ดูงิ้ว ดูอะไร ได้อะไร

ดูงิ้ว ดูอะไร ได้อะไร

ว้าก แฉ่ง...แฉ่ง...แฉ่ง...

อุปรากรจีน...งิ้ว... ตัวละครที่กำลังอยู่บนเวที ร่ายรำด้วยลีลาสวยงาม ภาษาเพลงและภาษาที่พูดเป็นภาษางิ้วแต้จิ๋ว  และเสียงเครื่องดนตรีประกอบ  พอจะฟ้งได้เรื่องบ้าง  เคยได้ดูแต่งิ้วธรรมศาสตร์สมัยสามสิบกว่าปีก่อนที่เป็นน้องใหม่มหา’ลัย  ที่รุ่นพี่สู้หางิ้วต่างสถาบันมาให้ชมกัน นั่นเป็นการรู้จักงิ้วจริงจังครั้งแรกเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน จากวันนั้นถึงวันนี้ ใครพูดเรื่องงิ้วเป็นคิดถึงงิ้วธรรมศาสตร์ทุกที ทั้งที่ก็ใช่ว่าดูบ่อย

ได้ซีดีงิ้วมาดูชมและทำดอกไม้เตรียมไหว้พระจันทร์ไปด้วย

สร้างบรรยากาศจีนๆในบ้านได้อย่างน่าอัศจรรย์ แถมรายการทีวีมีโฆษณาขายงิ้วแผ่นเป็นชุด  ตัวงิ้วสมัยก่อนก็มีตั่งชอหุยที่โด่งดัง สมัยนั้นเกิดทันแต่ยังไม่รู้เรื่องหรอกเพราะไม่อยู่ในข่ายสนใจ  ใครพูดเรื่องตั่งชอหุยก็ฟังไว้ ทุกวันนี้เวลาใครพูดถึงงิ้ว นอกจากคิดถึงงิ้วธรรมศาสตร์แล้วก็ยังคิดถึงตัวแสดงงิ้วที่ชื่อตั่งขอหุย  ถ้าได้คุยกับผู้สูงอายุชาวจีนสักเจ็ดแปดสิบขึ้นไปแล้วได้เอ่ยชื่อนี้ นัยว่าท่านผู้เฒ่าจะปลื้มมากเวลาคุยเรื่องราวในอดีตอย่างนี้

ดนตรีที่บรรเลงกับตัวงิ้ว จะมีเสียงดังรับสอดร้อยกับเสียงผู้แสดงงิ้วร้องเป็นเพลงสลับกับพูด ดาราแสดงที่ร้องด้วยต้องมีปอดใหญ่มาก ที่แน่นอนไข้หวัด 2009 คงไม่อาจหาญที่จะแผ้วพาลดารางิ้วเหล่านี้(จากการที่มีปอดใหญ่และแข็งแรง)

เคยเรียนรู้เรื่องฝึกบริหารการหายใจ  และการบริหารปอดให้แข็งแรง... จำได้ครูสอนว่าต้องรู้จักหายใจให้เป็นและหาวิธีการให้ปอดแข็งแรง

แบ่งปอดเสมือนเป็นกระสอบหนึ่งใบ  แบ่งให้ได้เป็นสามส่วน

...ส่วนล่างเป็นก้นกระสอบนับสาม

...ส่วนกลางกระสอบหรือกลางปอดนับสอง 

และ...ส่วนยอดกระสอบหรือยอดปอดให้นับหนึ่ง 

เมื่อแบ่งสามส่วนแล้ว...เริ่มหายใจเข้าสามจังหวะ(โดยยังไม่ต้องหายใจออก)

 เริ่มนับสามให้ลมหายใจเข้าชายปอดเสมือนหนึ่งเอาของลงก้นกระสอบ 

อย่าเพิ่งหายใจออก นับสองหายใจเข้าไปอีกให้ลมหายใจเข้าปอดเสมือนเข้าไปกลางกระสอบ

แล้วนับหนึ่งพร้อมหายใจเข้าให้ลมหายใจบรรจุเด็มปอดถึงยอดปอด อย่าเพิ่งหายใจออก ให้ เก็บลมหายใจไว้ห้าวินาที วิธีง่ายๆให้นับในใจให้ได้ถึงห้าโดยนับช้าๆ ...หนึ่ง...สอง...สาม...สี่...ห้า  จากนั้นหายใจออก  โดยเอาลมหายใจออกจากยอดปอดก่อน  นับหนึ่ง  ลมหายใจออกจากกลางปอด นับสอง  และออกจากชายปอดนับสาม  ครบหนึ่งรอบของการหายใจ 

ความว่าชาวต่างชาติทางประเทศซีโลกตะวันตกมีการนำเอาหลักการนี้ไปผลิตเป็นอุปกรณ์บริหารลมหายใจเพื่อลดความดันโลหิดสูง  โดยอุปกรณ์นี้จะติดไว้ที่หน้าท้องแล้วมีหูฟังสวมไว้เวลาหายใจเข้าออกจะมีดนตรีประกอบและมีมาตรวัดปรากฏไว้เพื่อแสดงตัวเลขว่าหนึ่งนาทีสามารถควบคุมการหายใจด้วยตนเองได้กี่รอบ หากฝึกหายใจให้หนึ่งนาทีได้ไม่เกิประมาณสิบรอบหรือน้อยกว่า  ทำอย่างนี้ วันละสองครั้ง เช้าสิบนาที เย็นอีกสิบนาที  ต่อเนื่องเป็นเวลาสองสัปดาห์สม่ำเสมอจะช่วยให้ความดันโลหิตที่สูงสามารถลดลงมาได้  โดยไม่ต้องใช้ยา  เป็นทางเลือกให้กับผู้นิยมการไม่ใช้ยาในการรักษาโรค

