...........ที่มา(๔) เพื่อนและมีดเหลาตอก.............
๑. หลายปีก่อน...
ผมเสาะหาขยะจากทะเลมากองไว้ที่บ้านเป็นพะเนินเพื่อเก็บไว้ทำของเล่นเล็กๆ ประเภทงานฝีมือฝากขายร้านของเพื่อนในสวนจตุจักรและร้านค้าริมถนนพระอาทิตย์ หน้าลมหน้าน้ำ ทะเลจะหอบเอาขยะหลากชนิดเช่น ท่อนไม้ ลูกไม้ ขวด ฯลฯ ซึ่งผ่านการขัดจากทรายและคลื่นลมจนมนกลมเกลี้ยงรูปร่างหน้าตาพิลึกกึกกือ ให้คนช่างจินตนาการมองแห็นเป็นรูปร่างนั่นนี่ตามแต่จะคิดฟุ้ง
ไม้แผ่นเล็กๆ ถูกตัดเจียรขัดจนเป็นรูปร่างบวกความคิดนิดหน่อยกลายเป็นสินค้าได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ส่วนที่เหลือเป็นไม้เนื้อแข็งยามยากผมยัดเข้าเตาเผาถ่านขายเลี้ยงตัวไปได้อีกระยะหนึ่ง
เมื่อเข้าระยะชีวิตที่หมกตัวอยู่กับเตาเผาเหล็กและความคมของใบมีด ผมเฝ้ามองบางชิ้นเป็นรากไม้คดเคี้ยวพิสดารอย่างพินิจพิเคราะห์
การคัดสรรด้ามเพื่อนเลือกมีดที่เหมาะสมกับตัวมันเอง สำหรับผมง่ายกว่าการทำมีดแล้วมาเสาะหาด้ามใส่ทีหลัง อาจเพราะผมยังไม่มีความเป็นมืออาชีพ หรือชั่วโมงบินมากพอ
ย้อนไปไกลถึงวัยเด็กที่นั่งมองคนแก่วัยเจ็ดสิบนั่งหลาวตอก เหลาด้ามมีด ฉีกแบ่งเส้นหวายเป็นเส้นเล็กๆ เสียงของคมมีดจรดเส้นไผ่เส้นเล็กๆ ชวนให้เสียวฟัน
แต่กองขยะที่อ่อนนุ่มสีนวลซึ่งเกิดจากการเหลาหวายและไม้ไผ่ มีกลิ่นของไม้สดหอมแปลก ข้างตัวมีกองไฟเล็กๆ จุดไว้ไล่ยุง ไล่แมงหวีแมงวันได้ องค์ประกอบโดยรวมของคนแก่คนหนึ่งทำการงานอย่างช้าๆ อย่างมีความสุข ยังฝังอยู่ในมโนสำนึกของผมใน พ.ศ. นี้ กระทั่งเคยปรารภกับคนแก่ในหมู่บ้านบางคนว่า หากผมอายุเท่านี้และคนแก่ท่านนั้นยังอยู่ ผมจะฝากตัวเป็นศิษย์ เรียนวิชาที่ว่าด้วยเรื่องของงานจักสานที่เขารู้ให้หมดไส้หมดพุงกันเลยทีเดียว
...ก็คนมันชอบ(นี่หว่า)
ต้องขอบคุณในความเป็นตัวเองที่เด่นชัด เราค้นพบตัวเองขณะที่มีเรี่ยวแรงพอที่จะทำอะไรที่ชอบๆ ได้(บ้าง) แม้จะไม่ทั้งหมดของเศษฝันในรายทางก็ตาม
๒.หลายวันก่อน....
ผมคุยกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน ถึงอาชีพที่เพื่อนกำลังคิดทำอยู่ในขณะนี้
เพื่อนเป็นคนพื้นถิ่นภาคกลางตอนบน มีที่นา ที่ดินพอสมควร ส่วนหนึ่งให้คนเขาทำนา ส่วนหนึ่งเป็นที่อยู่อาศัย เพื่อนเคยทำงานประจำในกทม. เปลี่ยนงานมาแล้วหลายงาน ล่าสุดคือพนักงานขับรถให้บริษัทเกี่ยวกับสื่อสารเอกชนในแถบถิ่นบ้านผม ก่อนจะประสบปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ จนต้องลาออกเพื่อรักษาตัวที่บ้านเกิด
ผมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับความโชคดีของคนที่มีที่ดินเป็นของตนเอง หรืออย่างน้อยก็ของพ่อของแม่มากพอที่จะทำการเกษตรเลี้ยงชีพได้ เพื่อนรับฟังอย่างเนือยหนืด
ผมทิ้งท้ายว่าไม่กี่คนหรอกที่จะโชคดีแบบนี้
ไม่กี่วันมานี้เพื่อนบอกผมว่ากำลังหางานประจำในกทม. เพราะตัวเองยังนิ่งไม่พอ ยังอยากทำโน่นนี่อยู่เรื่อยๆ
ผมถามว่า ในชีวิตพอค้นพบบ้างไหมว่าตัวเองชอบอะไร ชำนาญด้านไหน
แน่หละสำหรับหลายๆ คน ความชอบและความชำนาญมักถูกแยกออกจากกัน กลายเป็นว่าทำอาชีพอย่างหนึ่งเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิต(และจิตวิญญาณ)อีกด้านหนึ่ง
แล้วผมก็เล่าความชอบของผมให้เพื่อนฟัง ทั้งเรื่องของงานศิลปะ(ถ่ายภาพ,งานเขียน,งานฝีมือ ฯลฯ )ทั้งที่ผมเรียนมาในสาขาอาชีพเดียวกับเพื่อนคือ ช่างอิเล็กทรอนิกส์
หลายสิ่งที่ผมชอบผมฝึกฝนจนชำนาญมากพอที่จะหาเลี้ยงชีพในด้านนั้นๆ ได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก่อนจะตบท้ายด้วยคำถามว่า
“….แล้วมึงล่ะ?”
เพื่อนครุ่นคิดหลายนานกว่าจะตอบว่า
“......ไม่รู้ว่ะ กูชอบกีฬา ..”
“ ........... ” ผมใช้ความเงียบเข้าสนทนาในอีกหลายประโยคต่อมา
๓. วานซืน
ผมคุยกับผญ.โสทร เรื่องมีดจักตอก มีดหลาวตอก มีดเหลาตอก ข้อคิดของผู้ใหญ่เรื่องของการทำมีดพื้นบ้านที่หาคนทำยากแบบนี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจ
ผมบอกว่าผมเคยทำมีดเหลาตอกอันนึงส่งให้เพื่อนที่ชลบุรีใช้อยู่ เป็นมีดขนบที่ลอกแบบมาจากของคนแก่แถบถิ่นเพชรบุรี ตอนนี้ผมมีด้ามและภาพของมีดในใจไว้แล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้เริ่มลงมือ
เมื่อวานผมตีมีดให้มิตรในบ้านสวนฯท่านหนึ่งพร้อมกันนั้นก็ใส่เศษเหล็กชิ้นเล็กๆ ที่ตัดแบ่งออกมาแล้วขึ้นรูปเป็นมีดเหลาตอกขนาดเล็ก เพื่อให้เข้ากับด้ามรากไม้ลอยทะเล
ปลุกปล้ำอยู่ค่อนวัน ด้วยมีดสองเล่ม เล่มหนึ่งผ่านการโกลนจนเสร็จ อีกเล่มคือเล่มนี้ผมเคี่ยวจนเสร็จ ชุบ อบ. ขัด เข้าด้ามจนเสร็จเรียบร้อยตอนหัวค่ำที่ผ่านมา
วันนี้ผมขัดมันและถักปลอกหวายสวม
มีดเหลาตอกเล่มหนึ่งที่เกิดจากภาพในใจทันทีที่เห็นเศษไม้ชิ้นเล็กๆ ริมทะเลตะวันออก
แม้ดูเหมือนเป็นความบังเอิญ แต่เป็นความบังเอิญที่เกิดจากการบ่มจนได้ที่ โดยส่วนตัวผมชอบมีดเล่มนี้เป็นพิเศษ ณ เวลานี้ เพราะหากจะนับเวลาผมใช้เวลาทำเพียงไม่ถึงหนึ่งวัน ตั้งแต่ต้นจนจบ...
