อ.ชาลี ศิลปรัศมี
เราเชิญท่านไปในฐานะ “ครู” ที่อยู่ใกล้บ้านคนหนึ่ง แน่นนอนคนหนึ่งที่ว่านี้คือคนที่เข้าใกล้ “ซีไรต์” อันเป็นรางวัลสูงส่งของ “วรรณกรรมยอดเยี่ยม”ในแต่ละปี เราย่อมได้อะไรที่มากมาย จากการนั่งล้อมวงถ่ายทอดกันอย่างใกล้ชิด จนแทบจะเรียกได้ว่าเป็น “ตัวต่อตัว แบบผ้าขาม้าคาดพุง”
กับหัวข้อที่ยิ่งใหญ่ หากแต่ไม่ร้าวใจ คลับคล้ายกับรายการ”ธรรมะ” อะไรประมาณนั้น
“ภาษาไทยเพื่อการเรียนรู้และสื่อสาร”ต่อพวงกับ “ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นตนเอง”
“เธอสื่อสารกันอย่างไร และรูปแบบใดบ้าง”
คำถามจาก ”ครู” เป็นเบื้องต้น ก่อนจะมาเป็นเรื่องเป็นราวเกี่ยวกับ อักขระวิธี วจีวิพากย์ วากยสัมพันธ์ และฉันทลักษณ์ พร้อมคำอธิบายจากปากคำของครูประกอบสลับกับการให้พวกเรา ได้คิด ได้ตอบ กันอย่างครื้นเครงบรรเลงใจ แต่นั่นแหละ นั่นมันแค่น้ำจิ่มจานต้น ความสุขของคนเรามักมีช่วงเวลาอันสั้นเสมอ “เธอรู้อะไรเกี่ยวกับประวัติ หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัดของเธอบ้าง”
“ถ้าเธอไม่รู้ว่าเธอกำลังยืนอยู่บนอะไร แล้วเธอยังจะคิดแบกอะไรอีกหรือ” คมกริบในฐานะนักเขียน ก่อให้เกิดการขุดคุ้ยในความคิดตามแบบฉบับฐานะนักประวัติศาสตร์ ใช่..รากฐานที่สำคัญคือการที่เรารู้ว่าเราเป็นใครมาจากไหน หรืออย่างน้อยๆก็รู้ตัวเองได้ว่าเป็นมาอย่างไร ก่อนที่จะเรียนรู้อะไรต่างๆมากมายบนโลกและจักรวาลใบนี้ ตอนนั้นหละ พวกเราถึงได้เงียบกริบดั่งถูกมนต์สะกด เสียงหัวเราะที่ครื้นเครงมาพักใหญ่ บัดนี้เริ่มลดระดับลงมาเป็นแค่เสียงครวนคราง โดยมีเหงื่อเม็ดน้อยเม็ดใหญ่ค่อยๆทยอยเติบโต ออกมาภายในร่มเสื้ออย่างไม่เกรงอกเกรงใจเสียงคำรามของช่องลมแอร์
“ชา” ไปทั่วหน้าลงลึกไปถึงก้นบึ้งหัวใจของเพื่อนพ้องน้องพี่ เกือบยี่สิบกว่าคนรวมทั้งผม หลบหน้าหลบตากับคำถามเหมือนเพิ่งถูกบอกรัก หากแต่คราวนี้ต่างกัน ปวดแปล็บไปถึงขั้วจิตสำนึก เหมือนถูกใครสักคนบอกเลิก โดยพาคนรักใหม่มาหยันเย้ยกันถึงที่ด้วย ก็มิปาน
ใช่...เราไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับตัวเอง ประวัติศาสตร์ของพื้นที่อันเป็นที่ ที่เราอยู่ เราประกอบอาชีพ และอาจจะเป็นที่สุดท้ายสำหรับวางร่าง เราเดินทางไปดูงานต่างประเทศ ต่างจังหวัดที่ลักษณะทางกายภาพ ก็ล้วนแล้วแต่แตกต่างจากที่เราอยู่ เรามี และเราเป็น แต่สิ่งที่เราเห็น เราใช้ชีวิตประจำวัน เราแทบไม่รู้เรื่องอะไรเลย เคยได้ยินมาว่าคณะที่ไปดูงานคณะหนึ่ง หลังจากที่เจ้าของพื้นที่กล่าวแนะนำตอนรับเล่าความเป็นมาของจังหวัดเสร็จแล้ว เขาก็ให้เกียรติเชิญเราในฐานะผู้มาดูงานขึ้นมาเล่าประวิติศาสตร์ของเราบ้าง....แล้วความดูไม่จืดก็ตามมาในห้วงเวลาแห่งนั้น
