แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป
สืบเนื่องจากงานพบปะสังสรรค์ชาวบ้านสวน กทม.ครั้งที่สอง ผมได้รับเมล็ดพันธุ์ต่างๆ พร้อมหนังสือธรรมะจากพี่ตั๊มอีกจำนวนสองเล่ม ซึ่งทุกอย่างที่ได้รับมาผมถือว่าเป็นการบ้านและมีความสำคัญเหมือนกันหมด แต่เนื่องด้วยความไม่อำนวยในชีวิต จึงต้องขอทะยอยทำไปที่ละเรื่องทีละอย่าง ซึ่งสิ่งที่ง่ายสุดคือการอ่านหนังสือ ก็อ่านจบไปนานแล้วเพียงแต่ช่วงนี้เหตุการณ์ต่างๆ ดูไม่ค่อยจะมีความเป็นปกติสักเท่าไหร่ ทั้งเรื่องในบ้านสวนที่ผ่านมา วิกฤตการณ์ภัยธรรมชาติ ทั้งผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงและผู้พบเห็น ก็เลยขอหยิบยกเรื่อง "แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป" ซึ่งเป็นเนื่อหาบางส่วนจากหนังสือที่ได้รับมา มาฝากสมาชิกได้อ่านกัน
ในอดีตมีพระราชาผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักร ฮีบรูพระนามว่าโซโลมอน พระราชาได้สั่งให้เจ้าเมืองทุกเมืองทำของวิเศษให้อย่างหนึ่งโดยของสิ่งนั้นต้องมีคุณสมบัติพิเศษคือ…
...ของสิ่งนี้ จะสามารถเปลี่ยนอารมณ์ความรู้สึกของพระราชาได้ “หากมีความทุกข์อยู่ก็จะหายจากทุกข์ หากมีความสุขอยู่ก็จะคลายความสุขลง ไม่ว่ากำลังร้องไห้อยู่หรือหัวเราะอยู่ก็จะสามารถหยุดอารมณ์ทั้งสองอย่างนั้นได้”
เมื่อครบกำหนด เจ้าเมืองใหญ่เมืองใด ๆ ก็ไม่สามารถหาของตามที่พระราชาต้องการได้ แต่มีเจ้าเมืองเล็ก ๆ อยู่เมืองหนึ่งได้บอกว่ามีแหวนวิเศษมีคุณสมบัติอย่างที่พระราชาต้องการมาถวาย พระราชาจึงรีบให้มาเข้าเฝ้า เมื่อพระราชาได้เห็นแหวนวงนั้นแล้ว ปรากฏว่าเป็นเพียง แหวนทองธรรมดาเรียบ ๆ วงหนึ่ง พระราชาก็สงสัยว่าแหวนนี้จะมีความวิเศษได้อย่างไรกันเมื่อพระราชานำไปใช้ก็ปรากฏว่าแหวนวงนี้ สามารถเปลี่ยนอารมณ์ของพระองค์ได้จริง ๆ ไม่ว่าพระองค์จะกำลังมีความสุขอยู่ก็ตาม เพียงเพราะแหวนนั้นมีข้อความสั้นสลักไว้ว่า
“แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป”
ยามใดที่พระราชามีความสุข ความยินดีหรือมีความทุกข์ ความโกรธ ความกังวลไม่สบายใจใด ๆ ก็ตาม เมื่อมองไปที่แหวนนี้ซึ่งเตือนสติพระองค์ว่า “แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป” ทำให้พระองค์เข้าใจว่าสิ่งที่พระองค์กำลังประสบอยู่ไม่ว่าสุขไม่ว่าทุกข์มันไม่จีรังยั่งยืน เกิดขึ้นมาแล้วก็จากไป นับตั้งแต่นั้นมาพระราชาก็ไม่คิดที่จะนำความทุกข์มาเป็นกังวล มีความสุขก็ไม่ได้ยึดติดกับความสุขนั้น ทำให้พระราชาสามารถตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ
ได้อย่างถูกต้องและตั้งหน้าตั้งตาทำเพื่อประชาชนของพระองค์ จนได้ขื่อว่าเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ เป็นที่รักใคร่ของประชาชน
ในการดำเนินชีวิตของเรา เราต้องประสบกับโลกธรรม 8 คือได้ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ก็ต้องมีเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์เป็นธรรมดา หากเราสามารถเตือนสติตนเองได้ว่า “แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป” ก็จะช่วยให้เราทำใจเป็นกลางทำใจเป็นปกติได้
