หอมกลิ่นไอฝน ยลความงามสีเขียว ณ.เชิงเขานครศรีธรรมราช
อ้อยหวานเป็นเด็กนักเรียนไกลบ้านตั้งแต่ตัวเล็กๆ ไปเป็นเด็กวัดฝรั่งตั้งแต่ประถมต้น ชีวิตการเดินทางก็เริ่มมาแต่บัดนั้น แต่เป็นการเดินทางระหว่างบ้าน คือนครศรีธรรมราชกับโรงเรียนที่เมืองหลวง เมืองแห่งเทพ การเดินทางขื้นลงแต่ละปีนับรวมแล้วก็หลายเที่ยวอยู่ และส่วนใหญ่จะเป็นการนั่งรถไฟ ปีแรกของการเดินทางอ้อยหวานจำได้ว่ารถลากขบวนรถไฟยังเป็นรถจักรไอน้ำอยู่เลย
จากกรุงเทพถึงนครศรี๚ใช้เวลานานทีเดียว แต่ในตอนนั้นรู้สึกสนุกมาก เวลารถไฟจอดตามสถานีต่างๆ เป็นช่วงที่สนุกที่สุด อ้อยหวานชอบดูผู้คนเดินทางที่เดินขึ้นลงรถไฟ และพ่อค้าแม่ขายที่ทูนถาดขนม และของทานอร่อยๆ ปากก็ตะโกนร้องขายกันอย่างสนุกครึกครื้น จำได้ว่ามีพ่อค้าอยู่คนหนึ่งที่ส่งเสียงร้องขายได้แปลกมากคือ “ไก่ครับ ไก่..ก่..ก่..ก่ ท่อต” รองอ่านคำว่าไก่ลากเสียงไปยาวจนสุดลมหายใจ แล้วลงเสียงคำว่าทอดให้สั้นและห้วนที่สุด ได้ยินทีไรต้องหัวเราะกิ๊กๆ ทุกที การเวลาผ่านไปการเดินทางแบบอื่นก็เข้ามามีบทบาทเหนือรถไฟ แล้วเด็กนักเรียนไกลบ้านคนนี้ก็ยิ่งไกลบ้านออกไปจนสุดขั่ว แต่ในบางครั้งก็ยังถวิลหา อยากหวนกลับมาชมรอยทางเดิมที่เคยผ่านในอดีต เมื่อได้มาแวะเยือนทุ่งสงก็ต้องมีการย้อนรอยเก่ากันบ้าง จึงมีทริปปั่นเที่ยววงกลม ทุ่งสง-นาบอน-ทุ่งสง และทริปปั่นเที่ยวรอบๆ ทุ่งสงขึ้น
ก่อนอื่นอ้อยหวานขออธิบายทางรถไฟสายใต้ช่วงนครศรีธรรมราชไว้คร่าวๆ เป็นเพราะแนวเทือกเขานครศีธรรมราชที่ทอดตัวยาวเหนือใต้ และแบ่งจังหวัดนครศรี๚ ออกเป็นสองฝั่ง ทางรถไฟจึงต้องเลาะเลียบแนวเขาลงใต้มาจนถึงทุ่งสง แล้วสายหลักจะลงใต้ต่อไปยังสุไหโกลก แต่สายนครศรี๚ จะอ้อมเขาแล้ววกขึ้นเหนือมายังอำเภอเมืองนครศรี๚ อีกที โดยผ่านอุโมงค์แห่งเดียวของทางรถไฟสายใต้ คือ อุโมงค์ช่องเขา ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรี๚ มีความยาว 235.90 เมตร ทำให้เป็นการเดินทางที่ยาวนานจริงๆ
วันที่เราปั่นเที่ยวทุ่งสงและพื้นที่รอบๆ ฟ้าฝนก็เป็นใจราดน้ำมนต์น้ำฝนให้ชุ่มฉ่ำใจมาทั้งสองวัน เด็กใต้ที่ชอบวิ่งเล่นตากฝนจะรู้ว่ามันสนุกเพียงไร ปั่นจักรยานตากฝนก็สนุกเยี่ยงนั้น และในวันนั้นไม่ใช่แต่เด็กใต้ที่สนุกสุดเวี่ยง เด็กหัวหรั่งก็สนุกเช่นกัน แต่มีข้อเสียอย่างเดียวคือถ่ายรูปไม่ได้ จึงมีรูประหว่างทางมาให้ชมน้อยมาก เราปั่นไปบนถนนสายเล็กๆ สองฝั่งถนนร่มและเขียวขจี ยิ่งสายฝนพร่างพรมมามากเท่าใด เหล่ามวลไม้ก็แข่งกันเปล่งรัศมีสีเขียวมากขึ้นเท่านั้น นับเป็นวันที่เราได้ดมกลิ่นไอฝน ยลความงามสีเขียว กันอย่างจุใจจริงๆ เหมือนได้มาดีท็อกซ์ปอดและตา ท่ามกลางสายฝนเราสัมผัสถึงความเย็นชุ่มฉ่ำ ปั่นจักรยานกลางสายฝนนี้ เป็นความสุข สนุก สดชื่น จริงๆ