การเรียนรู้เรื่องภายนอกเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่ขณะเดียวกันการรู้จักรากเหง้าของตัวเองไปด้วยก็จะเป็นการดีกว่าไม่ใช่หรือ เราเรียนรู้แค่เพื่อที่จะทำข้อสอบตอบคำถามตามตำรา บางครั้งหนังสือตำราเรียนมันผิดจากข้อเท็จจริงในพื้นที่จริง แต่ครูที่รู้อยู่เต็มอกว่าผิดก็ต้องสอนไปตามตำราจนกว่าจะมีการตรวจทานแก้ไข เพราะเวลาข้อสอบออกมาผู้เรียนก็ต้องตอบตามตำราถึงจะได้คะแนน
เรื่องราวต่างๆจากคำบอกเล่าของครู ผ่านหู ผ่านหน้า ผ่านตาพวกเราเป็นชุดๆ สลับกับเสียงหัวเราะดุๆ ต่อว่าอย่างเป็นกันเองเกือบห้าชั่วโมง จากเช้าจรดเย็น เป็นความชาที่เราต้องจำจนมุมรองรับ รับไว้และเตรียมหาข้อมูลของพื้นที่มาชโลมผิวความชาที่บาดเจ็บ
“ปล๋อเชียวนะ หลักศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง แล้วความเป็นมาของหลักศิลาจารึกหลักที่ ๒๓ อยู่ที่ไหนอย่างไรบ้าง”
ฮากันตรึมอีกครั้ง หลังจากที่ครูถามว่าใครรู้จัก หลักศิลาจารึกบ้าง และมีเพื่อนเราบ้างคนลุกขึ้นอธิบายได้อย่างเป็นตุเป็นตะ เป็นความฮาที่ชากันไปทั่วแผ่นและทั่วหน้าทุกตัวตน
“อ้าว..ของฝาก เสาร์หน้า...ครูจะถามว่าประวัติอำเภอของเธอแต่ละคนมีความเป็นมาอย่างไรบ้าง”ทิ้งไกด์ไลน์ก่อนจะจบกันไป
ของฝาก เหมือนเป็นการบอกให้เรามาเตรียมตัวมาให้พร้อมเพื่อที่จะได้หลบมัดได้ทันบ้างในครั้งต่อไป ก่อนจากกันเราได้บอกกับ “ครู” ว่า
“พวกเราโขคดีมากที่สุดก็ตรงที่อย่างน้อยๆพวกเราก็รู้ว่าในพื้นที่ ที่เราอยู่นี้ เรามี “อัจฉริยะบุคลล”อยู่ใกล้ๆแค่ห้วงลมหายใจ และเรียนรู้กันแบบภาษาใต้ ที่เข้าใจง่าย ชัดเจน ตรงเผง....”
“เมื่อรู้ว่ามี เมื่อรู้ว่าใกล้ ก็ควรรู้ด้วยว่าจะใช้ประโยขน์จากสิ่งที่มี สิ่งที่อยู่ใกล้นั่น ให้เป็นประโยชน์อย่างไร” ครูบอก
“ชา” กันอีกดอกนึงก่อนครูจะไป
ผู้ที่สนใจรบกวนตาม อ.ชาลี ศิลปรัศมี ตามรหัสนี้นะครับ...ผมทำลิงค์ไม่เป็น ขอโทษด้วยครับ
blog.eduzones.com/tambralinga/1823
brainbank.nesdb.go.th/นายชาลศลปรศม/tabid/235/Default.aspx
................................................
ตอนนี้กระผมคงต้องขอตัวไปค้นหา ประวัติศาสตร์อำเภอทุ่งใหญ่ก่อนนะครับ วันหน้ามีโอกาสจะมาเล่าสู่กันอีก
“โอ้เจอแล้ว..วัดภูเขาหลักเจดีย์ศรีวิชัย สร้างมาตั้ง ๑๕๐๐ ปี แล้วหรือเนี้ยะ..”
