ค้นหา....

หมวดหมู่ของบล็อก: 

เอสเปรโซ เย็นหนึ่งครับ....

พนักงานเงยหน้าสบตาผม พยักยิ้มพร้อมๆกับเสียง ค่ะ ที่เล็ดลอดออกมาผ่านลำคออย่างแผ่วเบา ไม่มีคำถามต่อท้ายหรือสร้อยความใดๆว่าทานนี่หรือบนรถค่ะ ด้วยคงอาจจะแอบเห็นสภาพและท่าทางของผมตั้งแต่ลงรถแล้ว เธอจึง ละและสงวนความคำถามนั้นไว้....

โต๊ะขอบหลังริมสุดท้ายของพื้นที่ร้าน และอาจจะท้ายสุดของเขตแดนปั้มน้ำมันแห่งนี้ ผมนั่งลงเบือนหน้าหันหลังให้กับความวุ่นวายที่เซ็งแซ่ภายในปั้ม ทอดสายตาคู่หม่นไปยังทุ่งนากว้าง ที่บัดนี้เขียวขจีไปด้วยต้นข้าวที่เยาว์วัย แสงแดดกลางอ่อนกลางแก่ยามนี้ ขัดเงาความงามของสีเขียวอ่อนให้แจ่มชัดขึ้น อีกทั้งแพรวพราวพริ้วไหวเป็นระลอกคลื่นน้อยๆชวนมองยามเมื่อต้องสายลมที่เริ่มผ่านพัด หยอกเย้าปลายใบข้าวอย่างเอ็นดู

หัวหน้ากลุ่มนัดแนะกับผมและสมาชิกกลุ่มเพื่อนพอเพียงไว้ที่นี่ จะด้วยความตื่นเต้นหรือไรไม่อาจทราบได้ ทำให้ผมนอนไม่หลับและด้วยระยะทางที่ค่อนข้างไกลผมจึงตัดสินใจขับรถมาเรื่อยๆตั้งแต่ตีสามกว่าๆเพียงลำพัง แต่กระนั้นก็มิวายที่จะโทรไปถามไถ่เพื่อนพ้องน้องพี่ที่กำลังเตรียมตัวตามกันมาตลอดเส้นทาง เดือนกว่าแล้วที่เราสมาชิกเกือบสามสิบชีวิตเข้ามาอยู่ มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันและกัน เฉพาะวันเสาร์บ้างวันอาทิตย์บ้าง แล้วแต่จะสะดวก ด้วยเข้าใจถึงบทบาทภาระหน้าที่ทางครอบครัวและหัวโขนทางสังคมของแต่ละคนที่กำลังเล่นบทชีวิตจริง ซึ้งทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นตัวแสดงนำที่สำคัญของเรื่องกันแทบทั้งสิ้น โดยมีผู้รู้ ผู้ชำชองในแต่ละด้านแต่ละงาน ผลัดเปลี่ยนกันมาทำหน้าที่บอกเล่า ถึงแง่คิดประสบการณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตในแบบพอเพียงในฐานะผู้จัดกระบวนการเรียนรู้

นี่... อาจถึงยุคที่มะเขื่อ มะนาว  ตะไคร้ ใบมะกรูดที่ปลูกแอบซ่อนไว้ อยู่หลังบ้านเป็นนางครัวหน้าดำจะต้องออกมาทำหน้าที่รับบทใหม่ตามกระแสภิวัต ถูกจัดแถว จัดแจงแต่งหน้าทาปาก  ถอนราก ปลิกดอก ปลิกใบ ถ่ายภาพ ทำประวัติตั้งแต่การเพาะปลูก หยูยา อาหารรวมไปถึงผลิตผลที่พึงมีพึงได้ เครื่องมือเครื่องใช้ถูกนำมาเป็นตัวแปรวัดค่าต่างๆไม่เว้นแม้แต่ดรรชนีวัดความสุขมวลรวม โดยหน่วยงานของรัฐหรือแม้แต่กลุ่มองค์กรผู้พิทักษ์ความเพียงพอต่างๆ แล้วกระมัง

 อันที่จริงความพอเพียงสามารถฝังรากอยู่ได้ทุกที่ ทุกการหยิบจับเคลื่อนไหว ตั้งแต่ระดับองค์กรขนาดใหญ่ร่ายมาจนถึงปัจเจกบุคคลผู้มีอัตตวิสัย หากแต่การเรียนรู้กระบวนการทางปรัชญาเบื้องต้นมักจะต้องผ่านการฝึกฝนเริ่มจากตัวเองก่อนเป็นลำดับสำคัญ ปล่อยให้เวลาของตัวตนได้หยุดคิดจุดติดแล้วระเบิดจากข้างใน

“จะไปบ้านนาลุงชมกันหรือค่ะ ......”

