วันนี้ ... มีสอง ?
สอง คนละเรื่องเดียวกัน ... อุบัติขึ้น ... ในเช้าวันนี้( 16 ม.ค. 2556)
หนึ่งนั้น ... อุบัติ จาก ใจ “กลางไอแดด”
อีกหนึ่ง ... ต้องขุดค้น พังเพย ซึ่งถูกเมิน จากสังคมปัจจุบัน ที่ว่า “ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม” ... มา ข่มใจให้ “ร่ม ๆ” เข้าไว้ ... จึงเริ่มทำวันนี้ ... ด้วยหวังจะได้เอาดี อีก สัก 3 – 4 วัน ข้างหน้า ...
เปล่านา ... มิได้ค่อนขอดใคร ... ก็เห็นอยู่ตำตา ว่า ... ปัจจุบัน ขวาน พร้า ถูกเมิน อย่าว่าจะหยิบฉวยเอาใช้ ... ค้นหาแทบตาย ในซอกในซอง ไม่เจอหรอก ... เด็ก ๆ (ไม่นับรวมเกษตรกรนะเนี๊ยะ) ปัจจุบันจึงไม่รู้จัก พร้า ขวาน ... คำพังเพย ที่ยกมาข้างต้น จึงเป็นหมัน !
แต่ หากเอ่ยถึง เลื่อยยนต์ ... ดาบยนต์ (เครื่องตัดหญ้า) ... มโนภาพใสปิ๊ง ปรากฏ ชัดเชียวแหละ ...
โอ๊ะ ๆ ๆ ... เผลอไม่ได้ ... เป็นนอกทางอยู่เรื่อยเชียว ... กลับมาขวัญเอ๋ย (เกี่ยวกะขวัญรึเปล่าไม่รุนะ) ... มาคุยเรื่อง “วันนี้ ... มีสอง” ต่อ
หนึ่งแรก ... ที่ว่า อุบัติ จาก ใจที่อยู่ “กลางไอแดด” ... เนื่องด้วย ลูกกำลังจะไปทำงาน ... แต่อาหารยังไม่มี ... จะให้ทันท่วงที ... ก็ต้องจานด่วน ...ไงครับ
จะให้ด่วนพิเศษ ก็ “กะเพราหมู” ซีครับ ... ด่วนจริง ไม่รอช้า ... เดินออกไปหน้าบ้าน
หักกะเพรา 4 – 5 ก้าน เข้ามาล้าง เด็ดเอาเพียงใบ ... พริกดอกใหญ่หั่นแฉลบ ... ส่วนพริกขี้หนู บุบ เอา ก็พอ ... กระเทียมไทย ปอกทุบ รอไว้
คว้าด้ามถือกระทะ เหวี่ยงขึ้น ตั้งไฟ ... ร้อน (ไม่เชื่อเอามือแตะดูซี) เทน้ำมันใส่ ตามกระเทียมลงไป ... ผัดพอเหลือง ... ขยุ้ม “หมูสับ” ประคอง หรือ โยนลงไปตามชอบ (แต่อย่าให้พลาดขอบกระทะ นะจ๊ะ) ... ดูหมูสุก เหยาะซีอิ้วหวาน (ไม่มีก็ไม่เป็นไร ใช้ซีอิ้วดำ ค่อยปรุงรสด้วยน้ำตาลเอา) ลงไป ตามด้วย ซีอิ้วขาว ซอสหอย ... ชิม ... แว่ว ๆ รัดดวงตะโกนว่า “หรอย” ... อัญเชิญ พริกทั้งสอง และกะเพรา ลงพบปะสาชิกในกระทะ คนพลิกด้วยตะหลิว 4 - 5 ตลบ.… ปิดไฟ (ไม่ต้องใส่กลอน)
ได้แล้วครับ ... “ผัดกะเพราหมู” ... จานด่วน มื้อเช้า และ ข้าวกล่อง มื้อกลางวันของลูก
จบ .. ดิเอ็น .. ไป หนึ่งล่ะ ...
ทีนี้มีอีก หนึ่ง ... อะไรอีก ล่ะ ? ... เอ้า .. ตามไปดู ... เอ้ย อ่าน
สำเร็จเสร็จเรื่อง กะเพราหมู ... กำลังล้างกระทะ ...
