สงขลาครองแชมป์อันดับหนึ่งของประเทศไทยที่มีขยะมากที่สุด

หมวดหมู่ของบล็อก: 

  ดูให้จบนะครับแค่7นาฑีเอง(ฑ.นางมณโฑ)

 

ตอนที่ยังเป็นเด็ก อินเนียร์เคยได้ยินเพื่อนๆร้องเพลงบอก ไม่ใช่เพลงกระบอก แต่เป็นเพลงบอก(เล่า)ฟังนะ " ฮ-า เ-อ้-อ มีเบี้ยบาท สองบาท อย่าให้หมันขาดพก ว่-า เผื่อตกบ่อร้างได้จ้างเด็ก ว่-า  ฮาเ-อ้-อ ได้จ้างเด็ก"

ตัวอย่างการทำร้ายตัวเองและชุมชน นี่เป็นบ่อร้าง บ่อที่คนรรุ่นใหม่เลิกให้ความสำคัญเมื่อน้ำประปาเข้ามาในมีบทบาทในชีวิตประจำวันที่รู้สึกสะดวกสบาย ไม่ต้องตักต้องขนให้เหนื่อย เมื่อไม่เห็นความสำคัญก็ปล่อยปละละเลย หลายคนคงเคยเห็นการเอาขยะมาทิ้งลงไปในบ่อ แม้กระทั่งแมวตาย หมาตาย มะ มาคอยบ่อกัน(ภาษาถิ่นใต้บางพื้นที่ "คอยบ่อ" แปลว่า ชะโงกดูในบ่อ)

ชะโงกดูในบ่อภาพอาจะเล็กเพราะถ้าซูมมากจะเห็นแต่ขยะไม่เห็นองค์ประกอบของบ่อ รอบๆบ่อไม่ได้ถ่ายมาเต็มไปด้วยขยะ เศษขวดเบียร์ เดินเข้าไปถ่ายภาพต้องเดินระวัง 

หลายที่หลายแห่งเต็มไปด้วยขยะ ผู้คนพบเห็นจนเจนตาและรู้สึกเฉยๆเหมือนเป็นเรื่องปกติ จากคลิปข้างต้นที่นำมาให้ดูจะเห็นได้ว่าทุกวันนี้ผู้คนทุกวันนี้เห็นแก่ความต้องการของตัวเอง ไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่น

*ผ่านสงกรานต์ปีใหม่ไทยมาแล้ว เทศกาลต่างๆซึ่งทุกวันนี้ก็พยายามโปรโมทชวนกันท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ แต่หลังจากนั้นจะมีขยะกองเป็นภูเขาเลากา ที่ผู้ที่ทิ้งไม่เคยสนใจว่ามันจะไปไหนต่อ จะส่งผลต่อสังคมและโลกของเราอย่างไร ขณะนี้ จังหวัดสงขลาได้รับเกียรติเป็นอันดับหนึ่งที่มีขยะมากที่สุดในประเทศไทย ประกาศออกทีวี ถามว่าคนสงขลาทราบเรื่องนี้กี่คน ต้องรอให้มีการเผาขยะแล้วแสบตาแสบจมูกกันก่อนใช่ไหม?จึงร้องแรกแหกกระเชอ โวยวายโทษโน่นโทษนี่แต่ไม่เคยหันมองตัวเองเลยว่า ตัวเองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ทำให้เป็นแบบนี้ ทั้งๆที่เขารณรงค์ให้ใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก ทิ้งขยะให้ถูกที่