ผมลืมตาความคิดเงยหน้ามองสาวต้นเสียงแทบจะทันที.......พร้อมๆกับเหลือบมองแก้วกาแฟที่เธอบรรจงวางลงไว้บนโต๊ะเบี้องหน้า

 “อ๋อ....ครับๆ ว่าแต่น้องรู้ได้ไงหละ.....”

“เอ่อ....หนูเห็นสติกเกอร์ที่หน้ารถพี่ค่ะ แล้วที่เสื้อนอกพี่ด้วย  ก็คงคิดว่าน่าจะมารอเพื่อนเพื่อไปบ้านนาลุงชมกัน.......

ผมเหลือบสายตาลงมามองยี้ห้อพอเพียงที่บรรจงปักอยู่หน้าอกเสื้อขนาดโตเท่าผ่ามืออย่างภาคภูมิใจ บางครั้งการมีคราบของความพอเพียงแม้จะเพียงน้อยนิด ก็สามารถทำให้คนอื่นมองเราอย่างฉันท์มิตร ถูกชื่นชมในมุมมองเชิงสร้างสรรค์ ไม่แปลกที่กระแสเหล่านี้กำลังมาแรงและได้รับความนิยมอยู่ทุกๆอณูหย่อมหญ้า  อีกทั้งยังถูกพัฒนาแอบอิงไปยังสิ้นค้าพื้นเมืองต่างๆที่ผุดขึ้น เสมือนตัวแทนในมิติแห่งการอนุรักษ์ การเป็นมิตรต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สามารถฟอกความความตระหนีขี้เหนี่ยวที่เกาะยึดเป็นสันดานในตัวตนให้ดูแลประหนึ่งนักบุญผู้น่าเลื่อมใสได้ภายในพริบตา ด้วยเสื้อหรือสัญลักษณ์แห่งความพอเพียงนี้เพียงตัวเดียว

“มากันไกลเลยนะคะ.....เหมือนที่บ้านพี่ไม่มีนามีสวนอย่างนั้นแหละ....”

“เอ้...เด็กคนนี้” ผมคิดในใจแต่ด้วยความอ่อนล้าขี้เกียจต่อปากต่อคำ บอกเล่าถึงความเป็นมาว่าทำไมเราถึงได้มากันที่นี่ เธอจะเข้าใจอะไรกับความหมายเหล่านี้ วันๆมือก็วุ่นแทบจะไม่มีเวลาพักอยู่แล้ว อีกอย่างที่เธอพูด...มันก็ถูกของเธอ

 “ก็...มากันบ่อยคะมากันเยอะหลายคณะ ส่วนใหญ่ก็จะแวะมารอกันที่นี่แหละค่ะ...” เธอต่อเนื่องกับประโยคบอกเล่า อีกประโยคยาว ก่อนที่จะผละเดินจากไปโดยมีเสียงเอ่ยคำขอบคุณขุ่นๆจากผมตามหลังไปต้อยๆ.....

มากันเยอะหลายคณะ....ผมเอื้อนเอ่ยในใจ ...มิเสียแรงที่เราใช้ที่นี่เป็นที่แรกในการดูงาน  ความจริงที่นี่แม้จะเป็นที่แรกก็จริงหากแต่ไม่ใช่ทางเลือกแรกที่พวกเราร่วมกันตัดสินใจที่จะใช้เป็นสถานที่ดูงาน แต่เพราะด้วยความสวยของภาพ ความงดงามของคมคำที่ปรากฏแก่สายตาและห้วงคำนึงจากหนังสือต่างๆที่รวบรวมร้อยเรียงจากหลากหลายองค์กรที่จัดทำขึ้น ทำให้เราส่วนใหญ่นึกและอยากที่จะมาดู มาเห็น มาสัมผัส ตัวเป็นๆกับตา มากกว่าที่จะนั่งจินตนาการถึงความสวยงามจากภาพเนื้อหาในหนังสือ แม้จะเป็นสถานที่ๆไกลกว่าทุกทางเลือกที่มี แต่เมื่อความเป็นนักประชาธิปไตยถูกหยิบขึ้นมาใช้สถานที่นี้จึงผ่านวาระความเห็นชอบด้วยคะแนนนิยมแทบจะเป็นเอกฉันท์

