เที่ยวไร่กาแฟ จ. กาญจนบุรี

สวัสดีค่ะ   เพื่อนๆ สบายดีหน้าฝนกันทุกคนมั้ยคะ ช่วงนี้อากาศชื้น บางที่ก็ฝนตกน้ำท่วม แฉะไปหมด อากาศดีๆ แบบนี้เหมาะแก่การนอนอยู่บ้านเป็นที่สุด

     แต่ด้วยความชอบท่องเที่ยวธรรมชาติ ก็ไม่วายที่นุสิจะออกไปผจญภัยกับเพื่อนๆ จนได้ แต่งานนี้ไม่เหมือนทุกๆ ครั้ง เพราะนุสิ ได้ออกไปพบปะผู้คนที่หลากหลายมากขึ้น นอกจากกลุ่มบ้านสวน ทีุ่คุ้นหน้าคุ้นตาเห็นกันอยู่เป็นประจำแล้ว

  กลุ่มใหม่ที่นุสิตา นำพาชีวิตเข้าไปมีส่วนร่วมกันการผจญภัยครั้งนี้ คือ กลุ่ม "ถลอกปอกเปิกทัวส์ " แต่ภาพที่เอามาลงให้ชมกับเพื่อนกลุ่มใหม่ นี้ มีไม่มาก เพราะเนื่องจาก บางคนก็ไม่รู้จัก บ้างก็ผสมมากับกลุ่ม Off Road หรือ พวกขับรถวิบากไปตามป่าเขา เพื่อนๆ คงรู้จักนะคะ ทั้งหมด รวมๆ แล้ว 20 คน เพื่อนกลุ่มใหม่นี้ จะไปเที่ยวกันเดือนละ 2 ครั้ง โดยประมาณ

  ส่วนสมาชิกบ้านสวนของเราที่ไปนั้น มีใครกันบ้าง มาดูกันนะคะ

    เริ่มออกตัวจากกรุงเทพฯ โดยรถตู้ ประมาณ 4 ทุ่ม ถึงบ้านไร่พี่วิทย์ จ.กาญจนบุรี ประมาณ ตี 3 ไปถึงไม่ได้เจอพี่วิทย์ค่ะ ทราบจากพี่พนิดาว่า พี่วิทย์ ติดภาระกิจที่ขอนแก่น คงกลับมาไม่ทัน แต่พี่วิทย์ได้สั่งไว้ให้คนพื้นที่ต้อนรับเรา และพักผ่อนที่บ้านไร่แห่งนี้ตามอัธยาศัย 

    พอไปถึง ต่างคนก็ต่างหิว แม่ครัวคนเก่งของเราซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้ เธอคือ พี่พนิดา วิลัยรัตน์ ขาประจำออนไลท์ตลอด ของเรานี่เอง ฉันรับหน้าที่เป็นลูกมือค่ะ พร้อมป้าลัด และแม้ว สมาชิกนอกบ้านสวนค่ะ

 พออิ่มแล้วเราก็พักผ่อน ตามอัธยาศัย ตื่นเช้ามาประมาณ 7 โมงเช้า พี่พนิดา (อีกแล้ว)เข้าครัวทำกับข้าวคนเดียว ส่วนพวกฉันก็ รอกินตามอัธยาศัยอีกเหมือนกัน

จบอาหารมื้อเช้า เริ่มออกเดินทาง โดยรองเท้าส่วนตัว เพื่อไปน้ำตกยุทยานเขาแหลม

บรรยากาศการท่องป่าเพื่อไปยังน้ำตกยุทยานเขาแหลมของฉันครั้งแรก และของใครอีกหลายคน จะเป็นยังงัย เชิญชมกันได้เลยค่ะ