ทิ้งให้ถูกที่ 

ขยะใต้ป้ายรณรงค์ ทิ้งมันใต้ป้ายนี่แหละ ใครจะทำไม ตรงข้ามบ้านอินเนียร์ขายเหล้าส่งเสียงโว๊กเว๊กโวยวายแหกปากร้องเพลงดึกๆดื่นเที่ยงคืนอายุก็ไม่ใช่เด็กแล้วเกษียณแล้วก็มี คนจะหลับจะนอน พรุ่งนี้ต้องไปทำงาน เด็กต้องไปโรงเรียนไม่สนใจเมาแล้วก็มายืนฉี่ริมรั้วอินเนียร์ เจ้าของร้านเช้ามาก็กวาดฝาขวดเบียร์-ถุงขนมลงบนถนน -ลงในคูหรือพ้นมาหน้าบ้าน ภาพเหล่านี้เห็นจนชินตา

ก่อนหน้านี้อินเนียร์ได้ร่วมพาผู้เรียนระดับปวส.แบบเทียบโอนหน่วยกิตไปทำกิจกรรมเหมือนปีก่อนที่ไปกรุงชิง แต่ปีนี้ได้ไปเรียนรู้ชุมชนพอเพียงที่น่าสนใจอีกที่นึ่ โดยพักที่ โฮมเสตย์ "บ้านทางไท" ต.บางกล่ำ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ของคุณ วิชาญ ช่วยชูใจ บุคคลที่น่าสนใจอีกคนหนึ่งครับ การไปร่วมกิจกรรมศึกษาการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมคราวนี้ของอินเนียร์ มาดูกันครับ

ผู้ใหญ่บ้านโคกเมือง แล้วก็อีกคนนึงที่น่าสนใจ ผู้ใหญ่อุดม ฮิ่นเส้ง ผู้นำชาวบ้านสร้างฟาร์มทะเล เป็นบริเวณน้ำจากชายฝั่งออกไปช่วงหนึ่งที่ให้ปลา-ปู-กุ้ง-หอยได้เข้ามาวางไข่และอนุบาลลูกๆจนโตพอที่จะออกไปในบริเวณน้ำลึก แต่ช่วงที่ยังเล็กหรือแม่ปลาเข้ามาวางไข่และดูแลลูกๆห้ามจับปลาในบริเวณที่ทำฟาร์มทะเลเด็ดขาด

พื้นที่วางไข่และอนุบาลลูกปลา ผู้ใหญ่บรรยายได้ดีมาก ชักชวนชาวบ้านหันมาใช้ชีวิตแบบพอเพียง ลดการบริโภคสิ่งที่ไม่จำเป็น ปลูกพืชปลอดสารพิษกินและจำหน่าย จัดกิจกรรมอนุรักษ์วัฒนธรรมที่สืบต่อกันมา จากนั้นก็ถึงเวลาอาหารกลางวัน มาดูอาหารกลางวันกันครับ ผู้ใหญ่บอกว่า คนที่นี่ใช้ของมาเล ผมสงสัยว่าแล้วไม่ฟุ่มเฟือยหรือ แกบอกว่า "ม่ายช่าย มันลอยมาจากเล โหม.บ่อยางทุ่มแล้วลอยมาที่หมู่บ้านนี้" หมายถึงคนในเมืองสงขลาทิ้งขยะลงทะเลแล้วลอยมาเป็นภาระของคนในหมู่บ้านที่นี่น่ะครับ

บุฟเฟ่ ถีงเวลาอาหารกลางวัน อาหารบุฟเฟ่แบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน  ผู้ใหญ่จะมอบหมายให้ชาวบ้านรับผิดชอบนำปิ่นโตที่มีข้าว+กับข้าว2อย่าง+ขนมหรือผลไม้บ้านละ1สายโดยได้รับค่าตอบแทนจากรายได้ที่ได้จากผู้มาเยี่ยมชม อาหารอร่อยมากร่วมกินกับชาวบ้านอย่างเป็นกันเอง รู้สึกประทับใจมาก จากนั้นก็เข้าพักที่บ้านโฮมสเตย์ที่บ้าน "ทางไท" เจ้าของบ้านคือ คุณวิชาญ ช่วยชูใจ ซึ่งเป็นคนที่น่าสนใจมากๆอีกคนหนึ่งที่นำชาวบ้านอนุรักษ์คลองบางเหรียง จากที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นคลองหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่น่้ำไม่เสีย มีปลาธรรมชาติชุกชุมและตัวโต รณรงค์การทิ้งขยะและ สารพิษลงในแม่่่น้ำ มีการคอยเฝ้าระวังการทิ้งขยะลงในคลอง คุณวิชาญมีสถานีวิทยุชุมชนที่จัดรายการรณรงค์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม,วัฒนธรรม สนับสนุนให้เด็กในชุมชนมีการศึกษาและรักสิ่งแวดล้อม 

