ไม่ต้องร้องไห้..ไม่มีประโยชน์..โอ..โอ้..โอ้ย...
ผมเพิ่งเป็นเจ้าของสวนนี้เมื่อปีกว่าๆนี่เอง ยางต้นน้อยๆกว่าขวบปีที่เป็นของเขา และอีกปีกว่าต่อมาที่อยู่ในไออุ่นสายตาของผม ด้วยสภาพเป็นพื้นที่ต่ำติดสายห้วยและมีน้ำท่วมขังในบางส่วนของที่ดิน ผมจึงมีแนวคิดที่จะทำเกษตรทฤษฎีใหม่ตั้งแต่แรกเห็น แต่เพราะความเสียดายและสงสารต้นยางน้อยๆ ผมจึงใจอ่อน(ขี้เกียจยกแม่น้ำทั้งห้าเพื่อให้ภริยาคล้อยตาม)
จึงปล่อยวางและรักษาดูแลต้นยาง(๒๕๑)มาตลอดหนึ่งปีกว่าๆที่ผ่านมา ด้วยสภาพตอนที่เห็น น้องๆต้นยางเหล่านี้แสนจะอดอยากและแคระเกร็ง ผมบอกภริยาแล้วว่า ท่าจะไม่ไหว เราน่าจะไถทิ้งสักส่วนหนึ่งหกไร่ แล้วยกร่องให้สูงขึ้นเพื่อปลูกอย่างอื่นแทน เช่นปาล์ม อะไรเหล่านี้ แต่เมื่อภริยาบอกว่า ช้าก่อนรอดูสักปี เป็นอย่างไรค่อยว่ากัน ผมก็ยอมเชื่อเธอโดยสงบและสำรวม..
และนี่คือสวนยางของผม(ไม่ใช่สิ...ภริยาผมตังหาก)จำนวนสิบสองไร่อยู่ติดกับบ้านญาติ แต่ห่างจากบ้านผมคนละอำเภอ(อ.นาบอน)ส่วนโฉนดอยู่ในที่ปลอดภัยดี ธกส.
ฝั่งที่เป็นเนินซ้ายมือครับ..ยังพอไหว
ซีกที่อยู่ฝั่งขวามือ เริ่มออดๆแอดๆ......
.
ก็เหมือนกับสวนทั่วไปครับ...สารพัดกล้วย
......
นี่ก็ต้นมะขาม(ผมอนุรักษ์)คนแถวนี้โค่นกันหมด(ต้องขอบคุณที่เจ้าของเก่าไม่โค่น)
และนี่คือชีวิตจริงของคำทำนาย ปีที่แล้วสองร้อยกว่าครับที่อยู่ในสภาพแบบนี้และผมก็ค่อยๆทะยอยทำอย่างในภาพนั้นหละครับ(แล้วก็พาปาล์มมาปลุกแทน เทนเนอรา)
. . ..
.
นี่ก็เป็นรอบเมื่อเดือนสองเดือนที่แล้ว..
. ..
ตรงที่ตายทั้งลานก็ปลูกปาล์มครับ ส่วนที่ตายน้อยๆห่างกันแค่ต้นสองต้นก็ปลูกต้นเทียมครับ
.. .
บริเวณข้างลำห้วยก็ทั้งไม้สัก ไม้เทียม กระท้อน...
.
ก่อนกลับบ้านก็โค่นกล้วยมาเครือนึงครับ .
แฟนผมกลับมาดูสวนยางแปลงนี้เมื่ออาทิตย์ก่อนโน้น...ร้องไห้ฮือๆอยู่พักโต เพราะผมไม่เคยบอกเธอเลยว่าผมค่อยๆทะยอยโค่นยางแล้วปลูกปาล์มมาพักหนึ่งแล้ว
มันเหมือนสัจธรรม..ชีวิตที่ดีย่อมมาจากพื้นฐานที่ดีเป็นสำคัญ
ไม่ต้องร้องไห้หรือเสียใจ รั้งไว้ก็มีแต่จะเสียเวลา ไม่มีประโยชนอะไรที่จะทุ่มเทกับสิ่งที่เรารู้อยู่แล้วว่าสูญเปล่า
เมื่อให้โอกาสแล้ว เมื่อให้เวลาแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องตัดใจจากต่อกัน...อย่างเข้าใจ
ขอโทษนะที่ต้องทำแบบนี้...แต่ถึงเวลาของพี่...ที่จะเลือก...ตัดสินใจ...(เพิ่มอีกหน่อยว่า..พูดในขณะกำลังคุกเข่าขอโทษแฟนที่ไม่บอกเธอ...แฮๆๆๆ...)
(ปล)...ขอตัวไปอาบน้ำให้ลูกสาวแปบโตนะครับ....สองวันแล้วยังไม่ได้อ่านบร็อคใครเลย...(ไปใส่ปุ๋ยยาง)
เด่วมา...แง...