                      โดยมีผมเป็นคนขับปิดท้ายขบวน  เราและคณะออกจากสถานีนัดพบมาเพียงเล็กน้อย สองข้างทางยังคงเขียวขจี สลับกับบ้านเรือนและตึกคูหาบ้างเป็นครั้งคราว เราเริ่มเห็นป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนว่า เกษตรชุมชนบ้านนาลุงชม ชุมชนบ้านนาพอเพียงลุงชม ศูนย์การเรียนรู้บ้านนาลุงชม มากและบ่อยขึ้นเหมือนเป็นการบ่งบอกว่าความปราถนาอันแรงกล้าที่พวกเราดั้นด้นกันมาเพื่อที่จะเรียนรู้จากครูตนแบบกำลังใกล้เข้ามาทุกขณะจิต ความหืนกระหายใคร่รู้จะได้ถึงจุดบรรลุโดยพลัน ภาพในห้วงรำลึกที่พบเจอจากหนังสือผุดขึ้นเป็นฉากๆ มันจะสวยกว่าในหนังสือไหม จินตนาการและภาพฝันจะกลายเป็นความจริงแล้วในไม่ช้านี้

ขบวนพอเพียงของเราเริ่มชะลอรถและเลี้ยวช้ายฉีกออกจากถนนใหญ่ ผมหันไปมองและขับผ่าน ป้ายยินดีต้อนรับที่มีภาพลุงชมในชุดม้อง่อมรูปโตตรงปากทางเข้าอย่างชื่นชม ถนนแม้จะแคบแต่เส้นทางที่ราบเรียบด้วยพื้นชีเมนต์ต่อแถวถัดๆกันไปทำให้ง่ายต่อการควบคุมรถ ผมฉะลอรถทิ้งระยะห่างจากคันหน้าพอควร เพียงพอที่จะได้ลดกระจกเพื่อชื่นสัมผัสถึงความคมชัดของคลื่นเขียวขจีแทนที่จะเป็นกลิ่นไอควันของรถคันหน้า หลงเพลินรื่นรมไปกับระบำเพลงแห่งใบข้าวยามต้องลม   ผมชะงักคิดอดแปลกใจไม่ได้ว่า  ทำไม ผมถึงเพิ่งจะเคยเห็นภาพอะไรที่งดงามแบบนี้.....

จริงหรือ..ที่ว่าเราไม่เคยเห็นอะไรที่งดงามแบบนี้หรือว่ามันมี แต่เราเองต่างหากที่ไม่ยอมเปิดใจรับรู้ สังเกตเห็นความมีเป็นของมัน จนคนอื่นมาพบเจอและนำพากลับมาย้ำจ้ำจี้ ผ่านคำบอกเล่าสนทนา เป็นบทความต่างๆกระชากลากถูผลักดันให้เราหัดฝึกหัดมองสังเกต เราถึงได้คิด คิดได้ที่จะเริ่มต้นมาสังเกตและบรรลุถึงความรื่นรมย์อันเป็นแก่นแท้ที่งดงามแห่งธรรมชาติกันแบบจริงจัง

 ความงดงามมีอยู่แล้วในทุกที่ มีอยู่แล้วในทุกๆสิ่งที่มันเป็น เพียงแค่เราแบ่งใจสัมผัส เข้าถึงและยอมรับของความมีอยู่จริงของสิ่งนั้น  ขยับใจเข้าไปใกล้ชิด ชักชวน ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับมัน  แค่นี้เราก็อาจจะได้รับรู้ถึงความหมายและช่องทางที่จะใช้สื่อสารถึงกัน และ เมื่อใดที่เราเข้าถึง ใจสัมผัสรับรู้แห่งความงาม...เมื่อนั้น เราก็สวยงาม

ทุยสองตัวหยุดเละเล็มหญ้า  เชิดคอสบตากับขบวนพอเพียงที่แล่นผ่าน ผมเห็นหนึ่งในสมาชิกที่คุ้นเคยในรถคันหน้าโผล่หัวชะโงกหน้าบรรจเล็งกล้องถ่ายภาพมายังสองทุยแต่ไกลๆ ชูมือชูไม้ทำท่าโบกบ่ายบ่าย ประหนึ่งว่าพบเจอกับซุปเปอร์สตาร์ที่นิยมชมชอบมาเนินนาน  ผมแหยะยิ้มมุมปาก หันหน้ามองสังเกตสังกาเจ้าทุยในขณะที่รถกำลังจะแล่นเลยผ่านมันไป

“ไม่ยักจะมีนกเอี้ยงแฮะ.......”  ผมนึกใจ

“ แสดงว่ามันยังหนุ่ม.....ว่าทำไมสาวเล็กสาวใหญ่คันหน้าถึงได้กรีดกรายกันนะ"