บุคคลตัวอย่างที่รณรงค์การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หลายคนที่่มักจะปิดหน้ารูปของคนอื่นที่ไม่ใช่สมช.บ้านสวนฯแต่ผมคิดว่า ผมอยากแนะนำให้รู้จักคนดีคนเก่งของสังคมเป็นการกระจายความดีให้กว้างออกไปเพื่อเป็นแรงบันดาลใจครับ หากสนใจเรียนรู้ทำความรู้จักคุณวิชาญให้มากขึ้นก็เข้าเฟสบุ๊คแล้วพิมพ์ชื่อ-นามสกุลก็เข้าถึงได้ครับ อดีตคุณวิชาญเป็นนักข่าวครับ

เริ่มจากหนักใจในพฤติกรรมของคนที่สร้างขยะจนติดนิสัย ซื้อของในตลาดทุกร้านก็เอาถุงใส่ทุกร้าน ก็เปลี่ยนเป็นอะไรที่ใส่ด้วยกันได้ก็ไม่ต้องเอาถุงจากแม่ค้า ไปนั่งร้านอาหารเวลาจะดึงทิชชู่ก็สาวเอาๆยาวๆ เช็ดปากเช็ดมือนิดเดียวก็ทิ้งแล้วก็ดึงเอาใหม่ ไม่ใช่แม่ค้าที่เปลืองเงินไปซื้อใหม่อย่างเดียว ขยะก็เยอะแล้วขั้นตอนการผลิตต้องตัดต้นไม้ ใช้น้ำมัน ใช้ไฟฟ้าและสารคมีที่ต้องปล่อยทิ้ง สิ่งที่มีผลต่อการทำให้โลกร้อนมากมาย การจอดรถไม่ดับเครื่องเปิดแอร์อยู่ในรถเย็นสบาย โลกร้อนขึ้นอีกเท่าไหร่ เห็นใจคนเดินถนนบ้างเถ้อ มีอีกเยอะครับ และมาจบลงด้วยบุคคลตัวอย่างที่เป็นผู้นำชุมชนในทางที่ดีน่ายกย่องและเป็นแบบอย่างครับ

บ้านทางไท บรรยกาศสงบๆที่บ้านทางไท ทุกคนอยากได้บรรยากาศสงบเงียบเพื่อพักกายพักใจ แต่ใกล้ๆบ้านเราขายที่นาให้เขาเอาไปทำหมู่บ้านจัดสรรและศูนย์การค้าไปหมดแล้ว

บรรยากาศใกล้ค่ำ ตะวันชิงพลบที่ บ้านทางไท

                                           "ครับม้าแม้ว่าเร็วแล้วก็ยังแพ้ลา เพราะลาไปก่อน" สวัสดีครับ.......

 

 

 

 ขอต่ออีกคลิป 5 นาฑีครับ สืบเนื่องจากที่ผมได้ตอบความเห็น ของคุณ เย็นกายสบายใจ ว่า "คนไทยเปลี่ยนไปแล้ว"