“พ่อ ...” เสียงเรียกจากลูกที่กำลังตักข้าว และ กะเพราหมู อัดลงกล่องข้าว ที่อนุโลมเรียกว่า “ข้าวห่อ” (ก็ไม่ห่อจริง ๆ นี่ครับ) ... มือยังไม่ละจากงานล้างกระทะ ... แต่ก็ หมุนคอ (แต่หน้าติดไปด้วย) ไปทางต้นเสียง ที่วุ่นอยู่กับกล่องข้าว ... เลยถาม
“ทำไม ?” ... ลูกหยุดเรื่อง ข้าวห่อ หันมาเสวนาด้วย
“พ่อจะกลับแล้ว ไม่ใช่เรอะ” ข้าพเจ้าไม่ตอบ (ก็พอจะทราบว่าเป็น ปุจฉา ที่ไม่ต้องการ วิสัชนา) แล้วก็จริงดั่งคาด เมื่อไม่ได้ยินเสียงจากข้าพเจ้า เสียงเขาก็เจื้อยมา ... “เมื่อวาน หนู ซื้อหมูบด กับหนัง มาให้พ่อทำแหนมไว้ให้กินหน่อย ... ว่าจะทำแหนมหู หาซึ้อไม่ได้ เลยเอาหนังมา”
แล้ว คุณลูกก็หันกลับไปยุ่งกับกล่องข้าวตามเดิม
‘นี่ ! .. เขาขอร้อง รึ สั่งวะ ?’ ครุ่นกับตัวเอง แถมขอดในใจ ‘จะกิน “หน่อย” แล้วให้เราทำ “แหนม” ทำไมวะ’ ... ก็บอกแล้ว ว่า ครุ่น แล ขอดในใจ ... จึงไม่มีเสียงใด ๆ หลุดจากปาก
ลูกไปแหล่ว ... กระบวนการ สร้างแหนม ... อืม ม ... ใช่ ทำแหนมนั่นแหละ จึงเริ่มขึ้น ... แอ่น แอ้น ๆ ๆ ๆ ....
ส่วนผสมต่าง ๆ จากก้นครัว เหล่านี้ ... ถูกคุ้ย ค้นหามาเตรียม
กระเทียมไทย เลือกหัวใหญ่ ประมาณ 4 – 5 หัว (ลืมนับไว้ก่อน) ถูกนำมาเปลือย อาภรณ์ แล้วปล่อยร่าง ขาว ๆ ให้นอนรอในตะกร้าเล็ก ๆ ที่เห็นนี่ ... (ไม่รู้เขาจะอายรึเปล่าเนาะ)
ส่งสัญญาณ บอกป้า ... (หาผู้ช่วย... ก็คนเดียว เหงาฮ่ะ) ให้หยิบหมู กะหนัง ในตู้เย็นมา จัดการ
ชั่งน้ำหนัก ดู ... เนื้อ + หนัง ... 1 กิโล ฯ นิด ๆ ... รายการนี้ “ต้องสนอัตราส่วน” เล็กน้อยครับ ถึงจะไม่เคร่งครัด ก็เหอะ ไม่งั้น ถึงวัน เปิดห่อ ... ฮึ ๆ ๆ ... ออกมหาสมุทรไปเลย
ได้หนังมาแล้ว ... ล้าง พักให้สะเด็ดน้ำ (ลูกซื้อที่หั่นมาแล้ว ครับ)
ระหว่างรอ หนังสะเด็ดน้ำ ... เตรียมหาข้าวสุกมาตำ (ขี้เกียจก็ไม่ตำ แต่วันนี้ยังไม่ขี้เกียจ) ... เปิดหม้อ ...
ป้าหุงข้าวสีเอาไว้... ชั่งใจนิดหนึ่ง ... เอาก็เอาวะ ‘จะออกมาเป็นสีถะม่อนฉ้อน ก็ช่าง’ (กรุณาอย่าถามว่า สีถะม่อนฉ้อน เป็นอย่างไร ... ข้าพเจ้าก็ไม่รู้) ...
ตักมา 4 – 5 ช้อนคาว จะเถียงว่าช้อนแกง ก็ถูกอีกแหละ (ก็หมูกิโล ฯ เดียวนี่ครับ)
ใส่ครก ตามด้วย เกลือสมุทร ปริมาณ ครึ่งหนึ่งของข้าวสุก ... สะกิดปลุกกระเทียมที่นอนอยู่ให้มาลงร่วม ...
ตำจนเกือบละเอียด (ก็เริ่มขี้เกียจนี่ เท่านี้ก็พอ ... เท่านี้ก็พอ) ... เติมน้ำตาลปีบ 1 ช้อนคาว (ไม่เติมก็ได้) ที่เติมนี่เพื่อเร่งให้เปรี้ยวเร็ว ... ยีให้เข้ากัน
เห็น ป่ะ ?