ไม่ใช่สายฝนหรอก ที่ทำให้เราไม่สบาย..แต่เป็นเพราะร่างกายที่ไม่แข็งแรงต่างหาก
เส้นทางวงกลม ทุ่งสง-นาบอน-ทุ่งสง ระยะทางทั้งหมดเกือบ 40 กิโล ที่ออกแบบมาให้เลียบทางรถไฟมากที่สุด ดูจากแผนที่จะเห็นได้ว่าเราเลาะเลียบเชิงเขากันจริงๆ เป็นเส้นทางสีเขียวอีกเส้นทางหนึ่งที่เหมาะกับการปั่นจักรยานเที่ยวมาก
ภูเขามีประสิทธิภาพในการดักจับเมฆ/หมอกจริงๆ แถบนี้จึงชุมชื้นเป็นพิเศษ
เราหยุดแวะชมสถานีรถไฟระหว่างทางคือ สถานีรถไฟนาบอน คลองจัง และทุ่งสง แต่เป็นเพราะสภาพที่เปียกปอนเป็นลูกหมาตกน้ำ แถมรองเท้าก็เปื้อนดินโคลน ทำให้ไม่ได้หยุดชมนาน กลัวไปทำสถานที่เขาเลอะเทอะ สถานีรถไฟทั้งสามสถานีมีการเปลี่ยบแปลงน้อยมาก ทีฺเปลี่ยนไปคือห้องน้ำ ทำใหม่ เน้นโทนชมพูแบบเดียวกันแป๊ะ!
เครื่องสับรางรถไฟ
ประวัติทางรถไฟสายใต้
เป็นทางรถไฟที่เริ่มต้นจากสถานีรถไฟธนบุรี กรุงเทพมหานคร ผ่านจังหวัดนครปฐม, ราชบุรี, เพชรบุรี,ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, พัทลุง, สงขลา, ยะลา และไปสุดปลายทางที่สถานีรถไฟสุไหงโก-ลกจังหวัดนราธิวาส และไปบรรจบกับทางรถไฟของประเทศมาเลเซีย ที่สถานีรถไฟรันเตาปันยัง
ทาง รถไฟสายใต้สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจากสถานี รถไฟธนบุรีถึงสถานีรถไฟเพชรบุรี ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ขยายเส้นทางไปภาคใต้และสร้างทางแยกที่สถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สะพานพระรามหกไปบรรจบกันที่สถานีรถไฟชุมทางตลิ่งชัน เพื่อเชื่อมทางรถไฟสายใต้กับทางรถไฟสายเหนือ ทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ และสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)ความยาวของทางรถไฟสายใต้ นับจากสถานีรถไฟธนบุรี ถึง ชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส รวมทั้งสิ้น 1,144.29 กิโลเมตร เป็นทางรถไฟสายที่ยาวที่สุดในประเทศไทย
ขอบคุณข้อมูลจาก ปาตานี
ส่วนวันต่อไปเราปั่นเที่ยวรอบๆ ทุ่งสง ก็ปั่นกันแบบตามใจฉัน เอาใจเธอ และเกรงใจฟ้า เพราะวันนี้ฟ้าฝนออกจะมาในแนวพระพิโรท
