มาทำโยเกิร์ตกินกันเถอะ
โยเกิร์ต เป็นอาหารที่ดูดีมีชาติตระกูล เหมาะกับสาวรุ่นใหม่อย่างเราเป็นที่สุด แต่เบื้องหลังหน้าตาสวยใส โยเกิร์ตยังมีความลับที่คุณอาจยังไม่รู้
คนที่ท้องเสียเป็นเพราะมีเชื้อจุลินทรีย์อยู่ในลำไส้ แต่เชื้อจุลินทรีย์ในโยเกิร์ตเกิดมาเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียชนิดเลวทั้งหลาย การกินโยเกิร์ตจึงทำให้อาการท้องเสียของคุณทุเลาอย่างรวดเร็ว ทำให้ถ่ายน้อยลงหรือหยุดถ่าย
โยเกิร์ตมีไขมันชื่อคอนจูเกตเต็ดไลโนเลอิก ช่วยป้องกันโรคหัวใจ
โยเกิร์ตไขมันต่ำ 1 ถ้วย เป็นแหล่งรวมของสารอาหารถึง 11 ชนิด และแต่ละชนิดก็เป็นตัวแม่สำหรับร่างกายทั้งนั้น อย่างไอโอดีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินบี 2 โปรตีน วิตามินบี 12 ทริปโทฟาน โพแทสเซียม โมลิปเดนัม สังกะสี และวิตามินบี 5 คนที่กินโยเกิร์ตเป็นประจำถึงได้อายุยืนแถมแข็งแรง
ถึงแม้จะทำมาจากนม แต่โยเกิร์ตให้โปรตีนและแคลเซียมสูงกว่านมธรรมดา เพราะลำไส้ของเราย่อยนมไม่ได้ แต่สำหรับโยเกิร์ตกลับทำได้ชิลๆ เพราะในโยเกิร์ตมีกรดแลกติกที่จะช่วยย่อยแคลเซียมให้เล็กลง ทำให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้
จุลินทรีย์ทั่วไปอาจทำร้ายร่างกายแต่แลคโตบาสิลัสในโยเกิร์ตเป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ร่างกายต้องการ มันจะไปหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อ "เฮลิโคแบคเตอร์ เอชไพโลไร" ที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะ ลดการอักเสบของลำไส้และไขข้อ แถมยังทำตัวเป็นนักปราบปรามจุลินทรีย์ที่จะทำให้คุณเป็นมะเร็งปากมดลูก ช่วงที่มีรอบเดือนผู้หญิงจึงควรทานโยเกิร์ตเป็นประจำ
แคลเซียมสูงที่ได้จากโยเกิร์ตจะทำให้เป็นสาวกระดูกเหล็ก ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ความดันสูง มะเร็งลำไส้ และยังกระตุ้นระบบเผาผลาญทำให้คุณผอมเองโดยไม่ต้องเหนื่อย
ทำให้ปากสะอาด กำราบกลิ่นปากและโรคเหงือก
เพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย เพราะแบคทีเรียในโยเกิร์ตทำให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามินเคและบีในลำไส้ได้ดีขึ้น
การทาน โยเกิร์ต ที่ได้ผลที่สุดควรจะทานโยเกิร์ตรสธรรมชาติที่ไม่มีการแต่งกลิ่นแต่งรสเพิ่มน้ำตาลลงไป แต่ถ้าไม่ชอบความเปรี้ยวของมัน จะเอาไปทานแทนมายองเนสหรือปั่นรวมกับผลไม้ให้เป็นน้ำผลไม้อร่อยๆ ก็เป็นไอเดียที่ดี
ขอบคุณที่มาบทความจาก women.thaiza.com
วิธีการทำโยเกิร์ต
อุปกรณ์
๑. นมสด ( จากเต้า หรือ พาสเจอร์ไลท์ ) ๑ ลิตร
๒. โยเกิร์ต รสธรรมชาติ ๑/๒ แก้ว
๓. แก้ว ,ถ้วย (สำหรับใส่โยเกิร์ต) ๖ ใบ
๔. กล่องพลาสติก มีฝาปิด (ใส่ แก้,ถ้วย ในข้อ๓ ได้ทั้งหมด ๖ ใบ) ๑ อัน
วิธีทำ
๑. นำนมสด (ข้อ ๑)ใส่หม้อต้ม ให้เดือด ( ระวัง อย่าให้ล้น ต้องคนๆ ตลอดอย่าให้ติดก้นหม้อ )
๒. ทิ้งไว้ให้อุณหภูมิ ประมาณ ๓๕-๔๐ องศา โดยนำมาหยดลงหลังมือ ถ้าอุ่นๆ ก็ใช้ได้ ให้นำโยเกิร์ต ครึ่งถ้วย (ข้อ ๒) เทใส่ แล้วคนๆ ให้เข้ากัน
๓. ตั้งน้ำร้อนให้เดือด เพื่อใช้ลวกภาชนะที่เตรียมไว้ (ข้อ ๓) รวมทั้ง ต้องลวก กล่องพลาสติก และ ฝาปิด (ข้อ ๔) ใช้เวลาลวกประมาณ ๓ วินาที แล้ว นำไปเรียงในกล่องพลาสติก