ความเห็น

โลกร้อนขึ้นช่วยกันลดขยะจะได้ไม่เป็นปัญหาสังคมครับ ที่เยอรมันซื้อของตามซุปเปอร์มาเก็ตจะไม่มีถุงให้นะครับ แต่จะมีถุงวางตรงที่จ่ายเงินอยากได้ก็ต้องจ่ายเงิน คนเยอรมันจะพกถุงผ้า กระเป๋าใบเล็กใหญ่ และถุงถุงพลาสติกใบเก่าและถ้าซื้อของกินเช่น ขนมเบเกอรี่ จะใส่เป็นถุงกระดาษให้ครับ ผมคิดแบบนี้ดีครับ แต่หันมามองบ้านเราซื้ออะไรก็ใส่ถุงอย่างเดียว ยิ่งตามห้างยิ่งซ้อนถุงยิ่งขยะเยอะครับ 

ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงหรือต่ำอยู่ที่ทำตัว


บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร

ครับอย่างคุณสนิทว่า เราต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แม้ว่าจะดูขลุกขลักในตอนแรกแต่ก็ต้องทำ ไม่งั้นเราต้องแย่แน่ๆเมื่อขยะล้นโลก ไม่มีที่ทิ้งขยะ เรารังเกียจที่จะให้ชุมชนของเราเป็นที่ทิ้งขยะ แต่ชุมชนอื่นก็ไม่อยากเป็นแบบนั้นเหมือนกัน ก็ต้องย้อนกลับมาเปลี่ยนพฤติกรรมกัน ต้องเอาถุงผ้ามาจากบ้านเหมือนที่เยอรมัน ผมเคยดูในทีวีว่าประเทศอะไรจำไม่ได้ รัฐของเค๊าจะติดตั้งเครื่องจ่ายน้ำที่สะอาดตามจุดต่างๆมากมาย แล้วประชาชนก็จะพกขวดพลาสติกที่เขาทำขายใช้ได้นานๆติดตัวแล้วไปเปิดน้ำตามจุดเหล่านั้นเพื่อลดการใช้ขวดพลาสติกที่ใช้แล้วทิ้งซึ่งต้องใช้พลังงานมากในการผลิตและทำลาย ตอนผมยังเล็กๆ ซื้อเนื้อหมูแม่ค้าจะห่อด้วยใบตองมัดด้วยเชือกกล้วย อีกหลายอย่างคงต้องย้อนกลับไปอยู่แบบเดิม *ขอบคุณ คุณสนิทมากครับ ตอนนี้เมืองไทยร้อนมากเลยครับ

เห็นบ่อน้ำเก่าแล้วสงสารบ่อ ไม่ใช่บ่อที่ทำจากท่อซีเมนต์ แต่ก่อจากอิฐดินเผา ปูนที่ฉาบก็หลุดออกไปหมดแล้ว ริมทางเท้าหน้าบ้านที่กรุงเทพฯ มีอ่างบัวเรียงกัน ตอนเช้าเดินไปดูบัวจะมีขยะอยู่ในอ่าง กล่องนมบ้าง ห่อขนมบ้าง บางครั้งก็มีดอกบัวถูกเด็ดแล้วลอยน้ำไว้ น่าเศร้าใจจริงๆค่ะ

 

ครับป้าอร ยุคนี้เป็นยุคไอโฟน แม้แต่โทรศัพท์รุ่นเก่าๆเขายังเมิน สาอะไรกับบ่อน้ำเก่าๆที่ก่อจากิฐดินเผา วันใดน้ำประปาหยุดไหล อย่างในกรุงเทพฯที่ต้องอาศัยน้ำประปาเท่านั้น ไม่มีบ่ออีกแล้ว วุ่นวายมากเลย ไฟฟ้าดับเสียยังดีกว่าน้ำไมไหล อย่างพระราชดำรัสที่ว่า "ไม่มีไฟฟ้าคนอยู่ได้ ไม่มีน้ำคนอยู่ไม่ได้ฯ" ขณะนี้เปิดน้ำประปาออกมาร้อนอาบแล้วไม่ชื่นใจเลย เอามารดน้ำผักตอนเย็นไม่ได้ ผมใช้วิธีสูบน้ำบ่อขึ้นมาอาบเย็นชื่นใจเลย*เหมือนป้าอรว่า อ่างบัวข้างทางที่มีขยะเต็มไปหมด เกิดจากความมักง่ายไร้จิตสำนึก น่าอเน็จอนาจใจจริงๆ เมืองไทยเปลี่ยนไปแล้ว 

