นิทานเฉลย อะไรน่ากลัวกว่า !

หมวดหมู่ของบล็อก: 

            เมื่อช่วงเช้า ได้นำปริศนาคำทาย ที่ว่า ...

        “เสือ ... ยุง ... ยักษ์ ... อะไรน่ากลัวกว่ากัน”

    มาให้ร่วมสนุกกัน ... และบอกไว้ว่า “ซึ่ง ท้ายคำถาม จะมี “วิสัชนานิทาน” เรื่อง เล่า ประกอบ .....”

       ประเด็น “เสือ” ... น่าจะผ่านไปได้เลย ... ก็ เขาบอกไว้แล้วนี่ครับ ว่า ... “ยุงร้ายกว่าเสือ”

    เหลือประเด็นที่ต้อง คิด คือ ยุง กับ ยักษ์ อะไรน่ากลัวกว่า ...

        เอ้า ... มาสดับ นิทานนี้ แล้วพิจาณาเองก็แล้วกัน ... นะครับ

    นิทานที่อ้างไว้ ... กิรดั่ง ... ว่า

         Once upon a time

    มียักษ์ตนหนึ่ง ชื่นชม  ติดใจรสชาติ เลือดและเนื้อมนุษย์ เป็นที่ยิ่ง

        โดย เฉพาะ ลาบเลือด มนุษย์ (ฮึ ๆ ๆ ... อันนี้ว่าเองครับ)

    แต่ยักษ์ตนนี้ มี “ขี้เกียจ” เป็นนิสัยถาวร ... วัน ๆ ชอบนอน (เนื้อนิทานไม่ได้บอกว่า ดู TY หรือ โทรฯ . ด้วยริเปล่า) ลุกมาก็ กิน ... อิ่มแล้วก็นอน

          อยู่มาวันหนึ่ง ... ด้วยความขี้เกียจ จะออกไปล่าหามนุษย์ และสัตว์ ... ก็คิดหาเครื่องทุ่นแรง ไปทำการแทน (เหมือนมนุษย์..เด๊ะ)

    แต่ยักษ์ยังไม่ฉลาดพอที่จะสร้าง Remote control ... จึง ถลกขากางเกง (เอ ... ตรงนี้ไม่ค่อยแน่ใจ ว่ายักษ์ตนนี้ นุ่งอะไร.. เอ้า สมมติว่านุ่งกางเกงก็แล้วกัน จะได้เล่าต่อ) ถอน “ขนหน้าแข้ง” ... ออกมาหยิบมือหนึ่ง (ถอนเยอะคงกลัวเจ็บ)

    แล้วร่ายมนต์ ... เสก “ขนหน้าแข้ง” นั้น ให้เป็น “ยุง” .... เอน ... เอ้น น น  ... (โกหก ซะไม่มี !...แต่คิดซะว่าจริงเนาะ ใน TV โกหกกว่านี้เยอะ!)

            แล้ว ออกคำสั่งว่า

       “พวก สูเจ้า ... จงโบยบินไป สูบเลือด แทนเราทีเหอะ ...”

          “สูบจากไหน” ? ... ต้นตระกูลยุง ที่ ยักษ์เสกขึ้นมา ถาม

    ยักษ์ยังอารมณ์ดี อยู่ จึงตอบไปว่า ... “เจอสัตว์ ก็สูบจากสัตว์ ... เจอมนุษย์ ก็สูบจากมนุษย์ ซี”

    “แล้วเวลาสูบ เราต้องทำอย่างไรครับท่าน” ยุงขนหน้าแข้ง ยังไม่หมดสงสัย จึงเอ่ยถาม ผู้ให้กำเนิด แบบซื่อ ๆ ...

    โดนเข้าหลายคำถาม ลมเสีย ของยักษ์ผู้ให้กำเนิด ก็ก่อตัว ...

       “เออ ... บินไป เจอสัตว์ หร์อมนุษย์ (ต้นฉบับเขาไม่ได้เล่าไว้ ว่าเจ้ายุงขนหน้าแข้ง ต้นกำเนิด รู้จักมนุษย์ และ สัตว์ได้อย่างไร ... เอาเป็นว่าข้าม ๆ มันไปซะมั่ง เนาะ ... ฮึ ๆ ๆ) ก็เข้าไปเกาะ เอาปาก จ่อ ๆ เข้ากับส่วนไหนของมนุษย์ก็ได้ ... เขาเอามือช่วยตบดันปากพวกมึงเข้าไปเอง แหละ” ... ผู้ให้กำเนิด ตอบประชด เสียงขุ่น ๆ (นี่ก็ไม่ได้ยินเองหรอกนะ ... เขาเล่ามา) ...

    เหล่าขนหน้าแข้งเสก (คงเข้าใจวิธีสูบเลือดแล้ว) จึงพากันบินออกไปหาดูด เลือด แทนยักษ์ ...

     และ ยักษ์ ผู้ให้กำเนิดยุง คงมีวาจาสิทธิ์ ... ดังนั้น ...

       เมื่อยุง เกาะ เรา ปุ๊บ .... เรา เป็นต้องช่วยตบดันปากเขาให้จมลงไป ปั๊บ ....

             เอ้า ... จบนิทานได้ละมั้ง ...

                ทีนี้ตอบได้ยังว่าใคร น่ากลัวที่สุด

ความเห็น

:confused: :confused:

:uhuhuh::uhuhuh:สรุปว่าเราควรจะดันปากมันดีหรือไม่ดีละลุง....