อำเภอทุ่งสง เป็นอำเภอที่มีความเจริญเป็นอันดับสองของจังหวัดนครศรีธรรมราช รองจากอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เนื่องจากมีที่ตั้งอยู่ตรงกลางของภาคใต้และเป็นจุดศูนย์กลางคมนาคมทางบกทั้ง รถยนต์และรถไฟ อำเภอทุ่งสงมีประวัติความเป็นมายาวนาน ปรากฏตามตำนานเมืองนครศรีธรรมราชว่าเคยเป็นแขวงขึ้นอยู่ในปกครองของเมือง นครศรีธรรมราชตั้งแต่สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เมื่อได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองจากมณฑล เป็นจังหวัด เมื่อ พ.ศ. 2440 ได้จัดตั้งเป็นอำเภอทุ่งสงขึ้นกับจังหวัดนครศรีธรรมราช
ขอบคุณข้อมูลจากวิกิพีเดีย
ปั่นตามใจฉันก็คืออ้อยหวานอยากไปชมศาลพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม เช้าวันนั้ท้องฟ้ามืดครึ้ม เมฆฝนแผ่คลุมทั่วฟ้า แต่อยู่ใต้ฟ้าจะกลัวอะไรกับฝน จึงมีคนเห็นจักรยานสองคันแล่นลิ่วออกไป เราแวะทานข้าวต้มโจ๊กริมทาง แล้วเลยไปที่ศาลเจ้า ทั่วทั้งบริเวณสงบเงียบ หมอกเมฆฝนค่อยๆ ลอยเลื่อนเข้ามาปกคลุม ทำให้ได้บรรยากาศขรึมขลังและศักดิ์สิทธิ์ อาคารศาลเจ้าดูเหมือนเพิ่งได้รับการบรูรณะไปไม่นานมานี้เอง
ศาลพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมเป็นที่ประดิษฐานพระซำปอกง (หลวงพ่อโต) และรูปปั้นพระโพธิ์สัตว์เจ้าแม่กวนอิมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่เป็นประติมากรรมปูนปั้นปางปาฏิหาริย์ทรงแผ่เมตตา รายล้อมด้วยสระน้ำและน้ำพุ เหนือแท่นบูชา 3 ชั้น โดยมีขนาดความสูงของพระพุทธรูป 19 เมตร ซึ่งภายในวัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กราบไหว้บูชาอีกมากมาย เช่น เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว, องค์พญาทวดตรีเศียรไตรมงคล, องค์เทพทวารบาล, องค์แปะกง และพระพุทธชินราช เป็นต้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวของทุ่งสงและนครศรีธรรมราชได้ ที่นี่
พระพุทธชินราช พระประธานในโบสถ์ ตัวอักษรจีนข้างหลังองค์พระ อ้อยหวานเดาเอาว่าเป็นตัวอักษร "ส" และ "ธ" หากใครอ่านออกวานบอกที
จากเม้นท์ของน้องโต้ง ตัวอักษรจีน 佛 Fu ความหมายแปลว่าศาสนาพุทธหรือพระพุทธเจ้า
ขอบคุณค่ะ
พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมยืนเด่นหน้าเนินเขาประดับด้วยสายเมฆ
หลังคาโบสถ์มีตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรต สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ในวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
รายละเอียดที่น่ารู้น่าสนใจของตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรต สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ
อักษร พระนามาภิไธย ส.ธ. ภายในกรอบสุพรรณเบจเพชรรัตน์ อักษร "ส" สีม่วงชาดแก่ อักษร "ธ" สีขาว บนพื้นสีม่วงครามอ่อน เป็นสีวันพระราชสมภพ ดวงเพชรรัตน์ ๕ ดวง หมายถึง ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๕ รอบ อักษรพระนามาภิไธย ส.ธ. อยู่ภายใต้พระชฎามีพระกลีบปักพระยี่ก่าทองไม่ประกอบพระกรรเจียกจร เบื้องหลังพระชฎามีพระบวรเศวตฉัตร (พระสัตตปฎลเศวตฉัตร) คือ ฉัตรขาว ๗ ชั้น แต่ละชั้นมีระบายขลิบทองแผ่นลวด ๓ ชั้น ชั้นล่างสุดห้อยอุบะจำปาทองเป็นเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมราชกุมารี ทั้งสองข้างกรอบพระนามาภิไธย มีรูปเทพยดา พระกรหนึ่งประคองเชิญพระบวรเศวตฉัตร พระกรหนึ่งกระชับเถาบัวทองไว้ ขัดพระขรรค์ทรงเศวตพัสตราภรณ์ เขียนทอง เทพยดาข้างเลข ๖ (ด้านซ้าย) ทรงพระชฎาเดินหน ปักพระยี่ก่าดอกไม้ทอง ทัดพระกรรเจียกจร และเทพยดาข้างเลข ๐ (ด้านขวา) ทรงพระชฎามหากฐิน (พระชฎาห้ายอด) ปักพระยี่ก่าดอกไม้ทอง ทัดพระกรรเจียกจร หมายถึง เทพยดาทรงมาบริรักษ์เฉลิมฉลองในมหามงคลกาลนี้ ให้ทรงเจริญพระสิริสวัสดิ์ พูนพิพัฒน์พระเกียรติยศยิ่ง พ้นสิ่งสรรพทุกข์ โรคันตรายทั้งปวง อนึ่ง เถาบัวทอง หมายถึง ทรงเนานิเวศน์ นามว่า "สระปทุม" ใต้กรอบพระนามาภิไธย มีเลขมหามงคล ๖๐ ว่าทรงเจริญพระชนมายุ ๖๐ พรรษา บนพื้นสีหงสบาท (ส้มอ่อนหรือสีเท้าหงส์) เป็นสีวันพฤหัสบดี ในคัมภีร์พระไสยศาสตร์ว่าเป็นมงคลอายุของวันพระราชสมภพ ถัดลงมามีเชิงลายถมสีหงชาด (ชมพู) เขียนอักษรไทยย่อสีทองว่า "ฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ" และ "๒ เมษายน ๒๕๕๘" บนห้องลายพื้นสีขาวถัดลงมา สะท้อนถึงทรงเชี่ยวชาญด้านอักษรโบราณและการโบราณคดีทั้งปวงด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก สฟป
ศาลพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมเป็นสถานที่ที่มีสถาปัตยกรรมและศิลปะแบบจีนอันวิจิตรงดงาม รูปภาพบนคานมีสีสันสดใสเป็นภาพต่างๆ เช่น เทพเจ้าจีน ดอกไม้ และสัตว์มงคลต่างๆ และแน่นอนต้องมีรูปวาดและรูปปั้นมังกรอยู่มากมาย
ชาวจีนเชื่อถือกันว่ามังกรเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ 4 ชนิด คือ กิเลน หงส์ เต่า และมังกร และส่วนใหญ่เป็นมังกรคาบแก้ว บางตำรากล่าวว่ามังกรเป็นเทพพิทักษ์ไข่มุกศักดิ์สิทธิ์แห่งท้องทะเล แต่บางตำรากล่าวว่าแก้วหรือมุกนั้นเป็นไข่ของมังกรเอง
