sหมักปลาทำปุ๋ยน้ำ

หมวดหมู่ของบล็อก: 

  สวัสดีครับพี่น้องบ้านสวนฯ ทุกท่านครับ นานมากแล้วที่ผมห่างหายจากการเขียนบล็อก ไม่ใช่ว่าผมละทิ้งงานการเกษตร แต่ผมเองมีปัญหามากมายที่ต้องสะสางครับ แต่ก็มิได้ห่างหายไปจากการอ่านบล็อกของเพื่อนพี่น้องสมาชิกทุกท่านนะครับ ผมเข้ามาอ่านสม่ำเสมอ เพียงแต่ไม่ค่อยได้พูดคุยและคอมเม้นท์กับในทุก ๆ บล็อก อย่าเพิ่งโกรธเคืองนะครับก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยก็แล้วกัน ครับผม

  วันนี้มีข้อสงสัยและใคร่ขอความรู้จากเพื่อน ๆ พี่ ๆ และผู้มีประสบการณ์ทุกท่านช่วยไขข้อสงสัยให้กับกระผมด้วยนะครับ

คือเมื่อสองสามวันมานี้น้อง ๆ ที่ทำงาน โทรมาถามว่าอยากได้ปลาไปหมักทำปุ๋ยหรือเปล่า ไอ้ผมมันก็เป็นคนใจง่ายก็ตอบรับทันที เพราะใจอยากทดลองทำมาใช้เองเช่นกัน จึงเป็นที่มาของคำถามครับ

  เมื่อได้มาก็ต้องจัดการครับ เป็นปลาทับทิมเลี้ยงกระชังของน้อง ๆ ที่ทำงานเค้า ซึ่งเค้าเรียกกันว่าน็อกน้ำคือน้ำร้อนแล้วปลาตายครับ ( ไม่ยักกะเป็นดังที่สุภาษิตว่าไว้ " น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย " ) กลิ่นนี้ไม่ต้องห่วงเลยล่ะครับท่าน ได้ปลามาประมาณ 70 กก. แต่ผมมีถังเล็กแค่จุได้ 60 ลิตร จึงแบ่งปลาเป็นสองถัง ใส่กากน้ำตาลในสัดส่วน ปลา 35 กก./กากน้ำตาล 20ลิตร ใส่น้ำพอท่วม ปิดฝาทิ้งไว้แล้วสองวัน กลิ่นเริ่มอบอวล จึงต้องหากากน้ำตาลมาเพิ่ม กลับได้มาแต่น้ำตาลทรายแดง เพราะกากน้ำตาลหมด ผมเติมน้ำตาลทรายแดงเพิ่มลงไปอีกถังละ 5 กก. ปิดฝาทิ้งไว้ 3 วัน วันนี้ลองเปิดฝาเพื่อสังเกตุการณ์ กลิ่นเริ่มน้อยลงมีหอม ๆ แปร่ง ๆ ยังไงไม่รู้ออกเปรี้ยว ๆ

  จึงขอรบกวนผู้มีความรู้และประสบการณ์ทุกท่านกรุณาชี้แนะผมด้วยครับ ผมต้องเพิ่มกระบวนการยังไงบ้าง

   เพราะผมเพิ่งที่จะทดลอง และก็ลองผิดลองถูกอยู่ ยังไม่รู้ว่าจะจบอย่างไรดี เหมือนกันกับที่เราหมักจำพวกเศาอาหาร พืชผักผลไม้หรือเปล่า ต้องใช้อะไรมาช่วยในการย่อยสลายหรือเปล่า เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการต้องมีวิธีที่จะนำไปใช้ยังไงบ้าง ประมาณนั้นแหละครับ 

 ทีนี้ผมขอนำเสนอของหอม ๆ มั้งนะครับมาชมกันครับ

 

  ดอกดาหลาหน้าบ้านครับ ถึงจะแล้งยังไงก็ยังมีดอกให้ชมตลอดล่ะครับ จากสีแดงสดกลายเป็นสีชมพูก็ดูสวยงามไปอีกอย่างนะครับ  สวัสดีครับ

   ขอบคุณบ้านสวนพอเพียง ขอบคุณครับ

  

ความเห็น

ไม่เคยหมักปลา และหมักกับกากน้ำตาลซะด้วยบอกยากเหมือนกัน ปกติหมักทั่วไป อัตราส่วนเป็นกิโล ๑ต่อ๓ต่อ๕ คือน้ำตาล /วัสดุ/น้ำครับ

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

  เพราะความไม่เคยแหละพี่เสิน จึงทำให้ผมอยากลองเมื่อโอกาสมี ลำบากใจนั้นไม่เท่าไหร่หรอกครับพี่ แต่ลำบากกลิ่นนี่ซิ...สุดยอด ๆ

 การทำงานต้องรู้จริงทำจริงจึงประสบกับความสำเร็จ

ป้าเล็กขอบอกคล้ายตุ้ยว่า  ไปซื้ออีเอ็มที่เขาขายทั่วไปมาเติมลงไปก็เสร็จค่ะ  คือ  อันที่ใส่ๆลงไป  มันก็ใช่แล้วนะ  แต่ว่ามันแน่น  การซึมซับแทรก  ไม่ทั่วปลา  เลย  หอมมมมมม

ครับป้าเล็ก ผมต้องหา EM หรือ จำพวก พ.ด. มาช่วยเสริมแล้วล่ะครับ เพราะกลิ่นแรงหลือเกิน แต่ผมเองก็แปลกใจเหมือนกัน แรก ๆ กลิ่นแรง แต่พอผมเติมน้ำตาลทรายแดงเพิ่มลงไปถัดมาหนึ่งวันกลิ่นที่ว่าแรงก็ทุเลาลงมากที่เดียวครับ ขอบคุณป้าเล็กมากครับผม

 การทำงานต้องรู้จริงทำจริงจึงประสบกับความสำเร็จ

ไม่ได้เข้าบ้านเสียนานพี่หลวงทำการใหญ่ซะแล้ว  วันไหนว่างๆจะแวะไปขุดดาหลา  

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

 

ตามรูป แสดงว่าไม่ได้เติมน้ำ มีปลากับน้ำตาลเพียงสองอย่าง ปลาที่คลุกน้ำตาลจะไม่มีกลิ่น แต่กลิ่นที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจาก ปลาด้านก้นถังที่ยังไม่ได้เคล้าน้ำตาล เมื่อไปกวน กลิ่นจึงออกมา ลองแบ่งใส่ถังอื่นอีกและเติมน้ำ กวนให้น้ำตาลละลาย กลิ่นจะลดลง หรือถ้ามีเชื้อ พด 2 (ขอจากหมอดินประจำตำบล หรือสำนักงานพัฒนาที่ดินจังหวัด) ให้ละลายน้ำแล้วใส่ลงไปในถังหมัก หรือลองหาเชื้อ อี.เอ็ม ยี่ห้ออะไรก็ได้ ที่ฉลากใหม่ๆ สักหน่อย ละลายน้ำแล้วแบ่งเทลงในถังหมัก คิดว่า กลิ่นจะหมดไป และพยายามกวนอยู่เสมอๆ ใหม่ๆกวนทุกวัน หลังจากนั้น อาทิตย์ละครั้ง ให้ปลาที่ลอยจมในน้ำ

Surprised เห็นแล้วนึกถึงปลาร้า อิอิ ขอให้สำเร็จนะคะ Laughing ดาหลาสวยจังค่ะ

หน้า