- บล็อกของ มานี มานะ วีระ ชูใจ
- อ่าน 9176 ครั้ง
ความเห็น
มานี มานะ วีระ ชูใจ
5 ตุลาคม, 2010 - 22:54
Permalink
ชัย
ขอบคุณครับที่แวะมาชม..บางครั้งเราก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรกับความเห็นที่อยากจะบอกเขา..ว่า
แต่เมื่อเข้ามาแล้ว...ก็อยากจะบอกเค้าว่าเรามาแล้วเหวอ...
ก้เลยเป้นที่มาของคำๆนี้...รู้ไว้ใช่ว่า แวะมาชม อื่นๆ เข้าใจกันครับ
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
ป้าเล็ก..อุบล
5 ตุลาคม, 2010 - 19:13
Permalink
ยาง
ที่จริง ช่วงแรก มันก็โตช้าจริงๆนะ ต้องระดมปุ๋ย ปรับดิน ดูดินไม่ค่อยดีเท่าไร 4 ปี ไปแล้วถึงจะดูรู้ว่าโต แต่ถ้าใกล้น้ำ ปลูกผักก็ดีนะ ถ้าอยู่ในตลอด ลองยกร่องปลูกข้าวโพดอ่อน ผักหวานบ้าน ก็ดีนะ
084-167-4671
anongrat2508@hotmail.com
มานี มานะ วีระ ชูใจ
5 ตุลาคม, 2010 - 22:49
Permalink
ป้าเล็ก
ก็เป็นข้อมูลที่ดีครับ...ผมยังมียางที่เหลือที่ค่อนข้างสมบูรณ์ประมาณหกไร่ครับ
อีกสองไรยังห้าสิบห้าสิบ..ส่วนสี่ไรที่เหลือยกร่องปลูกปาล์มไปแล้วครับ..ป้าเล็ก
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
ลุงพูน
5 ตุลาคม, 2010 - 19:25
Permalink
คุณมานี มานะ วีระ ชูใจ
เห็นต้นยางแล้วเสียดายแทน แต่ว่า ปลูกยางในที่ลุ่ม ก็คงไม่ได้กรีด ลงพืชอื่นแทนดีกว่า แต่ว่าต้องหาต้นไม้ที่ทนน้ำได้ ถ้าเป็นของผม ผมจะลงไม้ไผ่ เพราะว่าผมชอบต้นไผ่ และปลูกสลับกับต้นไม้อื่นๆไปด้วย พวกไม้ป่า หรือสมุนไพรยืนต้น ไม้ใช้สอยต้นเล็กๆ ที่ลุ่ม ถ้ามีเวลาดูแล ขุดบ่อเลี้ยงปลาก็ดี
มานี มานะ วีระ ชูใจ
5 ตุลาคม, 2010 - 22:46
Permalink
ลุงพูน
ไฝ่หรือ...น่าจะดีนะครับ..ไผ่หวาน
เดี๋ยวจะลองไถ่ถามพรรคพวกแถวถ้ำพรรณราดูอีกครั้งนึงครับ
แถวลำห้วยเป้นดินเหนียวปนทรายด้วย
ขอบคุณครับลุงพูน
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
น้ำหวาน
5 ตุลาคม, 2010 - 19:28
Permalink
เสียดาย เสียใจ
เห็นภาพแล้วเสียดายและเสียใจแทนจังเลยค่ะ
แต่ก็อย่างว่าแหละรั้งไว้ก็เสียเวลาเปล่า....
เราต้องหาสิ่งที่ดีกว่า มาทดแทนสิ่งที่เสียไปดีกว่าค่ะ
อย่ายอมแพ้เป็นกำลังใจให้ สู้ สู้ นะคะ
อ้อ....ขอกล้วยซักเครือด้วยค่ะ
อยากรู้ว่าจาหวานเหมือนกล้วยกรุงเทพม้าย......
มานี มานะ วีระ ชูใจ
5 ตุลาคม, 2010 - 22:42
Permalink
อะไรกันเนี้ย
ตั้งเครือเลยหรือ..
งั้นหากินที่บางกอกเถอะ...
ที่นี่ไม่หรอยหรอก...อีกอย่างกล้วยที่นี่...แก่
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
มาย
5 ตุลาคม, 2010 - 19:34
Permalink
ขอร่วมเป็นกำลังใจให้นะคะ
ขอร่วมเป็นกำลังใจให้นะคะ
there is a will , there is a way .
มานี มานะ วีระ ชูใจ
5 ตุลาคม, 2010 - 22:39
Permalink
คุณมาย
แหม...ธรรมดาครับ...
มิได้สาหัสอะไรครับ..
.ผมทราบมาตั้งแต่ซื้อแล้วหละครับ...
ว่าต้องเป้นแบบน้..
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
ตองอู
5 ตุลาคม, 2010 - 19:42
Permalink
มานี มานะฯ..^_^..
มาเป็นกำลังใจให้อีกคน...สู้ๆนะค่ะ..^_^..
MSN/MAIL/HI5 : Tongau_oomsin[at]hotmail[dot]com
หน้า