     กว่าจะออกจากป่าได้ เท้าไม่มีแรงเลยค่ะ ตลอดระยะเวลาที่พวกเราใช้ในการเดินทางท่องน้ำตกครั้งนี้ ค่อนข้างทุลักทุเล ฝนก็ตก พื้นดินเเฉะไปหมด มีน้ำขัง และเราต้องลุยไป สนุกมากเลยค่ะ นุสิหวังว่า วันนึง อยากจะไปท่องเที่ยวผจญภัยแบบนี้อีก และคิดว่า เพื่อนๆ ที่เหลือ ก็คงคิดเหมือนกัน

มาดูคลิปต่อไปกันเลยนะคะ

     เราเริ่มออกเดินทางตอนบ่ายแก่ๆ เพื่อไปยัง แพที่พวกเราจองกันไว้ แต่ปรากฎว่า เหตุที่เราออกจากน้ำตกล่าช้า ทำให้กลุ่มเพื่อน ถลอกปอกเปิกทัวส์ และกลุ่ม Off Road เดินทางออกไปก่อนแล้ว เพราะไม่แน่ใจว่า เราจะตามมารึเปล่า

     เราจึงต้องจ้างเรือยนต์ ออกตามไปทีหลัง ไม่ถึงชั่วโมง พวกเราก็มารวมตัวกันจนครบทีม แต่อย่างที่บอก ยังมีหลายคนที่ยังไม่รู้จัก เลยไม่ได้เก็บภาพพวกเขามาด้วย

เชิญเพื่อนๆ ชมธรรมชาติที่เราเก็บภาพกันมาได้เลยค่ะ

        พอมาถึงฝั่ง พวกเราก็ไปต่อกันที่ สะพานข้ามแม่น้ำแคว ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วโลก  การท่องเที่ยว 2 คืน 3 วัน ใช้งบ 2,000 บาท รวมทุกอย่างแล้ว คุ้มจริงๆ ค่ะ

     ภาพสะพานข้ามแม่น้ำแคว เราไม่มีภาพให้ชมมากนะคะ เพราะคนเยอะมาก และมุมที่โดดเด่น ก็เห็นจะมีแต่สะพาน หาจังหวะคนว่างๆ ถ่ายรูปสะพาน ไม่ค่อยจะได้เลย สินค้าที่วางขายจะเน้นผลไม้ และพลอยเมืองกาญจน์ (แอบเห็นมังคุดกิโลละ 60)

     มาชมภาพประกอบกันเลยค่ะ ( นี่คือภาพพวกเรากับกลุ่มถลอกปอกเปิกทัวส์บางคนที่ร่วมเดินทางมาด้วยกัน ส่วน Off Road แยกไปแล้ว)

     เราสองกลุ่ม มีการแลกเสื้อกันเป็นที่ระลึก โดยไอเดีย ของพี่พนิดา ค่ะ ก็เลยใส่โชว์ถ่ายรูปซะเลย

     การเดินทางอันแสนวิเศษนี้ จะมีขึ้นไม่ได้ ถ้าขาดพี่พนิดา ผู้ที่ชวนฉันและป้าลัดเข้าร่วมกลุ่มและอีกหลายเพื่อนบ้านสวนที่ไม่ได้มาด้วยในครั้งนี้ และขอขอบคุณผู้นำทาง เจ้าหน้าที่อุทยานหนุ่มคนนั้น ที่อาสาพาเราสู่ผืนป่าและน้ำตก (ระหว่างอยู่ท่ามกลางน้ำตก พี่ทหารคนนี้ได้ขอให้พวกเราถ่ายรูปเขาเป็นที่ระลึกให้หน่อย แล้วเขาก็เอาหวี ขึ้นมาหวีผมก่อนถ่ายรูป ฮามากเลย)

    นุสิตา และ เพื่อนๆ ต้องขอขอบคุณพี่พนิดามากนะคะ สนุกและปลอดภัยมากค่ะ ราคาก็ไม่แพง เที่ยวชิลล์ๆ แบบนี้ กลับมาก็ไม่เดือดร้อนเงินในกระเป๋าอีกด้วย มีโอกาสคงได้ร่วมเดินทางกันอีกนะคะ