เมื่อความรู้สึกต่าง ๆ เกิดขึ้น เช่น หงุดหงิด โกรธ น้อยใจ เสียใจ ขี้เกียจ วิตกกังวล หรือมีความรู้สึกตื่นเต้น ยินดีพอใจก็ตามให้เรามีสติ ปรับปรุงลมหายใจยาวๆ หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ ให้เกิดความรู้สึกตัว รักษาใจเป็นกลางๆ ทำใจสงบและทำใจปล่อยวางว่า “แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป”
เมื่อมีทุกข์ ทุกข์นั้นไม่ใช่สิ่งจีรังยั่งยืน ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะนำความทุกข์นั้นมาเป็นกังวล
เมื่อมีสุข สุขนั้นก็ไม่จีรังยั่งยืนเช่นกัน เราไม่ควรยึดมั่นถือมั่น ทุกสิ่งล้วนไม่เที่ยง เป็นอนิจจัง
จากหนังสือ โชคดี
พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
- บล็อกของ witlessness
- อ่าน 7519 ครั้ง
ความเห็น
lekonshore
21 ตุลาคม, 2010 - 10:29
Permalink
น้องวิทย์
อ่านเสร็จ แล้วสิ่งนั้น(ความจำ)ก็จะผ่านไป เกี่ยวกันมั๊ย
msn:lekonshore@hotmail.com
ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร
witlessness
21 ตุลาคม, 2010 - 14:58
Permalink
พี่เล็ก
เป็นธรรมดาครับพี่เล็ก ทุกอย่างย่อมมีโอกาสเสื่อมครับ รวมทั้งความจำ
sothorn
21 ตุลาคม, 2010 - 10:31
Permalink
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ เป็นเช่นนั้นจริงๆ
Tui
21 ตุลาคม, 2010 - 10:50
Permalink
ขอบคุณ สำหรับ ข้อความดีๆ ครับ
ขอบคุณ สำหรับ ข้อความดีๆ ครับ คุณ วิทย์
witlessness
21 ตุลาคม, 2010 - 15:05
Permalink
คุณตุ้ย
ด้วยความยินดีครับคุณตุ้ย
ยายอิ๊ด
21 ตุลาคม, 2010 - 10:54
Permalink
แถมค่ะ
K ซาโลมอน เป็น K ที่สร้างพระวิหารทองคำที่ยิ่งใหญ่
ข้อมูลจากวิกิพิเดียค่ะ
โซโลมอน (ภาษาอังกฤษ: Solomon; ภาษาฮิบรู: שְׁלֹמֹה) มาจากราก S-L-M ที่แปลว่าความสงบ[1] เป็นบุคคลในคัมภีร์ฮิบรู (พันธสัญญาเดิม) และในอัลกุรอาน คัมภีร์กล่าวว่าพระเจ้าโซโลมอนเป็นลูกของเดวิด[2] ชื่ออีกชื่อหนึ่งที่ใช้กันคือ “Jedidiah” ในคัมภีร์ทานัคห์ (Tanakh) (พันธสัญญาเดิม) และกล่าวว่าเป็นกษัตริย์องค์ที่สามของสหราชอาณาจักรอิสราเอลและกษัตริย์องค์สุดท้ายก่อนที่จะแยกเป็นราชอาณาจักรอิสราเอลทางเหนือและราชอาณาจักรจูดาห์ทางใต้ หลังจากการแยกตัวผู้ที่สืบเชื้อสายก็ปกครองแต่เพียงราชอาณาจักรจูดาห์เท่านั้น
พระคัมภีร์กล่าวว่าพระเจ้าโซโลมอนเป็นผู้สร้างพระวิหารโซโลมอน (Solomon's Temple) ในกรุงเยรุซาเล็มที่ถือกันว่าเป็นพระวิหารแห่งเยรุซาเล็มหลังแรก[2] และเป็นผู้มีความฉลาด, มั่งคั่ง และอำนาจ
#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#
witlessness
21 ตุลาคม, 2010 - 15:04
Permalink
ยายอิ๊ด
ขอบคุณครับยายอิ๊ด ชอบมากเลยของแถม แต่ชอบสุดๆ คือของฟรี
tantawan-ตะวัน
21 ตุลาคม, 2010 - 11:02
Permalink
พี่วิทย์
ขอบคุณค่ะ เราไม่ควรยึดติดกับอะไร ปล่อยวางทุกอย่าง
witlessness
21 ตุลาคม, 2010 - 15:03
Permalink
ตะวัน
ปล่อยได้แหละดี
...แต่เจ้าเงาะอย่าปล่อยเชียวนะ
pomcob
21 ตุลาคม, 2010 - 11:04
Permalink
ครับคุณวิทย์
“แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป”
จะพยายามครับ
หน้า