เล่าสู่กันฟัง "ต้นแคมฟอร์"
อ้อยหวานยังแปลบทความให้เว็ป 'เจเปน เทรเวิล' อยู่อีกค่ะ ยังติดลมอยู่ ได้รับรู้เรื่องราวใหม่ๆมากมาย โดยเฉพาะบทความของคุณโทะโมโกะ เขียนได้ละเอียดมาก มีอะไรเล็กๆ น้อยๆ อยู่ตลอดเวลา มีอยู่บทความหนึ่งเพิ่งแปลเสร็จ เกี่ยวกับวัดฮะเซะ แคนนอน ที่คามาคุระ อ่านได้ที่นี่ค่ะ เธอเล่าให้ฟังเกี่ยวกับการฝึกสมาธิแบบหนึ่งของญีปุ่น น่าสนใจมาก
ในบทความคุณโทะโมโกะได้เล่าเรื่องประวัติรูปแกะสลักพระโพธิสัตว์องค์หนึ่งของวัดคือ พระโพธิสัตว์กวนอิม ซึ่งแกะสลักจากไม้ของต้นแคมฟอร์ (camphor tree) อ้อยหวานสดุดกึกเลย โอ้ต้นอะไรเอ๋ย แล้วก็ต้องขุดคุ้ยจนได้คำตอบ เจ้าต้นแคมฟอร์ก็คือต้นการบูรนั่นเอง
รูปแกะสลักพระโพธิสัตว์กวนอิมที่วัดวัดฮะเซะ แคนนอนนี้สวยมากๆ เห็นว่าแกะสลักจากต้นแคมฟอร์ต้นใหญ่ทั้งต้น แล้วปิดทองทั้งองค์ เป็นรูปแกะสลักไม้พระโพธิสัตว์กวนอิมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น (สูง 9.18 เมตร) มี 12 เศียร ด้านหน้า 4 เศียร ข้างซ้ายและข้างขวาอีกข้างละ 3 เศียรอีก 2 เศียรอยู่ข้างบนและข้างหลัง
ตามตำนานเล่าว่าในปี 721 พระรูปหนึ่งไปพบต้นการบูรขนาดใหญ่มากๆ ในป่าใกล้ๆกับนารา แล้วตัดสินใจแกะสลักรูปพระโพธิสัตว์กวนอิมจากต้นการบูรต้นนั้น เพราะใหญ่มากจึงแกะได้ 2 องค์ องค์หนึ่งประดิษฐานอยู่ที่นารา อีกองค์หนึ่งท่านโยนลงไปในทะเล และอธิษฐานให้องค์พระโพธิสัตว์ไปเกยฝั่งในที่ที่มีคนต้องการบูชา หลังจากนั้น 15 ปี รูปแกะสลักพระโพธิสัตว์ได้เกยฝั่งไม่ไกลจากคามาคุระ
รูปพระโพธิสัตว์กวนอิม ขอบคุณjapanesesearch.com
ต้นแคมฟอร์หรือต้นการบูรนี้ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า ซินนาโมมัม แคมโฟรา (Cinnamomum camphora L.) เป็นต้นไม้ที่มีกิ่งก้านสาขามากมีสีเขียวตลอดทั้งปีลำต้นและกิ่งค่อนข้างเรียบมีใบเป็นใบเดี่ยวใบมีลักษณะเรียวเป็นรูปไข่ปลายใบเรียวแหลมขอบใบเรียบด้านบนของใบเป็นมันด้านล่างหรือใต้ใบมีนวลดอกเป็นดอกช่อมีสีเหลืองอ่อน
ผลมีขนาดเล็กค่อนข้างกลม มีสีเขียวเข้ม เมื่อแก่เต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีดำเป็นพืชพื้นเมืองของประเทศจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี แต่ปัจจุบันนี้ได้แพร่หลายไปหลายประเทศเช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย อินเดีย
การบูรที่ได้จากธรรมชาติมีลักษณะเป็นผลึกเล็กๆ สีขาวเกิดอยู่ทั่วทั้งต้นเราจะมองเห็นตามรอยแยกรอยแตกของต้นการบูร และจะมีมากบริเวณใกล้ๆกับโคนต้นและรากซึ่งจะมีกลิ่นหอมมากกว่าส่วนอื่นๆการบูรส่วนมากจะละลายอยู่ภายในน้ำมันหอมระเหยที่อยู่ภายในส่วนต่างๆของต้นการบูร
การผลิตการบูรนิยมทำโดยนำส่วนต่างๆของต้นการบูร มาหั่นเป็นชื้นเล็กๆนำไปต้มหรือกลั่นโดยใช้ไอน้ำน้ำมันหอมระเหยที่กลั่นได้จะอยู่ในภาชนะที่รองรับ เมื่อได้น้ำมันหอมกระเหยที่มากพอจะมองเห็นการบูร ตกผลึกเป็นก้อนที่มีสีขาวๆ แยกออกมาจากน้ำมันหอมระเหย แล้วก็เก็บเอาผลึกนั้นมาทำเป็นก้อนหรือบดเป็นชิ้นเล็กๆละเอียดนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป ในประเทศอเมริกาจะใช้ใบและยอดอ่อนมากลั่นเอาการบูรและน้ำมันหอมระเหยซึ่งจะได้ผลผลิตเร็วขึ้นแต่ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะน้อยกว่ากลั่นมาจากส่วนลำต้น
