ขนม ... ทะวาย !

หมวดหมู่ของบล็อก: 

     จากภาพที่ท่านเห็นอยู่นี้ ... ท่านผุ้อ่าน คงนึกว่า ... ข้าพเจ้า

         จั่วหัว ... “ผิด” ... !

 

    เปล่าครับ ... ตั้งใจเขียน ว่า “ขนม” ... นั้นแหละครับ ... ไม่ใช่ “ทุเรียน” ... และทุเรียนที่เอามาให้ดูนี่ ... ก็ไม่ได้นำมาเป็นส่วนผสม ของขนมที่จะเล่า ... แม้แต่น้อย ...

       ถึงตอนนี้ ... ท่านคงเป็น “งง + รำคาญ” ... แล้วซีนะ ... ว่า ... “แล้วเอามาทำไม” ?

              ก็มัน ... “คนละเรื่อง เดียวกัน” ... นี่ครับ

     ที่เอารูปมาขึ้นน่ะ ... “ทุเรียน ทะวาย” ... เชียวนาคราบบบบ ...

        มันเกี่ยวกับ ... “ขนม” ... ที่จะพูดถึงก็ ตรงที่เขา ทั้งคู่ ... “ทะวาย” .... เหมียนนน ... กัลลลล ... คร้าบบบบ ...

     จุดเริ่ม ... เพราะ ... เมื่อวาน ... แวะตลาด ... แล้วตาไปกระทบรูป กระทง ... เอ... ? ... หรือเรียก  “เข่ง” ... ดีน้า ... เอาเป็นว่าท่านจะเรียกอะไรก็ได้ ... แต่เขามีไว้ “หยอดแป้ง นึ่งขนมแข่ง” ... ซึ่งเข้าใจว่า ... แม่ค้า คงเก็บไม่หมด ... ทั้ง ๆ ที่เลยฤดูกาล มาแล้ว

         แต่ความอยากไม่มีฤดูกาล ...

     ชี้ บอก ให้ลูกดู ... ลูกตั้งขอเสนอ ว่า “ซื้อไปทำกินกันไหม พ่อ” ... กิเลสทุน มีอยู่แล้ว ... เจรจา ต้าอ้วย ... รับของ ... จ่ายตังค์

          เย็นวาน ... จัดการ ...

     ค้น “น้ำตาลโตนด” ... ใส่หม้อด้ามถือ ... หยอดน้ำพอกระสาย ... ตั้งไฟกลาง ... คอยคนอย่าให้ไหม้ ... จนน้ำตาลละลายหมด ... ปิดไฟ ยกลง ... พักให้อุ่น

     ระหว่าง รอ Syrup คลายร้อน ... ตัดถุงแป้งข้าวเหนียว ... เทใส่กะละมัง ...

    Syrup อุ่น ... เอามาตัก หยอดลงในแป้ง ... สลับ กะนวด ไปเรื่อย  ... จนคลายเมื่อย ... โอ๊ะ ... ขออภัย ... 

    จนแป้ง หยุ่น เหนียว ... ค่อย เอาน้ำสะอาด มาเติม ทีละน้อย ... สลับการนวด จนแป้ง ข้นหนืด ... 

 

 

 

 

 

               “คล้ายนมข้นหวาน”

    อย่างนี้ ... หมักไว้ ... อย่างน้อย สัก 12 ชั่วโมง เพราะใช้แป้งถุง ..

 

 

 

 

 

 

 

 

    ข้าพเจ้า ... หมัก ค้างคืน (ประมาณ 16 – 17 ชั่วโมง) ...

    เปิดฝาภาชนะดู ... ก็อย่างที่เห็นนี้แหละ ครับ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

     ทำความสะอาดกระทง ที่ซื้อมาเมื่อวาน ... แล้ว ทาด้านในบาง ๆ ด้วยน้ำมันพืช ...

     ตัก แป้งหยอด ... เกือบเต็ม ... แต่อย่าให้เต็ม ไม่งั้นตอนนึ่ง จะล้น !

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

    แล้วเรียงลง ถาดนึ่ง ...

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

      สุกแล้ว ... ครับ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

    นวดแป้ง นาน ... นวดให้เหนียว ...

    จะได้ขนมที่ ... เนื้อเนียน ... เหนียว

 

 

 

 

 

      แค่นี้ ก็ได้ ... "ขนมเข่ง ทะวาย" ... ไว้ทานแล้วครับ

      ใช่เลย ... “ขนมเข่ง “ ... นี่แหละครับ ...

แค้ในเมื่อ นอกฤดูกาล ... ก็อนุโลมว่า ... “ทะวาย” ซะก็แล้วกัน ...

หยวน ๆ ... นา

ความเห็น

น่ากินจัง ถ้าเหลือเอาไปตากชุบไข่ทอดได้อีก...

    ที่เหลือ ... ผึ่งแดด แล้วครับ ... แต่ยังไม่ทันได้ชุบไข่ทอด 

      หมดเสียก่อนแล้ว

ไม่ได้กินนานแล้วค่ะ 

""

 

  ทำเลย ... อ้อ ... ขออภัย !

    ทำที่บ้านนั่นแหละ ... ไม่ต้องไปเลย ...

  วิธีทำก็แจ้งในสลากแล้วครับ ... สัดส่วน ... แป้ง / น้ำตาบปีบ ... เท่ากันโดยน้ำหนัก

     แต่ที่ลุงทำ ลดน้ำตาลนิดหน่อย ... เนื่องจากไม่ชอบหวาน

สมัยก่อนบ้านผมเขาก็ทำกันแบบนี้ครับ บดแป้ง (ที่จริงบดข้าวเหนียว) แล้วใส่ถุงผ้าทับให้แห้งหมาดๆ แล้วเอามานวดกับน้ำเชื่อม ทิ้งไว้คืนนึงแล้วค่อยนึ่ง แต่ตอนนี้ใช้แป้งถุง กับน้ำเชื่อม ขนมเข่งเลยไม่เหนียวเหมือนสมัยก่อน

   ใช่เลยครับ ลุง ... คาเป็นแป้งแล้ว ... ไม่ต้องบดซ้ำ ... ฮึ ๆ ๆ

      อยู่เครง (ปัจจุบัน) ... หาไม่ ครกบด (โม่) แล้ว ... เลยต้องใช้แป้งถุง

    จึงต้องออกแรง นวด ... และใช้เวลาหมัก นานกว่า แต่แรก (สมัยก่อน)

       นวดนาน ๆ ... แล้วหมักค้างคืน กะเหนียว แข้นได้ ครับ

ลุง ผมขอกินเรียนกอนหวา ขี้คร้านถ้าถึงตอเช้า

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

  เรียน ฮัน เม็ดแล้ว ... เอาโรปมาให้แลว่า ... "ทะวาย" เหมือลลล ... กัลลลล

สุดยอดเลยค่ะ  จุ๋มเห็นแล้วก็นึกถึงขนมเข่งชุบไข่ทอด  กินสัก 2-3 ชิ้นคงไม่ทำให้น้ำตาลกระฉูดหรอกเนอะ..........

   พอเหมาะ ... พอสม ... คงไม่เป็นไรครับ

     แต่สำหรับผม .... สุดคันเร่ง

หน้า