ทำงานล้มเหลว
เป็นกำลังใจแก่ชาวบ้านสวนทุกท่าน
งานล้มเหลว ไม่ได้แปลว่า ตัวคุณล้มเหลว
งานเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดของคุณ
อย่าให้ความล้มเหลวของงานมาบั่นทอนคุณค่าของตัวคุณ หรือความเคารพตนเอง
เพราะคุณยังมีอีกหลายด้านหลายฐานะ ที่คุณอาจทำได้ดี เช่น
เป็นลูกที่ดี เป็นพ่อแม่ที่ดี เป็นเพื่อนที่ดี หรือเป็นคนดี เหล่านี้ล้วนมีค่าที่ควรแก่ความภาคภูมิใจ
* * *
อย่ามองความล้มเหลวว่าเป็นเรื่องไม่ดีไปเสียหมด ลองมองหาส่วนดีหรือประโยชน์จากความล้มเหลว
อย่างหนึ่งที่คุณน่าจะได้คือ ความรู้ว่าอะไรไม่ควรทำ อะไรที่ควรหลีกเลี่ยง
ความ รู้หรือบทเรียนดังกล่าว ไม่ควรปล่อยทิ้งไปเปล่าๆ แต่ควรเอามาใช้ประโยชน์สำหรับการงานในปัจจุบันและอนาคต อย่างน้อยก็ช่วยหลีกเลี่ยงความผิดพลาดซ้ำรอยเดิมได้
* * *
ใช่หรือไม่ว่าคนเราเรียนรู้จากความล้มเหลว ได้มากกว่า ความสำเร็จ
เด็กเล็กเดินเป็นได้ ก็เพราะผ่านการล้มนับครั้งไม่ถ้วน
การล้มแต่ละครั้งเพิ่มพูนประสบการณ์ให้แก่เด็กจนเดินได้คล่องแคล่วในที่สุด
ความล้มเหลวที่ไม่ช่วยให้เราฉลาดขึ้น หรือเข้มแข็งขึ้นแม้เล็กน้อย ถือว่า “ขาดทุน”
* * *
ควรมองความล้มเหลวว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่มีใครที่ประสบความสำเร็จไปทุกเรื่องและทุกครั้ง
เช่นเดียวกับนักกีฬาที่ต้องผ่านทั้งชัยชนะและความพ่ายแพ้
ดังนั้นจึงอย่ากลัวความล้มเหลว และอย่าให้ความล้มเหลวที่รออยู่ข้างหน้า มาทำให้คุณลังเลใจในการทำสิ่งที่ดีงามหรือถูกต้อง
ทั้งๆ ที่รู้ว่าล้มเหลวแน่ แต่หากเป็นสิ่งถูกต้อง ชอบธรรม ก็สมควรทำ เพราะถึงอย่างไรยังดีกว่าชัยชนะจากการทำสิ่งเลวร้าย
* * *
ประการ สุดท้ายที่พึงตระหนักก็คือ ความสำเร็จและความล้มเหลวนั้น ไม่อยู่ในอำนาจของคุณหรือของใครคนใดคนหนึ่ง จึงไม่อาจควบคุมให้เป็นไปตามใจคุณได้ หากขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยมากมายที่อยู่นอกตัวคุณ
บางครั้งแม้คุณจะทำดีที่สุด แต่เหตุปัจจัยอื่นๆ ไม่อำนวย ก็ล้มเหลวได้
ดังนั้นจึงไม่ควรเป็นทุกข์ หรือโทษตัวเองเมื่อประสบความล้มเหลว
จะ ให้ดี หากรู้เช่นนี้แล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามก็ควรปล่อยละวางจากความคาดหวังในเรื่องความสำเร็จ และพร้อมทำใจยอมรับความล้มเหลว เมื่อวางใจได้เช่นนี้แล้ว ความล้มเหลวก็ไม่อาจทำอะไรคุณได้
- - - - - - -
คัดลอกจากหนังสือ “ฉลาดทำใจ”
โดย พระไพศาล วิสาโล
- บล็อกของ พุทธบุตร
- อ่าน 4093 ครั้ง
ความเห็น
แก้ว กุ๊ก กิ๊ก
24 กรกฎาคม, 2010 - 13:29
Permalink
ขอบคุณค่ะ
ช่วยเป็นกำลังใจมากค่ะ
tooktun55
24 กรกฎาคม, 2010 - 13:33
Permalink
น่าเก็บไปคิด
ขอบคุณค่ะ ต่อแต่นี้ไปจะพยามตั้งรับกับความล้มเหลว
You may be only a person to the world, but you might be the world for one person"
chutinan
24 กรกฎาคม, 2010 - 13:57
Permalink
ขอบคุณมากค่ะ..