จะได้ผลจริงเท็จอย่างไร ต้องลองดูเอง  แต่โดยความเห็นแล้ว ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงต้องกินยาเป็นประจำ  อาจเริ่มต้นได้โดยยังไม่ต้องทิ้งยาทันทีแล้วเอาแต่การหายใจตามที่ว่า ทว่าอาจทำควบคุมกันไป  ที่จริงการที่คนเราหายใจช้าลงก็มีผลกับการปรับสมดุลย์ร่างกายให้เข้าสู่ภาวะปกติ   ลองสังเกตเวลาที่คนตื่นเต้นหรือโกรธ  ลมหายใจจะถี่  เวลาเข้าห้องสอบ  กรรมการบางท่านที่สังเกตว่าผู้เข้าสอบเริ่มมีอาการมือไม้สั่น   กรรมการก็จะแนะนำให้หายใจเข้าออกยาวๆลึกๆ

ครูเสริมว่าต้องรู้ที่จะเปล่งเสียงสลับด้วยในการบริหารปอดให้แข็งแรง  โดยเพิ่มอีกวิธีหนึ่ง คือ เมื่อหายใจเข้าเก็บลมหายใจไว้ อย่าเพิ่งหายใจออก เมื่อเก็บลมหายใจไว้นับถึงห้าแล้วให้ใช้กระบังลมหายใจกระแทกเอาลมหายใจที่มีทั้งหมดในปอด ผ่านออกมาทางปากอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งให้มีเสียงเปล่งออกมาดังๆรวดเดียวในหนึ่งรอบการหายใจ   ทำซ้ำๆอย่างนี้จะเป็นการกระตุ้นให้ปอดมีการขับเสมหะและเยื่อเมือกและสิ่งสกปรกต่างๆออกมา  วิธีน่าสนใจเสริมอีกวิธีหนึ่งคือการให้เสียงเป็นตัวสั่นสะเทือนอวัยวะในร่างกายให้แข็งแรง  เสียงที่ออกมาได้แก่ เสียง  อา อู อี เอ โอ โอม  เป็นการเปล่งเสียงดังสุดๆยาวๆช้าๆในจังหวะการหายใจออก น่าจะเหมาะสำหรับเวลาอยู่ที่โล่งกว้าง ในสวน ไร่ นา(คอยหลบให้ดีเผื่อว่ามีปฏิกิริยาผิดปกติจากสิ่งมีชีวิตรอบตัวที่ได้ยินเสียง)

เคยได้ยินผู้รู้บางท่านกล่าวถึงจักระในช่องท้อง ขณะเดียวกันทางตะวันตกมีการพูดถึงเรื่องโซล่าร์เพล็กซัส ทางจีน พูดถึงจุดตันเถียน การแพทย์ไทยก็มีการเปิดประตูลมในช่องท้อง ส่วนทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ก็กล่าวถึงตำแหน่งบริเวณเดียวกันนี้มีหลอดเลือดแดง-ดำใหญ่ที่ส่งเลือดไปเลี้ยงและรับเลือดกลับจากร่างกายส่วนล่างสู่หัวใจด้วย   ดังนั้นการบริหารปอดโดยมีการเปล่งเสียงร่วมด้วยน่าจะมีผลดีต่อ จักระในช่องท้อง  โซลาร์เพล็กซัส จุดตันเถียน ประตูลมและระบบบหลอดเลือดของร่างกายนี้แน่นอน

...กลับมาที่ดารางิ้วอีกครั้ง  เวลาร้องงิ้ว จะเปล่งเสียงดัง  มีท่าร่ายรำด้วยอิริยาบถงดงามหลากหลาย  ดูแล้วเห็นความเป็นไปได้  ของการแสดงงิ้วที่ผู้แสดงเองได้มีการใช้เสียง  อิริยาบถต่างๆ รวมไปถึงท่าร่ายรำ และกระบวนเพลงดาบเมื่อมีการสู้รบกัน   โอ้โฮ  ...สุดยอดจริงๆ    ดูซีดีงิ้วรอบนี้  ได้หลายอย่าง  ผู้ชมก็บันเทิงใจกับเรื่องราวที่เป็นตำนานด้วย

ส่วนตัวเองได้ประโยชน์ ตาดู หูฟ้ง

 มือร้อยดอกไม้(เป็นผู้ช่วย) 

เตรียมไว้ไหว้พระจันทร์(อย่างง่ายๆ)

ที่สำคัญ ได้คิดถึงอากาศดีๆจากต้นไม้ที่ปลูก

ได้ผลไว้กิน

 เมื่อมีมากก็แบ่งให้กับโลกนี้ต่อไป....

เป็นตำนานให้ลูกหลานได้...เล่าขานกัน...