“ตายๆเพิ่งรู้...วันนี้แฮะ”
- บล็อกของ มานี มานะ วีระ ชูใจ
- อ่าน 5958 ครั้ง
ความเห็น
ตองอู
19 กันยายน, 2010 - 14:10
Permalink
มานี มานะ วีระ ชูใจ
ของดีๆหรือคนดีๆที่อยู่ใกล้ตัว...เรามักมองไม่ค่อยเห็นหรอกค่ะ..^_^..
MSN/MAIL/HI5 : Tongau_oomsin[at]hotmail[dot]com
มานี มานะ วีระ ชูใจ
19 กันยายน, 2010 - 18:58
Permalink
ละเลย..
เราละเลยมากว่าครับ..เพราะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่สำคัญ
เช่น โรงเรียนประถมที่เราเคยเรียนมีความเป็นมาอย่างไร เกิดขึ้นเมื่อไร
ใครคือผู้สร้างโรงเรียน บางครั้งเรายังไม่รู้เลยครับว่า ผู้ใหญ่บ้านของเราชื่ออะไร
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
สายพิน
19 กันยายน, 2010 - 14:11
Permalink
มีหลายเรื่องราวใกล้ตัว...ในชีวิต ที่ยังไม่รู้
คุณมา...มีอีกหลายเรื่องราวใกล้ตัว...ในชีวิต ที่ยังไม่รู้
เห็นทีต้องเริ่มแสวงหาที่จะเรียนรู้เสียที ขอบคุณนะคะ
มานี มานะ วีระ ชูใจ
19 กันยายน, 2010 - 19:02
Permalink
ครับ..
ต้นตระกลูของเราเป็นใครมาจากไหนครับ...เรารู้ไหม
เผลอๆไปจีบกันที่กรุงเทพ พอกลับมาบ้านนับญาติกัน...
อ้าว...ปู่เขากับย่าเราพี่น้องกัน..
.เพราะเราไม่รู้ว่า นามสกุลนี้มันมาจากย่าเราที่แต่งงานเปลี่ยนนามสกุลมา
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
แก้ว กุ๊ก กิ๊ก
19 กันยายน, 2010 - 15:03
Permalink
2มา
เด๋วเรามาอ่านใหม่นะ วันนี้ทำไมไม่มีสมาธิ เวลาสติไม่นิ่งจะอ่านบล็อกนายไม่เข้าใจ..งั้นเด๋วมาเม้นนะ
มานี มานะ วีระ ชูใจ
19 กันยายน, 2010 - 19:13
Permalink
ทุกทีเลย...คุณแก้ว
ทำเป็นงง..ทุกทีเลย..
ผมแค่อยากให้คุณแก้วรู้จักกับบุคคลที่ผมได้เอ่ยนามนี้
แล้วคุณแก้วจะเข้าใจที่ผมพยายาม...สื่อผ่าน..ครับ
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
แก้ว กุ๊ก กิ๊ก
19 กันยายน, 2010 - 20:36
Permalink
ขอโทษทีนะ 2 มา
แบบว่าสมองเราซีกซ้ายกะซีกขวาใหญ่ไม่เท่ากัน ... เราเลยอ่านไม่ค่อยเป็นหนะ ..พยายามแล้วนะจ๊ะ สหายที่รัก..
ไม่เป็นไรหรอก อีกหน่อยเราคงอ่านเป็น..
tantawan-ตะวัน
19 กันยายน, 2010 - 15:19
Permalink
ง่วงนอน
อ่านไป อ่านไป เริ่มง่วงแล้วซิเรา
มานี มานะ วีระ ชูใจ
19 กันยายน, 2010 - 19:07
Permalink
นอนก่อนก้ได้ครับ...
เคยๆอ่านนะครับหากมีเวลาว่าง...
ผมทราบว่าเนื้อหาของผมอ่านยาก
ไม่ใช่ว่ามันมีคุณค่าทางวรรณศิลป์อะไรหรอกครับ..
หากแต่มันมั่ววววว...จนงงตาลายมากกว่า
ผมทราบดีคร้าาาาาา
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
ตองอู
19 กันยายน, 2010 - 19:11
Permalink
บทความของคุณ..^_^..
ไม่อยากบอกเลยว่า บล๊อคของพี่ทุกบล๊อคอ่านไม่ต่ำกว่า 2 รอบถึงจะเม้นได้...อิอิ..แสดงความโง่เขลาอีกแล้ว..^_^..
แต่อย่างที่คุณแก้วบอก..ต้องใช้สมาธิอ่าน...
MSN/MAIL/HI5 : Tongau_oomsin[at]hotmail[dot]com
หน้า