล่าให้ฟังว่าเป็นฝีมือแม่ที่ทำให้กินอร่อยมาก ได้กินขนาดนั้นถือว่า ฐานะไม่ธรรมดาเลยนะ 55 บ้านที่สุพรรณของฉันได้กินอย่างดีก็ปลาปิ้งกับแกงหอยขม ที่ไปป้าไปหามาเอง ส่วนผักก็เก็บตีนเขามากิน และผักที่โปรดที่สุด ก็คือ ผักชีล้อม เคยกินมั้ย อร่อยโคตรๆ เลย

  ดูสิคะ เรื่องบ้านๆ เก่าๆ เราขุดมาคุยกันได้สนุกสนานเลย เรื่องพวกนี้ จะคุยและสนุกได้กับคนที่ชอบเหมือนๆ กันเท่านั้นนะ ยังมีอะไรเล่าให้ฟังอีกมั้ยคะ อยากฟัง

  เรื่องที่ฉันเล่าให้ฟัง เป็นเพียงประสบการณ์ในวัยเยาว์ ทุกวันสงกรานต์นะ ช่วงอื่นๆ ก็ใช้ชีวิตอยู่กรุงเทพฯแต่ก็ชอบชีวิตชนบทมากๆ เลย

  ฉันอายุน้อยกว่าคุณค่ะ แต่ไม่มาก แต่เป็นเพื่อนกันได้นะ


ฮิฮิ รู้สึกเราจะคุยกันถูกคอ ตะเกียงน้ำมันการ์ดก็เป็นลักษณะกระป๋องมีฝาปิดที่ฝามีรูสำหรับสอดไส้ตะเกียงให้ลงไปจุ่มน้ำมันในกระป๋อง ถ้าอยากให้สว่างก็ดึงไส้ให้มันโผล่มาเยอะๆ ว่าถึงละครวิทยุนี่มันเป็นสิ่งบันเทิงสำหรับคนชนบทสมัยนั้นเลยนะ เรียกว่าเฝ้าติดตามกันเลยหล่ะ เปรียบเหมือนติดตามละครสมัยนี้เลย มันกันดารจริงๆนะสมัยนั้นะ เวลาเดินทางไปทำไร่นี่ จากบ้านที่ลพบุรีไปที่ไร่เพชรบูรณ์ประมาณ 60 กม.ใช้เกวียนเดินทางเป็นครึ่งวันเลยนะ ผมเคยนั่งเกวียนด้วยนะ มีรูปสมัยพ่อไปถากถางไร่มาอวดด้วย พ่อผมคนซ้ายสุด เท่มั้ยหนุ่มสมัยนั้น ในรูปนี่พ่อบอกว่าผมยังอยู่ในท้องแม่ พี่ชายกำลังเล็กๆ เดี๋ยวจะมาคุยใหม่นะกำลังสนุก 


คนเราพอเริ่มมีอายุขึ้นมามักจะโหยหาถึงอดีต

นั่งเกวียนด้วย....เราก็อายุไม่ต่างกัีนนะคะ แต่นั่งเกวียนเลยหรอ วันข้างหน้าลูกโตแล้วเล่าให้เค้าฟัง คงจะดี สมัยพ่อมีการถ่ายรูประหว่างเดินทางไปทำไร่ด้วย คนสมัยนั้น ถ้ามีกล้อง ก็ไม่ธรรมดานะ คงจะชอบการถ่ายภาพพอสมควร รูปเก่าเก็บจริงๆค่ะ ส่วนกระป๋องน้ำมันการ์ด ที่สุพรรณบ้านฉันก็มีเหมือนกัน พูดขึ้นมาก็จำได้เลย Laughing

หน้า