๔. นำนมที่กำลังอุ่นๆ เทใส่ในภาชนะที่ลวกแล้ว ในกล่องพลาสติก ปิดฝา นำไปวางไว้ในห้อง อุณหภูมิปรกติ (ห้ามเปิดดู หรือ ขยับ) ถ้าอากาศร้อน ๖ ชั่วโมง , อากาศแบบฝนตก ๑ คืน ก็จะกลายเป็นโยเกิร์ต ( เปิดฝาดู แต่ละถ้วย หน้าจะเป็นเหมือนเต้าหู้นิ่ม เรียบๆ แสดงว่าใช้ได้แล้ว นำเข้าตู้เย็น เก็บไว้ประทานได้หลายวัน )
การทำน้ำสลัดโยเกิร์ต
โยเกิร์ตที่ได้ จะหอม มันไม่หวาน สามารถนำไปทำเป็นน้ำสลัดได้ โดย ใส่น้ำมะนาว เกลือ และ นมข้นหวาน คนให้เข้ากัน ชิมรสชาติตามชอบ หรือจะเพิ่ม สีสรร โดย ใส่ซอสพริก หรือ ซอสมะเขือ หรือ งาดำ ฯลฯ ลงไปก็ได้ ใช้ผักสดจิ้ม รับประทานได้อร่อยมากๆ
โยเกิร์ตระงับกลิ่นปาก
กลิ่น ปาก ใช่ว่าเรื่องเล็ก ต่อให้รูปสวย รวยทรัพย์ แต่ปากเหม็น :S เสน่ห์ทุกอย่างก็หมดกัน
คุณ เคนอิชิ โฮโจ และทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยสึรูมิ ในเมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น ได้ทำการวิจัยและพบ ว่า แบคทีเรียที่อยู่ในโยเกิร์ต โดยเฉพาะแบคทีเรียชนิด Streptococcus thermophilus และ Lactobacillus bulgaricus อาจมีผลต่อแบคทีเรียที่ เป็นเหตุให้เกิดกลิ่นเหม็นในปาก ของคนเราได้
โดยจากการ ทดลองพบว่า การกินโยเกิร์ตเป็นประจำทุกวัน วันละ 6 ออนซ์ (ประมาณ 1 ถ้วย) จะช่วยลดปริมาณสารที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นในปาก อย่างเช่น ไฮโดรเจนซัลไฟด์
นอกจากนี้ ในบรรดาผู้ที่ชอบกินโยเกิร์ตนั้น มักจะมีปริมาณคราบแบคทีเรียบนผิวฟัน (plaque) และอาการของโรคเหงืออักเสบน้อยกว่าคนทั่วไป
แม้ ว่าจำเป็นที่จะต้องมีการวิจัยมากกว่านี้เพื่อยืนยันผลที่ได้ แต่นักวิจัยก็อ้างว่า การกินโยเกิร์ตน่าจะเป็นวิธีที่ดีและปลอดภัยในการป้องกันปากเหม็น
ข้อมูลเพิ่มเติมสุขภาพดีด้วยโยเกิร์ตแหล่งพลังงานจากนม
นม ๆ ปัจจุบันนี้นมถูกปรับเปลี่ยนไปใช้ในรูปแบบที่ต้องการ ทั้งในด้านการบริโภค อุปโภค จนกระทั้งปัจจุบันนี้ถูกปรับมาเป็นเครื่องสำอาง เพราะในตัวของน้ำนมอุดมไปด้วยต่างๆ มากมายในตัวของนม
โดยถ้าพูดไปแล้ว โยเกิร์ตก็คือนมสดที่นำมาหมักกับเชื้อจุลินทรีย์ จน น้ำตาลแลกโตสในนมเปลี่ยนเป็นกรดแลคติก ทำให้นมมีรสเปรี้ยวและมีความข้นขึ้นจนเป็นลิ่ม การกินโยเกิร์ตเป็นประจำจะช่วยให้ลำไส้มีแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์มากขึ้น ช่วยแก้อาการท้องเสียเรื้อรังได้
ซึ่งในการกินโยเกิร์ตนั้นให้สารอาหารครบถ้วนเหมือนการดื่มนม แต่ไม่ทำให้ท้องเสียเหมือนที่บางคนมักเป็นเวลาดื่มนม นอกจากนั้นโยเกิร์ตยังมีคุณสมบัติกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้สูงขึ้น ช่วยกระตุ้นการสร้างสารแอนติบอดี้ และเพิ่มปริมาณสารอินเฟอร์รอน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค
โดยในตัวของโยเกิร์ตยังมีสารไขมันธรรมชาติมีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน ที่เรียกว่าพรอสตาแกลนดิน อี 2 (Prostaglandin E2) ซึ่งทำหน้าที่ช่วยปกป้องผนังกระเพาะจากสารกระตุ้นต่างๆ