เป็นกำลังใจได้เป็นอย่าดีเลยค่ะ
ดวงหทัย
24 กรกฎาคม, 2010 - 15:06
Permalink
ขอบคุณมากค่ะ
กำลังเจอเรื่องแย่ๆ ได้อ่านแล้วสบายใจขึ้น
จันทร์เจ้า
24 กรกฎาคม, 2010 - 15:17
Permalink
ขอบคุณนะ
ที่นำเรื่องราวดีๆมาให้อ่าน ขอบคุณค่ะ![Smile Smile](http://www.bansuanporpeang.com/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-smile.gif)
พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า
นนท์
24 กรกฎาคม, 2010 - 16:02
Permalink
ขอบคุณนะครับ
ขอบคุณนะคับ ที่ชี้นำแนวทาง ในการเข้าใจการใช้ชีวิตมากขึ้น
และนำเรื่องดีๆ มากฝากหวังว่า สมช.ชาวบ้านสวนฯ จะได้อ่านกันอีกนะคับ
เพราะ ถึงอย่างไรยังดีกว่าชัยชนะจากการทำสิ่งเลวร้าย
และความสุข ว่ามั๊ยคับ
NONT..
ตั้ม
24 กรกฎาคม, 2010 - 19:41
Permalink
เมื่อเช้า..เพิ่งฟังเพลงเก็บตะวัน
ระหว่างขับรถไปทำงานตอนเช้า..ได้ฟังเพลงเก็บตะวันของอิทธิ พลางกูล ทำให้คิดถึงใครหลายคนในบ้านสวน..
...ธรรมดาเวลาฟ้าครึ้ม เมฆหม่น พายุฝน อยู่บนฟากฟ้า
คงไม่นานตะวัน สาดแสงแรงกล้า ส่งให้ฟ้า งดงาม
...หากตะวัน ยังเคียงคู่ฟ้า จะมัวมา สิ้นหวังทำไม
เมื่อยังมีพรุ่งนี้ ให้เดินเริ่มใหม่ มั่นคงไว้ ดังเช่นตะวัน ..
ตอนบ่าย..เด็กคนหนึ่งนำหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งมาให้อ่าน..เป็นบทสัมภาษณ์ของคุณพ่อและคุณแม่ของเค้า..ที่เคยทำร้านถ่ายรูปรุ่นล้างอัดฟิล์ม พอเปลี่ยนมาเป็นยุคดิจิตอล..เลยปิดฉากเพราะไม่มั่นใจในการลงทุนที่เทคโนโลยี่พัฒนาอย่างรวดเร็ว..เมื่อปรับตัวไม่ได้จึงมีแต่เหี่ยวเฉาไปกับกาลเวลา..จนแทบจะไม่มีที่ยืนในสังคม..ข่าวคราวเงียบหายไปเนิ่นนาน..แม้เราก็ไม่กล้าที่เอ่ยถาม..แต่เห็นภาพข่าววันนี้แล้ว..ทำให้คิดถึงใครหลายคนในบ้านสวนอีกเช่นกัน..ความสำเร็จกับการปรับเปลี่ยนทางเดินใหม่ .. ในตำแหน่งผู้อำนวยการของบริษัทประกันวินาศภัยแห่งหนึ่ง มีลูกน้องและเครือข่ายร่วมพันคน .. กวาดรางวัลเกียรติยศมามากมาย...เงยหน้าไม่อายฟ้า..ก้มหน้าไม่อายดิน..ทั้งๆที่ดูแล้ว..ไม่น่าจะเป็นไปได้เลย...คำตอบที่คาดเดาแม้ไม่ต้องถามก็รู้ว่า...เป็นเพราะเค้าสู้..และไม่ยอมอยู่ใต้ลิขิตฟ้า...อืม..เป้นความลงตัวกับเพลงที่ฟังเมื่อเช้านี้..
เย็นนี้..เข้ามาออนในบ้านสวน..ได้รับรู้ถึงบทความนี้อีกครั้ง..ทำให้คิดถึงใครหลายคนในบ้านสวนอีกเป็นครั้งที่สาม..มันเหมือนการตอกย้ำความเชื่อ..."หากตะวัน ยังเคียงคู่ฟ้า จะมัวมา สิ้นหวังทำไม เมื่อยังมีพรุ่งนี้ ให้เดินเริ่มใหม่ มั่นคงไว้ ดังเช่นตะวัน" ..
คืนนี้...เราจะฝันถึงใครบางคนในบ้านสวนอีกมั๊ยหนา....
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
ไม้หอม
25 กรกฎาคม, 2010 - 07:41
Permalink
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ คุณพุทธบุตร
ได้อ่านแล้วแรงขับในกายออกมาเยอะเลยครับ
วิหคน้อยบินไกล เฝ้ารอวันกลับคืนถิ่น