ระหว่าง ข้าพเจ้า ง่วนกะเครื่องเร่งเปรี้ยว ป้าก็ เตรียมเนื้อบดไว้ให้
เสร็จ เรื่อง เครื่องทำเปรี้ยว ก็ เอาทุกอย่างลงภาชนะ ที่จะใช้ผสม ... วันนี้ ... ทำไม่มาก ใช้หม้อ
ทุกอย่าง ลงไปสวนเส กันแล้ว ก็สร้างความเป็นหนึ่งเดียวให้เหนียวหนึบ ด้วยการนวด จนขี้เกียจ
‘เฮ่อ ... เสร็จซะที ... ! รำพึง ไม่ทันจบ
“พ่อ ... ถ้าได้หอม ๆ พริกไทย คงดี น่ะ” เสียงนำเสนอจากปาก ป้า ลอยมา ให้สะดุ้ง
แม้น จะมิใช่สั่ง แต่ ... สำเนียก ท้ายโคลงกระทู้ บท “ทะ ลุ่ม ปุ่ม ปุ” ที่เคยเรียนว่า
“ปูว่าหอยแม้กล้วย ว่ากล้ายเรียมตาม”
เจ้า นี่เลย ถูกเรียกใช้ ...
ครับ ... ใช่เลย ขวดป่นพริกไทย
ป่นลงไป ... แล้วลงมือคลุกซ้ำ
เออ ... เสร็จซะที คราวนี้ เสร็จจริง ๆ ... ป้าบรรจุถุง (ไม่มีใบตองครับ) ... อัด ... ผูก
สีไม่สดสวย เพราะใช้ข้าวไรซ์เบอร์รี(สีม่วงแกมดำ)
กำลังจัด เก็บไว้รอเปรี้ยว ... เหลือบไปเห็น สิ่งหนึ่ง ...! ซึ่งล้างเตรียมไว้แล้ว
โอ๊ะ ... ! ลืมเจ้านี่ ...
จะแกะถุงเติมใส่ ก็ใช่ที ... เอาอย่างนี้แหละนา ... ไว้คราวหน้า อย่าลืม ๆ ๆ ...
ครับ ... ไม่ใส่ ก็ไม่ใส่ ถ้าไม่ลืม ก็ใส่ทั้งเม็ด ถุงขนาดที่เห็น ข้างบน ... เสียบ ๆ ฝัง ๆ เข้าไปถุงหนึ่งก็ ประมาณ 3 – 4 เม็ด
ครับครบถ้วนกระบวนความแล้วครับ ...
อดใจไว้ 3 – 4 วันก็แกะ เข้า Menu ตามชอบได้แล้ว ครับ
แล้ว ... จะแวะมา ร่วมทำ Menu จาก แหนม ทานกันไหม เอ่ย ?
- บล็อกของ paloo
- อ่าน 4503 ครั้ง
ความเห็น
paloo
17 มกราคม, 2013 - 14:48
Permalink
Re: อร่อย แน่ ๆ
พูดไป จะว่าแกล้งเอาใจ ...
ทำเหอะป้า Guaranty ว่าอร่อยแน่ ๆ
อร่อยของผม ป้าอาจบอก ไม่อร่อยก็ได้ เพราะ อร่อยของป้า ป้ารู้จักลิ้นของป้าดี น่ะ
mutita.co.uk
19 มกราคม, 2013 - 16:15
Permalink
Re: วันนี้ ... มีสอง ?
ขอบคุณมากๆเลยค่ะคุณลุงสำหรับสูตรแหนมและขั้นตอนการทำ แบบนี้ลองทำตามได้ เพราะส่วนผสมหาซื้อได้แถวนี้ ยังได้เพิ่มเติมแหนมซี่โครงหมูที่ชอบกินมากๆอีกด้วยจากกระทู้ที่ยี่สิบขอบคุณอีกครั้งค่ะคุณลุง
nusita_angel
18 กุมภาพันธ์, 2013 - 14:09
Permalink
Re: วันนี้ ... มีสอง ?
เพิ่งย้อนกลับมาอ่านตามคำแนะนำของเพื่อน ชอบทานแหนมมากที่นี่ขายแพง ขอสูตรลุงพาโลเลยนะคะ หนังหมุที่นี่หาไม่ยาก ขอบคุณค่ะ
หน้า