ผมเห็นหัวขบวนรถพอเพียงไกลลิบๆอยู่เบื้องหน้า ทิวโค้งที่ทอดยาวทำให้ผมมองเห็นภาพของความรู้สึกที่ขัดแย้งกัน แทนที่จะเป็นขบวนฝูงควายที่ผู้เป็นเจ้าของ  กวาดต้อนเดินกันมาเพื่อยังแหล่งหญ้าอาหารแต่กลับเป็นขบวนรถของเราที่กำลังถูกต้อนรับเข้ามาแหวกวิ่งฝ่าท้องทุ่งเขียวขจี เพียงเพื่อที่จะค้นหาจุดหมาย เพื่อบรรลุถึงแก่นแท้แห่งความพอเพียง

“มากันไกลเลยนะคะ.....เหมือนที่บ้านพี่ไม่มีนามีสวนอย่างนั้นแหละ....”

เสียงใสๆแว้วแวบแต่หากกึกก้องเล็ดลอดเข้ามาในฐานคิด เหมือนเธอกำลังจะสื่อสารถึงความ...เป็นนัยๆ ผมคิดย้อนกลับมาถามตัวเอง ผมหรือเธอกันแน่นะที่ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจตัวเอง ไม่เข้าใจความหมาย หรือไม่เข้าใจอะไรเลย

 

ขบวนเพื่อนพอเพียงของเราจะยังคงขับเคลื่อนต่อไป ตราบใดที่เรายังหามันไม่เจอ

กระบวนการจัดการปรัชญาพอเพียงจะยังคงขับเคลื่อนต่อไป  ตราบใดที่ยังมี...ผู้ที่หาคำตอบนั้นไม่เจอ...เช่นกัน

 

เอสเปรโซ เย็นสักแก้วที่ไหมครับพี่..................................................

ความเห็น

ทั้งรสทั้งกลิ่น... พนักงานที่ร้านเห็นหน้าผมปั๊บ...

เอสไอซ์...ใช่ไหมพี่

ผมจีบปากจีบคอก้มหน้าตอบว่า....ครับน้อง

เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด  ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่

คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู

ถือซะว่าเป็นปัจเจควิจารณ์ที่กำหนดจากอัตวิสัยของคนวัยกลาง...เป็นงานเขียนที่มีสำนวนและการเล่นคำที่ดี..แต่ต้องค้นหาในสิ่งที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อพอสมควร ผมต้องอ่านถึงสองเที่ยว..มีหลายประโยคที่ชอบ..อาทิ.."ความงดงามมีอยู่แล้วในทุกที่ มีอยู่แล้วในทุกๆสิ่งที่มันเป็น เพียงแค่เราแบ่งใจสัมผัส เข้าถึงและยอมรับของความมีอยู่จริงของสิ่งนั้น..."  ดีครับ..ขอให้เขียนต่อนะ..ผมจะตามอ่าน..แต่ขอขนาด 4 นะ..ตาลาย..

แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย

อิอิ

ชอบอ่านเหมือนกันครับ

จากพี่ตั้ม ...ขอเพิ่มภาพ ด้วยครับในคราวต่อไปนะครับ

จะได้สุนทรีย มากขึั้้นนะครับ

ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆหากแต่มีข้อแก้ไขอีกมากมาย ขอบพระคุณครับ

เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด  ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่

คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู

เปิดใจรับฟังในทุกแง่คิดมุมมองครับ

ขอบพระคุณสำหรับการบ้านที่ผมต้องนำไปขบคิดครับ

อย่างที่ทราบเรายังต้องค้นหากันต่อไปครับ

เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด  ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่

คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู

ตุฯตั้มก็กดแป้น Ctrl กับแป้น + พร้อมๆกัน อักษรจะขยายใหญ่ขึ้น หากต้องการให้โตกว่านี้ ก็กด 2 แป้นนี้อีกที ผู้อาวุโสจะได้อ่านง่ายๆ

ผมขับรถทางไกล ไปภูเก็ต หรือหาดใหญ่ แวะปั้มท์น้ำมัน กินกาแฟ แล้วก็ขอ กากกาแฟเขาด้วย เอาไปทำน้ำหมักครับ บางครั้งก็เอาไปตากแห้ง แล้วผสมในสบู่ ให้กากกาแฟเป็น Scrub

scrub

เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด  ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่

คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู

มีแต่คนกลัวติดกาแฟ  นิกกินทุกวันยังไม่เห็นจะติดเลย

ไม่ว่าวันนี้มันจะดี....หรือร้าย  จงระลึกไว้เสมอว่า  "แล้วมันจะผ่านไป"...

แสดงว่ากาแฟติดนิก อิอิอิอิอ

"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"

หน้า