ต่อมาก็มาถึงปั่นเที่ยวเอาใจเธอคือคุณผู้ชายที่ชื่นชอบพรรณไม้ ป่า สวน เธอชื่นชอบสวนพฤกษศาสตร์เป็นพิเศษ พอเห็นคำว่าสวนพฤกษศาสตร์ในแผนที่กูเกิ้ลก็ต้องตามไปดู สวนพฤกษา สิรินธร ภาษาอังกฤษใช้ชื่อว่า Sirindhorn Botanical Garden
คำว่า Botanical Garden หรือ สวนพฤกษศาสตร์นั้นมีความหมายว่าเป็นพื้นที่คุ้มครองประเภทหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นเพื่อรวบรวมพันธุ์ไม้ทุกชนิด ทั้งในและนอกประเทศที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ ความสวยงามหรือที่หายากมาปลูกไว้เป็นลำดับตามหมวดหมู่ และตระกูล เพื่อการศึกษาวิจัยและการเผยแพร่ขยายพันธุ์ ให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน และแก่ประเทศชาติต่อไป ในประเทศไทยมีอยู่ 5 แห่ง คือ สวนพฤกษศาสตร์พุแค จังหวัดสระบุรี สวนพฤกษศาสตร์เขาช่อง จังหวัดตรัง
แต่ปั่นไปถึงสวนก็รู้ว่าเป็นเพียงสวนสาธารณะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจเท่านั้น อ้อยหวานคิดว่าคนที่ใส่ชื่อภาษาอังกฤษในแผนที่กูเกิ้ล ควรจะกลับไปแก้ไขความผิดพลาดของตน อย่างไรก็ตามสวนร่มรื่นครึ้มไปด้วยพรรณไม้เพียงปั่นจักรยานผ่านก็คงเพียงพอ ส่วนการเดินป่าหลังเขาที่ระบุในเว็ปไซด์ของ สวนพฤกษา สิรินธร คงจะเป็นโครงการในอนาคตที่ยาวไกล
ส่วนที่อ้อยหวานว่าเกรงใจฟ้าคือฝนที่กระหน่ำลงมาสุดฤทธิ์ มีสายฟ้าฟาดด้วย ทำให้เราต้องหาที่หลบฝนกันจ้าละวั่น แล้วเราก็ได้ที่หลบฝนอย่างดี ทุ่งสงมีร้านแมคโดนัลที่กว้างใหญ่และตกแต่งไว้สวยน่านั่ง (หลบฝน) เชียวละ เราเลยได้อุดหนุนกาแฟ มันฝรั่งทอด และห้องน้ำกันที่นี่ ต้องขอบขอบคุณที่ทางร้านที่จัดนั่งตรงระเบียงด้านนอกไว้ด้วย เราเลยไม่ต้องไปนั่งหนาวสั่นในห้องแอร์ เพราะกว่าจะหาที่หลบฝนได้เราสองคนก็เปียกปอนกันสุดๆ แล้ว นี่เป็นครั้งแรกในรอบสิบปีที่เราได้อุดหนุนร้านที่มีชื่อเสียงก้องโลก ปรกติแล้วจะไม่ย่างกายเข้าใกล้เลย
ตกกลางคืนก็ได้ไปเดินตลาดโต้รุ่งทุ่งสง ที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรม แต่เป็นการเดินชมที่ค่อนข้างรีบร้อน ต้องรีบซื้อ รีบชม เพราะสายฝนเริ่มโปรยปรายมาให้ชุ่มฉ่ำอีกครา
เช้าวันต่อมาเราลาจากทุ่งสงและฟ้าฝนเย็นฉ่ำโดยการยกสองล้อขึ้นรถไฟ มุ่งหน้าขึ้นเหนือไปยังเป้าหมายต่อไปของเรา แล้วเราก็รู้ว่าในช่วงเวลาสองอาทิตย์ต่อไป ใจเราต้องถวิลหาสายฝนอันเย็นฉ่ำกันมากมายเพียงใด