แม้จะชอบ แต่ผมก็ขายครับ
๔. วันนี้
เพื่อนเพิ่งโทรมาบอกว่า มันได้งานแล้ว เป็นคนขับรถให้นายญี่ปุ่นในกรุงเทพ เงินเดือนเจ็ดพัน แบ่งให้ค่าเช่าบ้านญาติซึ่งเขาอาศัยอยู่พันนึง
ผมอวยพรยินดีกับเพื่อนซึ่งตั้งต้นชีวิตในเมืองใหญ่ในขณะที่อายุของเพื่อนเลยวัยกลางคนล่วงแล้ว
“...โชคดีนะเพื่อน...อยากได้มีดติดรถก็บอก เดี๋ยวกูตีให้ สำหรับมึงบาทเดียวพอ..”
เพื่อนเงียบไปครุ่นึงก่อนจะพูดว่า
“...ขอบใจโว้ย” แล้วก็วางหูไป
.
.
.
.
.
.
.
“เออ ขับรถก็ถือเป็นกีฬาเหมือนกันละวะ - กรรมใครกรรมมันว่ะ” ผมพูดกับโทรศัพท์คนเดียว
ก่อนหันไปเลื่อยไม้อีกกองใหญ่เพื่อจัดเรียงเข้าเตาเผาเป็นถ่านแลกเงินค่ากับข้าวในวันต่อไป
…………………………………………………………..
- บล็อกของ sailomloy
- อ่าน 8457 ครั้ง
ความเห็น
น้ากล้วย
21 มิถุนายน, 2010 - 19:33
Permalink
มีดจักตอก
ตัวมีดสวย ใบมีดงาม ด้ามอ่อนช้อย แต่เนื้อหางดงามยิ่งกว่า นี่หรือกวีอีเล็คทรอนิค อ่านแล้วเพลินเลยคุณ สาย ลม ลอย
sailomloy
21 มิถุนายน, 2010 - 21:39
Permalink
ขอบคุณมากมายครับ...เคยอ่านงาย
ขอบคุณมากมายครับ...เคยอ่านงายบนของน้าหงา คาราวาน(ในรูปแบบของงานเขียน)นานมาแล้ว
แกว่า...มีคนถามแกว่า เมื่อไหร่จะแแกงานเพลงชุดใหม่..แกเฉยๆ ขณะที่มีแฟนหนังสือของแกกลุ่มน้อยๆ กลุ่มนึง ถามแกว่า เมื่อไหร่จะมีงานรวมเล่ม ๆ ใหม่
แกปลื้มจนตัวลอย
เออ...มีคนตามกูในงานเขียนด้วยวุ๊ย..(แกคิด)
ผมเพิ่งเข้าใจ...เมื่อผม เขียน และมีคนอ่าน
...ทุกถ้อย
ขอบคุณมากครับ
ออกปากรุนท็อกที !!!
9wut
21 มิถุนายน, 2010 - 23:47
Permalink
เห็นปุ๊บ ชอบปั๊บเลยครับ
เห็นปุ๊บ ชอบปั๊บเลยครับ ฝีมือสุดยอดเลย สวยทั้งด้ามแล้วก็ใบมีด
แล้วทำให้ย้อนคิดถึงบ้านที่ ตจว สมัยเด็กเคยเห็นมีดลักษณะนี้ใช้สำหรับจักตอกเหมือนกัน
วิธีลงรูปประจำตัว |การใช้งานเว็บบ้านสวน |การแทรกรูป |การแทรก VDO
sailomloy
22 มิถุนายน, 2010 - 13:23
Permalink
เด็ก ตจว. ส่วนใหญ่
เด็ก ตจว. ส่วนใหญ่ มักเคยเห็นมีดชนิดนี้ครับ
ออกปากรุนท็อกที !!!
ไม้หอม
23 มิถุนายน, 2010 - 08:36
Permalink
มาแลผลงานช้าไม่ว่ากันนะ
มาแลผลงานช้าไม่ว่ากันนะ พี่หลวง
โผ้มอยากได้มีดแกะสลัก ผักหรือผลไม้ แต่อยากได้ด้ามไม้ไผ่อันเล็กๆ
แล้วโผ้มส่งรูปให้ที่หลัง ครับผม
วิหคน้อยบินไกล เฝ้ารอวันกลับคืนถิ่น
sailomloy
23 มิถุนายน, 2010 - 15:22
Permalink
ครับ..ผม
ครับ..ผม
ออกปากรุนท็อกที !!!
หน้า