วันนี้ฟ้าฝนน่ากลัวมาก

ผมเห็นมีครับกล้วยแปลกๆ อยู่ทางเข้าด้านถ.กำแพงเพชรเข้ามาแล้วอยู่ซ้ายมือ ตรงลานกางเต๊น กลวย้อย่างเดียวร้านนี้แปลกๆด้วย ลองดูครับ

ว่าวจะถามๆ เหมือนกัน คับ เดี๋ยวเสาร์นี้ไปอีกจะลองถามๆ ดูอีกทีคับ ( ร้านใหนหว่า  )

ผมเจอข้อมูลในเว็บ http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=17813.0 เขาประกาศขายคับ

- ขาย โพลิเม่อร์ เป็น สารอุ้มน้ำ เก็บน้ำ ถ้าแบบที่เห็นทั่วไปเขาเรียกกันว่าดินวิทยาศาสตร์ ที่เขาทำเป็นสีๆ ปลูกพวกพลูด่างในขวดในแก้วนั้นแหละครับ.....  แต่การใช้ประโยนช์กันจริงจังๆ ก็คือเอารองก้นหลุมพวกต้นไม้ที่เราปลูก เพื่อเป็นตัวเก็บสำรองน้ำให้ต้นไม้นำไปใช้ในขณะที่ฝนไม่ตกติดต่อกันหลายๆ วัน  ต้นไม้ปลูกใหม่ๆ ของเราก็ไม่ตาย เพราะมีน้ำตัวนี้สำรองอยู่ครับ....เมื่อก่อนผมใช้กับต้นสัก ตอนนี้ใช้กับทุกอย่าง เช่นไผ่ กล้วย ยางพารา ฯลฯ เลยครับเพราะฝนปีนี้มาช้ามาก และก็มาทีหนึ่งหยุดเป็น 1-2 อาทิตย์

--วิธี การใช้--
แบบที่ 1. เอาโพลิเมอร์แบบแห้ง(รูปที่ 1) แช่น้ำเป็นน้ำสะอาดจะดีมากครับ น้ำประปา น้ำลำห้วย น้ำบ่อได้หมดครับ  โพลิเมอร์แบบแห้ง แช่น้ำ 200-300 ลิตร แช่ข้ามคือดีที่สุดแล้วมันจะพองตัว(ดูรูปที่ 2 ครับ)  พอเราขุดหลุมปลูกเสร็จแล้วเราก็เอาโพลิเมอร์ใส่ เอาปุ๋ยเคมี + ปุ๋ยคอก ใส่ลงไปแล้วปลูกต้นไม้ได้เลยครับ .....ใส่อย่างน้อย 1 ลิตร(เปียก) แต่สำหรับผมปลูกยาพาราปีนี้ผมใส่ 5-7 ลิตรเลยครับ(กลัวยางฯตายกล้าหายากครับ)

แบบที่ 2. พอเราขุดหลุมเสร็จ เอาโพลิเมอร์แบบแห้ง(รูปที่ 1) ใส่หลุมอย่างน้อย 5 กรัม (ช้อนชาหรือช้อนกินยาของเด็ก) แต่ผมใส่ 25 กรัมครับ อันนี้มันแบกไปใส่บนที่สูงๆไม่ไหวครับ เลยใช้แบบแห้ง(รูปที่ 1 )น้ำหนักมันน้อยดีครับ ผมเคยใช้แบบนี้กับต้นสักแล้วก็ได้ผลดีเหมือนๆกันครับ แล้วจะใส่ปุ๋ยรองก้นหลุมอะไรก็แล้วแต่ท่านนะครับ  แล้วรอให้ฝนตกสัก 1 - 2 ห่า โพลิเมอร์แบบแห้งที่เราใส่ลงไปก็จะพองตัวดูเอาน้ำฝนและปุ๋ยไปอยู่ในตัวมัน เองแล้วครับ......แล้วจึงปลูกต้นไม้ในหลุมนั้นๆครับ

แบบที่ 3. ถ้าปลูกต้นไม้ไปแล้ว กล้วจะไม่รอดแล้งหน้าที่จะถึงนี้ หรือกล้วเจอฝนทิ้งช่วง ก็ขุดหลุมตรงชายขอบทรงพุมของต้นไม้นั้น แล้วจะเอาโพลิเม่อร์แบบแห้งหรือแบบเปียกไปใส่ก็แล้วแต่ท่านครับ แบบนี้ผมทำกับต้นยางพารา อายุ 5 ปีของผมครับ....

เมื่อต้นไม้ดูดน้ำ ในโพลิเมอร์จนแห้งหมดแล้ว ถ้าฝนตกมาอีก หรือท่านรดน้ำมันก็จะฟองตัวดูดน้ำได้อีกครับ กว่าจะย่อยสลายก็ใช้เวลาไปมาณ 2-3ปีครับ แต่บ้างข้อมูลบอกว่าถึง 5-7 ปีครับ ของผมได้ประมาณ 2-3ปีครับเพราะผมใช้ EM บ่อยหรือเปล่าก็ไม่รู้ครับ....เลยสลายเร็ว
โพลิ เม่อร์ตัวนี้ทำมาจากพวกคาร์โบไฮเดตรหรือแป้งครับ คนงานผมเคยก็ไป หนึ่งช้อนชาแกบอกว่าตอนเย็นอิ่มไม่ต้องกินข้าวเย็นเลยครับ ....(แต่ผมไม่แนะนำให้กินนะครับ)

ราคา ขาย กิโลกรัมละ 350 บาท ค่าส่งธรรมดา กิโลแรก 40 บาท กิโลต่อๆไปค่าส่งกิโลละ 20 บาท... สินค้าของ usa ครับ

โอนเงินมาที่  นายรัฐ  เจริญสวัสดิ์ ( MR. RAT   CHAROENSAWAT )
บัญชีออมทรัพย์  ธนาคารกรุงเทพจำกัด สาขาน่าน
337-0-87238-8

ข้อมูลคนขายคับลุงพูน ถ้ายังไงลองโทรไปถามเขาอีกทีว่ายังมีอยู่เปล่าครับ