*บ่อที่่ก่อด้วยอิฐแบบนี้เขาไม่ฉาบด้านในครับ

บ้านทางไท  ดูดี  ยังมีอีกหลายที่ในบ้านเราที่ดูดี  น่าอยู่  แต่คนที่รักษาไว้  คงเหนื่อยกันน่าดู  เพราะโลกเปลี่ยนไป

สวัสดีครับป้าเล็ก มีนักเรียนที่เคยสอนคนนึงนานๆเจอกันทีเขาพูดว่า"ผมยังจำได้เสมอ อาจารย์สอนผมว่า ทำงานจนให้รู้สึกว่าความเหนื่่อยยากเป็นเรื่องปกติธรรมดา" เหมือนป้าเล็กคนขยันจนเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ" คนในชุมชนบางเหรียงบางกล่ำ เขาเข้าที่แล้วครับ ขนาดพระบวชใหม่ที่ทิ้งขยะลงในคลอง คุณวิชาญให้เด็กๆมาพูดส่งออกทางวิทยุบ่อยๆถึงความไม่ถูกต้องนี้ ในที่สุด พระก็เลิกทิ้งขยะ ให้ผู้ใหญ่พูดไม่ได้ ก็ให้เด็กนักเรียนมาพูด ยังไงก็ต้องช่วยกัน ขณะนี้ปัญหาขยะเป็นปัญหาของโลกไปแล้วครับ ใครทำดีก็ต้องช่วยให้กำลังใจ ขอบคุณป้าเล็กครับ

ดีใจมาก ที่ได้เจอบล็อกนี้ครับ ขยะเป็นเรื่องใหญ่ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ช่วยกันแก้ปัญหานี้ครับ จิตสำนึกนั้น ต้อง ปลูกฝังกันไปครับ ผูดเรื่องความสะอาดกลับไปกรุงเทพครั้ง นี้ดูสะอาดตาขึ้นมามาก เลยครับ แต่พอไป ต่างจังหวัด เห็นขยะ เลยทราบได้เลย ว่าสถาณะการณํยังเหมือนเดิม ถ้าเราช่วยกัน คนละส่วนก็ลดปัญหาได้เยอะหน่อย ยังไง ช่วยกัน รณรงค์ สร้างสรรคกันไปครับ ถึงจะได้ไม่มาก ดีกว่าเราไม่ทำอะไร เลย

ขอบคุณ คุณTuiครับ กรุงเทพฯได้ตื่นตัวและพัฒนาขึ้นมากครับ แม้แต่ภูเก็ตรู้สึกจะติดอันดับต้นๆในการกำจัดขยะได้ดี ตอนนี้สงขลาแย่มากๆ เมื่อวานไปเดินตลาดนัดวันอาทิตย์(มีเฉพาะวันอาทิตย์)  ผ่านด้านประตูวัดซึ่งมีการขายของในวันนัดด้วยมีกลิ่นเหม็นอึเหม็นฉี่ฟุ้งกระจาย ทีแรกผมคิดว่าผมรู้สึกไปเอง แต่มีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งเดินสวนมาแล้วพูดขึ้น นับวันยิ่งแย่ลง บางครั้งขับรถมอเตอร์ไซค์ไปชายทะเลตอนเช้ามีขวดเบียร์แตกกระจายเกลื่อนบนพื้นถนน เห็นแล้วหดหู่ใจ กลับไปดูข่าวรถซิ่งกลางคืนหนวกหูและเป็นภัยต่อสุจริตชน คนเหล่านี้ทำได้ทั้งนั้นในทางไม่ดี/*/ครับอย่างไรก็ยังต้องช่วยกันไป ทำเท่าที่ทำได้ครับ

หน้า