ป.ล. สำหรับคนที่บอกว่าไม่ได้เที่ยวไหน ไม่มีเวลาเที่ยว ขอให้มาลองปั่นจักรยานเที่ยวดู เริ่มแรกก็วนเวียนแถวบ้าน ถนนหลัง ซอกซอย ทั้งที่เคยผ่านไปมาบนยานพาหนะที่ไม่เป็นมิตรต่อโลก หรือที่ยังไม่เคยเยื้องกายผ่านไปเลย ทั้งที่มันอยู่แค่เอื้อมนี่เอง! ขอให้ลองเจียดเวลาสักชั่วโมงต่อวันหรือต่ออาทิตย์ มาออกแรงขา หมุนสองล้อ พาตัวเองไปเสพความงามของท้องถิ่นที่ตนอาศัย (แต่ไม่รู้จักลึกซึ้ง) แล้วจะได้รู้จักกับการท่องเที่ยวอีกแบบที่ไม่ธรรมดา
โปรดติดตามปั่นเที่ยวไทยกับอ้อยหวานในตอนต่อไป
อ่านปั่นเที่ยวไทยตอนที่แล้วได้ที่นี่
ปั่นจักรยานทัวร์ริ่ง มันปิ้ง ปิ้ง จริงๆ นะ
ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข
ขอบคุณค่ะ
อ้อยหวาน
- บล็อกของ อ้อยหวาน
- อ่าน 18157 ครั้ง
ความเห็น
ลูกอีสาน
8 มกราคม, 2016 - 06:54
Permalink
Re: หอมกลิ่นไอฝน ยลความงามสีเขียว ณ.เชิงเขานครศรีธรรมราช
ตามมาเที่ยวด้วยคนครับ
วรพจน์ เอียดจันทร์
8 มกราคม, 2016 - 12:31
Permalink
Re: หอมกลิ่นไอฝน ยลความงามสีเขียว ณ.เชิงเขานครศรีธรรมราช
ติดใจขอเที่ยวต่อนะครับ
การทำงานต้องรู้จริงทำจริงจึงประสบกับความสำเร็จ
เสิน
8 มกราคม, 2016 - 13:54
Permalink
Re: หอมกลิ่นไอฝน ยลความงามสีเขียว ณ.เชิงเขานครศรีธรรมราช
แสดงว่าทางรถไฟที่ผ่านวัดช้างให้(หลวงปู่ทวด)และบ้านผม สร้างในสมัยร.๖ ขอบคุณในข้อมูลครับ
..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..
ริมสวนยาง
9 มกราคม, 2016 - 13:33
Permalink
Re: หอมกลิ่นไอฝน ยลความงามสีเขียว ณ.เชิงเขานครศรีธรรมราช
สวยงาม ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว และความ คม ปลายปากกา ที่ ฉก เอาความรู้สึก คนอ่าน .(แน่นด้วยความรู้ในเนื้อหา) เร้าใจ ต้องติดตามอ่าน จนจบ ค่ะ พี่อ้อย....วิเศษสุด กับการเดินทาง กับคนรู้ใจ ......ขอบคุณมากๆ ค่ะ
priraya
10 มกราคม, 2016 - 14:00
Permalink
Re: หอมกลิ่นไอฝน ยลความงามสีเขียว ณ.เชิงเขานครศรีธรรมราช
สวยงามทั้งสถานที่และฝีมือถ่ายภาพเลยค่ะ...
TuayFoo
11 มกราคม, 2016 - 13:43
Permalink
Re: หอมกลิ่นไอฝน ยลความงามสีเขียว ณ.เชิงเขานครศรีธรรมราช
ตัวอักษรจีน จำคำเรียกไม่ได้แล้ว (คงต้องถามพ่อ-เพื่อน) แต่รู้ความหมายแปลว่าศาสนาพุทธ/พระพุทธเจ้านะครับ
佛 Fu' พระพุทธเจ้า Google แปลนะครับ
ไร่สุโขทัยนี้ดี ไร่นี้มีแต่ความสุข
kandee
11 มกราคม, 2016 - 15:00
Permalink
Re: หอมกลิ่นไอฝน ยลความงามสีเขียว ณ.เชิงเขานครศรีธรรมราช
ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ นึกถึงกลิ่นฝนผสมกลิ่นป่า กลิ่นต้นไม้ ใบหญ้า สุดแสนจะชื่นใจ หอมที่ไม่ได้ปรุงแต่ง นึกแล้ว เหมือนหลุดไปอยู่ด้วยจริงๆ^^
ความสุข..อยู่ที่ใจ