:uhuhuh: :uhuhuh: ช่วยดันปากมันทุกวันเลย ตัวแบนเลย :uhuhuh:

ความพอเพียงจะทำให้ชีวิตมีความสุขแบบยั่งยืน

-ตกลงว่าไม่ใช่ยุงกลุ่มที่เป็นสมัครพรรคพวกของนางเมรีขี้เมา ลูกสาวยักษ์แม่เลี้ยงของนางสิบสองเสียแล้วนะลุงนะ

-ขอรบกวนคุณลุงแวะกลับไปอ่านในบล๊อกที่ผมตอบคุณลุงในกระทู้เล่าเรื่องเมืองสงขลาอีกซักครั้งครับ ผมท้่าวความเก่าเล่าความหลังคนร่วมสมัย มีเรื่องราวสถานที่เพื่อความแจ้งของอดีตที่กำลังเลือนหายครับ ผมจะตามมาเขียนที่นี่ก็ไม่เหมาะกับบล๊อกของคุณลุงครับ ขอบคุณครับ

   ขอบคุณ มาก ๆ ครับ กลับไปอ่านแล้ว ครับ

     ที่จริง ... คิดหนัก คิดมาก ทุกครั้ง ก่อนตัดสินใจเขียน แต่ละ บล็อก หรือเข้า Comment แต่ละครั้ง ... เพราะต้องรับ ผิด - ชอบ ต่อสิ่งที่เขียน ... และที่สำคัญ ... คือ

      ปัญญาชน ผู้รู้ อาจดูแคลนเอาว่า ... เราอวดรู้ ยกหู ชูหาง

    ซึ่งจริง ๆ แล้ว ก็ไม่ได้รู้อะไร มากกว่า สมช. ท่านอื่น ...

   ครั้นจะไม่เขียน ... ก็เสียดาย ประสบการณ์ ... มีอาจมีประโยชน์ กับท่านที่ไม่เคยประสบด้วยตนเอง ... แต่กำลังสนใจ ใฝ่หาอยู่ ... 

        คิด ซะว่า เป็นการ แลกเปลี่ยน ประสบการณ์ กันและกัน ... เนาะ

     ดีกว่าพาตาย ไปพร้อมเรา

-ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวนี้ภูมิปัญญาของคนรุ่นก่อนสูญหายไปมากแล้ว คนอยากรู้ก็ไม่ทราบจะถามใคร เรื่องที่มีคนบอกความรู้ให้ แล้วคนอื่นตำหนิผมขออนุญาตออกความคิดเห็นนะครับ อยากให้คุณลุงคิดเสียว่า เขาว่าเราดีก็ถูกของเขา เขาเราไม่ดีก็ถูกของเขา เขาไม่ว่าอะไรเลยก็ถูกของเขา เขาชอบแดด(ได้ตากผ้า ตากปลาฯ)เขาก็ว่าแดดดี คนไม่ชอบแดด(พ่อค้าแม่ค้าขายของฯ)ก็ด่าว่าแดด บางคนที่ไม่เกี่ยวแดด(อยู่ในห้องแอร์)ก็เฉยๆ  วิญญูชนไม่ตำหนิคนคิดดีทำดี ไม่ถูกก็แนะนำท้วงติงกัน ติเพื่อก่อครับ ผมเองหากเขียนไม่ถูกต้องก็ปวารณาตัวให้คุณลุงว่ากล่าวได้ครับ

-ทุกวันนี้เด็กยิ่งไม่เอาเรื่องเอาราว แล้วยิ่งไปกันใหญ่ ขออนุญาตเลาเรื่องซึนามิ พวกเราๆไม่รู้เรื่องเลยว่าไซร่น้ำเลหายไป แต่ชาวมอร์แกนเขารู้พอเหตุการณ์พ้นไปแล้วถามเขารู้พรื่อเขาบอกว่าคนเฒ่าคนแก่เล่าต่อๆกันมาว่ามันเคยเกิดขึ้นแล้ว ถ้าอยู่ๆน้ำเลลดลงไปทั้งๆไม่มีลมฝนฟ้าก็ตามใ้ห้แล่นขึ้นควนให้ไวๆ ผมก็ยิ่งอยากวอนให้คนที่มีความรู้ได้ถ่ายทอดไว้ ผิดถูกอย่างไรค่อยศึกษากันต่อไปดีหายสูญหายไป  ผิดถูกอย่างไรผมขอโทษคุณลุงด้วยนะครับ

อ้าววววว .... ขนหน้าแข้งยักษ์นี่เอง  ว่าไซยุงขบแต่ละทีคัน  ยิ่งเกายิ่งมัน   :sweating:

บางทีมาวี่ ๆ ข้างหู  ตบเอาบ้องหูตัวเอง  มึน เลย   :uhuhuh:

สรุปได้แว้..ท่านผู้อาวุโส..นี่แหละที่ร้าย..กว่ายุง..มีอะไรมาให้ประเทืองปัญญาลูก ๆ หลาน ๆ ท่านมีความสุขที่ได้ถ่ายทอด หลานก็มีความสุขที่ได้รับฟังเรื่องเล่าประสบการณ์ ที่ไม่สามารถที่จะประสบเรื่องเหล่านั้นได้หมดทุกเรื่อง แชร์เรื่องราวเล่าขานจากท่านผู้..รู้..(จะบอกว่าผู้เฒ่าก็เกรงใจ๊เกรงใจค่ะคุณลุงขา)

สวัสดีค่ะ ลุงพะโล - ว๊าวๆๆ Once upon a time  :good-job:      :desperate:

ชีวิตที่เรียบง่ายกับความพอใจในสิ่งที่มี

:uhuhuh::uhuhuh::uhuhuh:

"ความสุขของชีวิตในวันนี้ คือทำตามวิถีพอเพียงของพ่อ"

หน้า