อ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่
ที่นี้ขอวกกลับมาที่ญีปุ่นค่ะ ต้นการบูรในลัทธิชินโตถือกันว่าเป็นต้นไม้ศักสิทธิ์ และที่มีวิญญาณหรือเทพอาศัยอยู่ ในศาลเจ้าชินโตส่วนมากจะปลูกต้นการบูรกันแห่งละต้นสองต้น แต่ละต้นก็ไม่เล็กเลย ใหญ่หลายคนโอบทั้งนั้น อายุก็เก่าแก่ บางต้นเกือบพันปี
อ้อยหวานคิดว่าเพื่อนๆ คงจะเคยดูหนังการ์ตูนญี่ปุ่นชื่อดัง ‘โทโทโร่เพื่อนรัก’ ถ้าไม่เคยดูขอแนะนำว่าควรจะดูมากๆ ของเขาดีจริงๆ เนื้อเรื่องดี วาดภาพสวยมากๆ อ้อยหวานดูดีวีดีกับลูก ดูแล้วดูอีกกันหลายจบ ชอบมากมาย
ตัวเอกของเรื่องคือ โทโทโร่ ก็อาศัยอยู่ในโพลงของต้นการบูรต้นใหญ่ของศาลเจ้าชินโตแห่งหนึ่ง
ในสมัยสงครามโลกครั้งทีสอง ญี่ปุ่นโดนระเบิดปรมณูสองลูก ลูกแรกที่ฮิโรชิมา ลูกที่สองที่นางาซากิ ที่นางาซากินี้เองที่ศาลเจ้าชินโตแห่งหนึ่ง ศาลเจ้าซานโนะ โดนระเบิดจนเกลี้ยงเกลา เหลืออยู่เพียงต้นการบูร 2 ต้น ซึ่งในตอนนั้นก็เก่าแก่มากๆ อายุ 400-500 ปี แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ หลังจากโดนระเบิดแค่ 2 เดือน ทั้งสองต้นได้แตกใบมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง
หลังจากนั้นต้นคามฟอร์หรือต้นการบูรทั้งสองต้นนี๊ ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความหวังและการเริ่มต้นใหม่ อ้อยหวานคิดว่าคนญี่ปุ่นคงได้บทเรียนและกำลังใจจากต้นการบูรทั้งสองต้นนี๊มาก ทำให้พวกเขาลุกขึ้นยืนและก้าวเดินต่อได้ทุกครั้งหลังจากเรื่องร้ายๆ
ขอสันติภาพมาสู่โลก ขออย่าให้มีอะไรเช่นนี้เกิดขึ้นอีกเลย
ต้นการบูรทั้งสองต้นในวันนี้
เมล็ดและต้นกล้าจากต้นการบูรทั้งสองต้น ถูกส่งไปปลูกทั่วประเทศ และยังมีอีกต้นกล้าอีกต้นหนึ่งที่ไปไกลถึงนิวซีแลนด์ เติบโตงดงามอยู่ที่สวนสันติภาพ เวลลิงตัน
ผลิตภัณฑ์ของต้นการบูรที่ญี่ปุ่นเขาทำไว้น่าใช้มาก อันนี้เขาเรียกว่า ลูกเบสบอลการบูรหอม ช่างคิดมาก ทำจากไม้การบูร เอาไว้ใส่ในอ่างอาบน้ำร้อนๆแบบญี่ปุ่น กลิ่นและน้ำมันการบูรจะซึมออกมา แล้วยังเก็บไว้ใช้ได้อีกนาน นอกจากนี้ยังมีสบู่ เกลืออาบน้ำ
อันนี้เอาไว้วางตามห้อง ให้กลิ่นหอมสดชื่น
หรือจะเป็นเศษเล็กเศษน้อยแบบนี้ ธรรมชาติสุดๆ
ส่วนอันนี้ไม่แน่ใจว่าของญี่ปุ่นหรือไม่ แต่ก็น่าใช้ ไว้ไล่แมลง และได้กลิ่นหอมด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่ค่ะ
http://en.wikipedia.org/wiki/Cinnamomum_camphora
http://www.japantimes.co.jp/life/2002/08/01/environment/a-camphor-by-any-other-name/#.Uwvz586u6So
http://botanyboy.org/japans-largest-hardwood-the-camphor-tree-cinnamomum-camphora/
http://tgaw.wordpress.com/2009/06/28/survivor-trees-nagasakis-sanno-shrine/
http://global.rakuten.com/en/store/mokko-ya/item/tsubutsubu/
I would like to Thanks everyone for all the resources for this blog. Thank you.
ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข
ขอบคุณค่ะ
อ้อยหวาน
- บล็อกของ อ้อยหวาน
- อ่าน 19218 ครั้ง
ความเห็น
อินเนียร์
26 กุมภาพันธ์, 2014 - 06:15
Permalink
Re: เล่าสู่กันฟัง "ต้นแคมฟอร์"
จั่วหัวด้วยต้นไม้ใหญ่ดูแล้วอายุคงไม่น้อยแผ่กิ่งก้านสาขาน่าเกรงขาม อ่านต่อมามีเรื่องราวน่าสนใจ ภาพคมชัดเข้ากับเนื้อหาบอกเล่าเรื่่องราวชวนติดตามครับ
sujiraporn
26 กุมภาพันธ์, 2014 - 09:09
Permalink
Re: เล่าสู่กันฟัง "ต้นแคมฟอร์"
ได้ความรู้เรื่องการบูร ได้ทั้งความสบายตาสบายใจ
"ขอสันติภาพมาสู่โลก ขออย่าให้มีอะไรเช่นนี้เกิดขึ้นอีกเลย
ขอสันติภาพมาสู่ประเทศไทยด้วย"
เย็นกายสบายใจ
26 กุมภาพันธ์, 2014 - 10:39
Permalink
Re: เล่าสู่กันฟัง "ต้นแคมฟอร์"
ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ทุกสิ่งเกิดมามีคุณค่าในตัวของมันเอง ขอบคุณความรู้ที่มาพร้อมกับภาพสวยๆค่ะ
Pravitra_S
26 กุมภาพันธ์, 2014 - 10:43
Permalink
Re: เล่าสู่กันฟัง "ต้นแคมฟอร์"
เป็นต้นไม้ที่อายุยืนมากๆ เลยนะคะ ขนาดเจอระเบิดยังอึดขนาดนี้ คนญี่ปุ่นดูแลดีมากเลย เห็นแล้วก็สะท้อนถึงประเทศเราเน๊อะต้นไม้ยังไม่ทันโตก็โดนตัดซะแล้ว
priraya
26 กุมภาพันธ์, 2014 - 10:44
Permalink
Re: เล่าสู่กันฟัง "ต้นแคมฟอร์"
ชอบจังค่ะ ดูเก่าแก่สวยงาม ไม่น่าเชื่อว่าต้นไม้จะดูขรึมได้ขนาดนี้...
blueman
26 กุมภาพันธ์, 2014 - 12:54
Permalink
Re: เล่าสู่กันฟัง "ต้นแคมฟอร์"
ต้นแคมฟอร์ ผมจินตนาการเป็นในหนัง แฮรี่พอตเตอร์ เลยครับ ผมชอบเอาการบูรที่เค้าขายทั่วๆไปมาใส่ในห้องนอนครับ มันทำให้ผ่อนคลายแล้วหลับสบาย
ริมสวนยาง
26 กุมภาพันธ์, 2014 - 17:14
Permalink
Re: เล่าสู่กันฟัง "ต้นแคมฟอร์"
ขอบพระคุณมากค่ะพี่อ้อย--ความรู้ล้วนๆละเอียดยิบ--เฉกเช่นท่าน"โทโมโกะ"ต้นฉบับ ค่ะ--เป็นวิถี ที่น่าเลื่อมใสมากค่ะ--ดูแล้วสงบ--ร่มเย็น
TOOK SRONSIT
26 กุมภาพันธ์, 2014 - 20:16
Permalink
Re: เล่าสู่กันฟัง "ต้นแคมฟอร์"
ขอบคุณคะพี่อ้อยหวานที่นำสาระดีมาให้อ่านคะ
"ขอสันติภาพมาสู่โลก ขออย่าให้มีอะไรเช่นนี้เกิดขึ้นอีกเลย
ความสะดวกสบายมีขาย แต่ความสุขเงินซื้อไม่ได้ เพราะความสุขมิใช่เงิน
เสิน
26 กุมภาพันธ์, 2014 - 21:31
Permalink
Re: เล่าสู่กันฟัง "ต้นแคมฟอร์"
ได้ยินแต่ชื่อ เห็นแต่การบูรขาวๆ ไม่เคยทราบเลยว่ามาจากต้นไม้
ขอบคุณข้อมูลครับ
..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..
เจ้โส
27 กุมภาพันธ์, 2014 - 10:50
Permalink
Re: เล่าสู่กันฟัง "ต้นแคมฟอร์"
เพิ่งเห็นต้นการะบูร โห้ ใหญ่จริง ๆ ขอบคุณน้องอ้อยนะคะ
garden_art1139@hotmail.com
หน้า