ทำไปเรื่อย ๆ (Keep going)

กสิกรแข็งขันเป็นกระดูสันหลังของชาติ ไทยจะเรืองอำนาจเพราะกสิกรรม ... ใครแต่งไว้ไม่รู้ เคยฟังตอนเด็ก ๆ เพราะดีครับ จริงไม่จริงผมก็ไม่รู้อีกเช่นกันแต่ว่าผมยังสนุกกับการทำไร่ทำสวนไปเรื่อย ๆ ตามประสาคนกินอิ่มแล้วไม่มีงานทำครับ เริ่มลงมือปรับที่สำหรับทำแปลงผัก-ผลไม้ (ขนาดเล็ก ๆ ที่พอจะดูแลได้) อีกหนึ่งแปลงคือสวนสมุนไพรเล็ก ๆ เอาไว้ปลูกสมุนไพรพื้นบ้านและเผื่อไว้ทำกิจกรรมในอนาคต ขณะนี้ก็อยู่ในช่วงการปรับปรุงดิน โดยใช้มูลม้าที่มีอยู่ครับ (ไม่ต้องไปหาหรือเสียเงินซื้อจากที่ไหน) ค่อย ๆ ใส่ไปเรื่อย ๆ สักวันดินน่าจะกลับมาดีกว่านี้ เพราะถึงแม้เราจะเปลี่ยนโครงสร้างดินไม่ได้ (ในชั่วอายุเรา) แต่เราปรับปรุงคุณภาพดินได้ครับ จากนั้นก็ทดลองปลูกมะละกอและผักเล็กน้อยเพื่อทดสอบดูการเติบโตว่าดีไหม และทำบ่อปลา (เล็ก ๆ อีกเช่นกัน) กะไว้ว่าจะทดลองเลี้ยงปลาไว้สักหน่อยเผื่อเอาไว้ทำกิจกรรม "หาอยู่หากิน" ตามที่เคยอบรม "คนกล้าคืนถิ่น" มา คิดว่าน่าจะนำมาสอนเด็กใช้เครื่องมือจับปลาและคงจะสนุกสนาน (ก็ผู้ใหญ่ที่ไปอบรมด้วยกันยังสนุกสนานหัวเราะกันเลย) เป็นต้น ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างสร้างน้ำเขียวปรับสภาพนิเวศให้เหมาะสมเอาไว้ก่อน เดี๋ยวถึงหน้าฝนจริง ๆ คงได้หาลูกปลามาปล่อยลงบ่อจริง ๆ นอกจากนี้หากอยู่บ้านที่กรุงเทพก็ตระเตรียมต้นไม้ทั้งเพาะเอง ได้รับมาจากเพื่อนฝูงหรือแม้กระทั่งเก็บตามรายทาง คงได้นำไปปลูกเพิ่มเติมรวมทั้งปลูกทดแทนต้นที่ตายไปครับ

ปีนี้ดูจากข้อมูลพยากรณ์อากาศแล้วปริมาณน้ำฝนน่าจะมากกว่าค่าเฉลี่ย 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งน่าจะเป็นผลดีกับเกษตรกร เพราะน้ำเยอะเกษตรกรส่วนมากสามารถผันน้ำออกได้ แต่ถ้าน้ำน้อยแม้แต่บาดาลยังแห้งแบบปี 2558 นี่ไม่น่าเป็นผลดีกับเกษตรกรครับ เดือนเมษายน-ต้นพฤษภาคม สำรวจดูน้ำตามคูคลองที่เห็นก็เต็มคลองไม่ได้แห้งขอดเหมือนหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา และฝนก็ตกอย่างกับฤดูฝน ดูแล้วปีนี้คงไม่แล้งน้ำจริง ๆ ขณะที่เขียน Blog นี้ฝนก็เทกระหน่ำเสียยิ่งกว่าหน้าฝนปีที่แล้วอีก ไร่สวนเพื่อนสมาชิกเป็นอย่างไรบ้างครับ หลาย ๆ ท่านอาจจะยุ่ง ๆ เพื่อเตรียมตัวจัดการไร่นาสวนของตนเอง ถ้าอย่างไรหากพอมีเวลาก็เขียนเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ (รู้สึก Blog จะเงียบเหงาไปนิดหนึ่ง) เพราะการเขียน Blog มันเป็นเรื่องราวที่เก็บไว้เป็นความทรงจำดีกว่าการเขียนบน facebook ซึ่งบางทีข้อเขียนจะเป็นเศษเสี้ยว fragment ที่ไม่ปะติดปะต่อเรื่องราวแต่อย่างไร

สำหรับผลผลิตที่ปลูกไว้ก็เริ่มออกผลให้กิน ทดสอบชิมรสชาติของแต่ละอย่างก็รู้สึกดีมาก ๆ เพราะเรารู้ว่าของที่เราลงแรงปลูกเองทุก ๆ อย่างในไร่สุโขทัยนี้ดีไม่เคยได้รับสารเคมีจากปุ๋ยเคมีหรือยากำจัดศัตรูพืชแต่อย่างใด จำนวนผลผลิตอาจจะไม่มากมายแต่อย่างใด (เพราะขณะนี้ผมยังไม่ได้คิดจะปลูกไว้ขายแบบจำนวนเยอะ ๆ) มีกินและแจกญาติหรือเพื่อนฝูงซะมากกว่า แต่บางคนก็ไม่ยอมรับฟรี ๆ เหมือนกัน แม่ไก่ไข่ที่เลี้ยงไว้ก็ออกไข่ให้กินทุก ๆ วัน ฉะนั้นผลผลิตทุกอย่างในไร่ฯ ผมก็นำมาทานกินเองหรือนำไปแจกญาติและเพื่อนฝูงก็กล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่าผลผลิตอินทรีย์จากไร่สุโขทัยนี้ดี Organic จริง ๆ ครับ Blog นี้ต้องขอโทษครับรู้สึกเขียนไปเรื่อยเปื่อยสวัสดีครับ