เช่น แอลกอฮอล์และบุหรี่ เพราะฉะนั้น แทนที่จะปล่อยให้ท้องว่าง ก็กินโยเกิร์ตรองท้องสักถ้วยก็คงดี และการ กินโยเกิร์ตยังช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดมะเร็งบริเวณเนื้อเยื่อกระดูก และช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือดได้ นอกจากนั้นยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งได้อีกด้วย
ปิดท้ายด้วยการแถมสูตรพอกหน้าด้วยโยเกิร์ตให้กับสาวๆ ขั้น แรกล้างหน้าให้สะอาด และเช็ดให้แห้ง แล้วนำโยเกิร์ตชนิดที่ไม่ผสมเนื้อผลไม้มาพอกให้ทั่วผิวหน้า เว้นรอบปากและดวงตา นวดและคลึงเบาๆ พอกไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออก ทำเช่นนี้สัปดาห์ละ 3 ครั้ง รับรองผิวหน้าจะเปล่งปลั่งสดใสแน่นอน
โยเกริ์ตถึงจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากนมแต่ยังเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารเพียบที่ช่วยบำรุงผิวพรรณและสมอง
เครดิต www.thaihealth.or.th
- บล็อกของ natchamai
- อ่าน 9702 ครั้ง
ความเห็น
lekonshore
29 กันยายน, 2010 - 12:23
Permalink
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ แต่ยอมซ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ
แต่ยอมซื้อกินดีกว่าค่ะ แบบว่า
ขยันไปหน่อยค่ะ
msn:lekonshore@hotmail.com
ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร
9wut
29 กันยายน, 2010 - 12:33
Permalink
ขอบคุณครับ
สำหรับข้อมูลดีๆ
วิธีลงรูปประจำตัว |การใช้งานเว็บบ้านสวน |การแทรกรูป |การแทรก VDO
จันทร์เจ้า
29 กันยายน, 2010 - 12:43
Permalink
สูตรนี้
สูตรเดียวกับน้องพริกมั้ยเอ่ย ขอบคุณค่ะ
พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า
มานี มานะ วีระ ชูใจ
29 กันยายน, 2010 - 12:56
Permalink
ลูกสาวชอบ...
เห็นเป็นไม่ได้ ปกติจะซื้อมาไว้เป็นแพคๆ แต่ตอนนี้ ต้องซื้อมาแอบไว้...
น้องทานแล้วไม่ยอมกินข้าว....
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
เจ้โส
29 กันยายน, 2010 - 13:50
Permalink
ขอบคุณ
เด็ก ๆ ที่บ้านชอบมากคะ ซื้อเค้าก็แพงน่าดู ต้องจดสูตรไว้ทำเองบ้างแล้ว ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ
garden_art1139@hotmail.com
natchamai
29 กันยายน, 2010 - 13:58
Permalink
มาแล้วจ้า ... โยเกิร์ตมะเฟือง
โยเกิร์ตมะเฟือง ราดด้วยทอปปิ้ง น้ำเชื่อมตาลทรายแดง
นม ๑ ลิตร ทำได้ ๖ ถ้วย (แบบที่เขาขายกัน)
email : natchamaik@yahoo.co.th
ann
29 กันยายน, 2010 - 14:10
Permalink
อาหารที่ดูดีมีชาติตระกูล :)
มาเก็บข้อมูลไว้ก่อน...
ขอบคุณคุ่ะ ...
....ความสุขอย่างแท้จริง ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง....
tantawan-ตะวัน
29 กันยายน, 2010 - 15:23
Permalink
โยเกิร์ต
น่าสนใจลองทำบ้างดีกว่า นมสดจากเต้าต้องลงมือบีบเองด้วยหรือเปล่าค่ะ
ตองอู
29 กันยายน, 2010 - 15:28
Permalink
ตะวัน..^_^..อีกที..
เด็กคนนี้ขี้สงสัยจริง 555+++
MSN/MAIL/HI5 : Tongau_oomsin[at]hotmail[dot]com
natchamai
29 กันยายน, 2010 - 16:18
Permalink
โยเกิร์ต
ถ้าบีบเองได้ จะถูกมากๆ ตอนนี้ขายลิตรละ สามสิบกว่าๆ แล้ว ที่เขาบีบเองจากฟาร์ ทีเคยได้ยินมา ไม่น่าจะเกิน ยี่สิบ ค่ะ
email : natchamaik@yahoo.co.th
หน้า