นุสิตาพาชม > พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ กรุงเทพฯ

       สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้นุสิตา จะพาเพื่อนๆ ชมงานพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ที่จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ นะคะ

     นุสิไปมาเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2555  การไปครั้งนี้เป็นการไปชมพิพิธภัณฑ์ครั้งแรก เจตนาแรกต้องการไป ถนนคนเดินท่าพระอาทิตย์ ตามคำเรียกร้องของพี่ สวนเพชร งานที่จัดขึ้นเป็นงานย้อนรำลึกกรุงรัตนโกสินทร์ 230 ปี  

      แต่เนื่องจากเราไปถึงงานก็ประมาณ 5 โมงเย็น นุสิมีเวลาเดินแค่ 1 ชั่วโมงครึ่ง

เพราะวัีนนี้ทีมชาติไทยแข่งกับสิงคโปร์ ตอน 1 ทุ่ม ต้องรีบกลับไปดู วันนี้เลยเดินเที่ยว

ชมไม่เต็มที่อย่างที่ได้วางแผนไว้แต่แรกก็เลยได้เที่ยวชมแค่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ

เท่านั้น...

    เพื่อนๆ ตามนุสิตามาชมกันเลยนะคะ ถ้าเพื่อนท่านใดสนใจ ก็ไปเที่ยวชมได้ ชมฟรีค่ะ ช่วงนี้ยังเปิดให้เ้ข้าชมอยู่.....

บรรยากาศหน้างานค่ะ นุสิคิดว่าโชคดีที่มาในวันนี้ เพราะภายในรั้วพิพิธภัณฑ์ฯ ข้างๆ มีการจัดงานแต่งงาน ทุกคนแต่งชุดไทยโบราณ  ตอนเิดินเข้ามานุสิรู้สึกเหมือนตัวเองเข้าไปอยู่ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์จริงๆ 

เขาห้ามไม่ให้เราเข้าไปดูค่ะ ต้องดูจากข้างนอกงาน ส่วนพิพิธภัณฑ์ฯ จะอยู่อีกด้านหนึ่ง

ของงาน

ดูการแต่งตัวของคนที่มาในงานวันนี้ ย้อนยุคจริงๆ คิดว่าคงเป็นตีมของงานที่เจ้าบ่าว

และเจ้าสาวกำหนดขึ้น 

คนชอบของโบราณ มาบล็อกนี้ ไม่ผิดหวัง มาดูของไทยๆ ที่คนไทยสมัยก่อนใช้กันจริงๆนะคะ  

เสื้อ และ หมวกลงยันต์ สร้างขึ้นเมื่อพุทธศักราช  ๒๓๕๘



เครื่องโทรเลขระบบมอส  (รหัสสัญญาณภาษาไทย)



พระแสงปืน และปืนแบบต่างๆ จากยุโรป ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว













หัวกล้องยาสูบเมียร์ชอม รูปสิงโต ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว



ปืนบรรณาการจากประธานาธิปดีแห่งสหรัฐอเมริกา



ขบวนรถไฟจำลอง เป็นเครื่องบรรณาการเจ้าสมเด็จพระนางเจ้าวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักรถวายสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พ.ศ. ๒๓๙๘



พระแสงกระบี่และพระแสงปืนของเจ้านาย  รัชสมัยสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว



เครื่องมือที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระศรีพัชริน

ทราบรมราชินีนาถ ทรงใช้ในพระราชพิธีวางศิลาฤกษ์ สร้างทางรถไฟ พ.ศ. ๒๔๓๕



กำไลสำริด และห่วงคอสำริด วัฒนธรรมบ้านเชียง อายุประมาณ ๒,๓๐๐ - ๑,๔๐๐ ปี









ดาบอาญาสิทธิ์ (ดาบประจำตำแหน่งแม่ทัพ) พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระราชทานเจ้าพระยาบดินทรเดชา

พระเก้าอี้พับ (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท สันนิษฐานว่า อันเชิญไปให้ในระหว่างการทำสงคราม)




สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถี







การรับราชฑูตฝรั่งเศสที่พระที่นั่งสรรเพชญ์ประสาท



สมเด็จพระรามาธิปดีที่ ๑ (พระเจ้าอู่ทอง) ทรงบัญชาการสร้างพระนครศรีอยุธยา







แบบจำลองเรือพระที่นั่งมหาจักรีลำที่ ๒



หมอนรถไฟ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ทรงวางเป็นปฐมฤกษ์



บรรยากาศด้านนอกพิพิธภัณฑ์ 

ระหว่างทางที่เราเดินเท้ามุ่งไปยังถนนพระอาทิตย์ เนื่องจากมีการปิดถนนตลอดเส้นทาง

ตั้งแต่ถนนพระอาทิตย์ ผ่านไปสวนสันติชัยปราการ แยกบางลำภู สะพานพระปิ่นเกล้า

จะมีภาพสวยๆ เหล่านี้ให้นักท่่องเที่ยวชมเป็นจุดๆ แวะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกมากมาย 

เดินออกจากพิพิธภัณฑ์ เดินตามทางโค้งมาเรื่อยๆ ไม่นานก็ถึงถนนพระอาทิตย์....
ชมบรรยากาศถนนคนเดิน ของกิน ของใช้มากมาย 





















หมี่แห้งเกี๊ยวหมูแดง ชามละ 40 บาทค่ะ 

หมี่แห้งเีกี๊ยวเป็ด ชามละ 50 บาท ชามนี้ของนุสิ เดินมาทั้งวันหิวแล้วขอหม่ำข้าวก่อนนะคะ




นุสิขอจบการเดินทางอันแสนวิเศษ สำหรับชีวิตชาวกรุงไว้เพียงเท่่านี้นะคะ 

    สุดท้าย  ขอประชาสัมพันธ์งานซักนิด สำหรับคนที่อยู่ในกรุงเทพฯ การเดิน

ทางสะดวกสะบาย ไม่มางานนี้เสียดายแย่ และส่วนคนที่อยู่ต่างจังหวัด อยากมา

ชมวิถีชีวิตคนกรุงในสมัยรัตนโกสินทร์ ก็เชิญได้ค่ะ 
    
     นุสิตาเดินได้ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของงานนะคะ จริงๆ มีงานแสดงศิลปะวัฒนธรรมไทย

มากมาย มีดารามาขายของที่ระลึก ของกิน ของใช้เยอะค่ะ  ภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ

มากมาย อาทิ นั่งเรือข้ามฝาก ปั่นจักรยานรอบกรุงฯ หนังกลางแปลงย้อนยุค ซุ้มจัด

แสดงงานเขียนและงานศิลปะและภาพถ่ายสมัยรัตนโกสินทร์

่ขอบคุณที่เพื่อนๆ ทุกท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมชม สำหรับคืนนี้ บ๊าย บาย ค่ะ