ระบบท่อ
ระบบท่อ ทำหน้าที่ส่งน้ำเข้าสู่แปลงปลูก ในการติดตั้งระบบน้ำ
ในการติดตั้งระบบน้ำ เพื่อที่จะให้น้ำมีแรงดันพอที่จะหมุนหัวมินิสริงเกลอร์ และไหลออกในปริมาณที่ต้องการ จำเป็นต้องแบ่งท่อเป็น 3 ขนาด คือ
1. ท่อประธาน (Main pipe) เป็นท่อขนาดใหญ่ที่สุด ส่งน้ำในปริมาณที่พอเพียงทั้งแปลง
2. ท่อรองประธาน(Sub-main pipe) เป็นท่อขนาดรองลงมา ส่งน้ำเพียงบางส่วนของแปลง
3. ท่อย่อย(Lateral pipe) เป็นท่อขนาดเล็ก ส่งน้ำเฉพาะแถวของต้นไม้ ซึ่งมีต้นไม้ไม่กี่ต้น
ตัวอย่างภาพการต่อระบบท่อ
ภาพที่ 1
แบ่งการให้น้ำเป็น 4 โซน แต่ละโซน มีประตูน้ำ คือ ที่1 , ที่2 , ที่ 3 และ ที่ 4
ดังนั้น แต่ละโซน ให้น้ำ 1/4 ของพื้นที่ทั้งหมด
**ท่อย่อย สีดำ ตามแถวพืช แต่ละเส้น ยาว จึงต้องใช้ท่อใหญ่กว่าภาพที่ 2
ภาพที่ 2
แบ่งเป็น 4 โซน แต่ละโซนรับผิดต้นไม้ 1/4 ของสวน แต่วางท่อรองประธาน ห่างกัน ทำให้
ท่อย่อย แต่ละเส้นสั้นกว่า ภาพที่ 1 (นับจากท่อแยกไป) จึงใช้ท่อขนาดเล็กกว่า ภาพที่ 1 ได้
ทั้ง ภาพที่ 1 และ 2 จำนวนแถวต้นไม้ ระยะแถว ระยะต้น เท่ากันทุกประการ
ภาพที่ 3
พื้นที่แคบและยาว ดังนั้นจึงวางท่อประธานและรองประไว้ข้างแปลง ส่วนท่อย่อยวาง
ตามแนวที่แคบ และแบ่งพื้นที่เป็น 2 โซน ดังนั้นท่อรองประธานยาว จึงต้องใช้ท่อใหญ่กว่า
ภาพที่ 4
ภาพที่ 4
แบ่งเป็น 4 โซน ดังนั้นท่อรองประธานแต่ละช่วง สั้นกว่า จึงใช้ท่อเล็กกว่าได้
การที่เราต้องแบ่งโซนให้เล็กๆ เพราะ
สมมตว่า ภาพที่ 3 เปิดที่เดียวพร้อมกันทั้งแปลง นาน 20 นาที ภาพที่4 เปิดน้ำให้ที่ละโซน ๆ ละ 20 นที รวม 80 นาที การใช้งานจะมีลักษณะดังนี้
1. การแบ่งโซนเล็กๆ ใช้ปัมป์ขนาดเล็กลง เช่น ภาพที่ 3 เราอาจใช้ปัมป์ ขนาดน้ำออก ชั่วโมงละ 1200 ลิตร แต่ภาพที่ 4 เราใช้ปัมป์ขนาดนำ้ออก เพียง 300 ลิตร
2. ใช้ท่อประธาน ท่อรองประธาน หรือท่อย่อย ขนาดเล็กลงเช่นกัน
จาก 2 ข้อ ทำให้ประหยัดค่าปัมป์ และท่อ
3. กรณีหน้าร้อน น้ำซึมขึ้นจากบ่อช้า เราใช้ตามภาพที่ 3 น้ำจะหมดบ่อก่อนเวลา 20 นาที แต่ถ้าใช้าพที่ 4 ใช้น้ำน้อยกว่า ดังนั้นเราสูบน้ำต่อกันไป 80 นาที ตาน้ำไหลขึ้นมาทัน
คราวนี้ มาพูดถึงขนาดท่อประธาน และรองประธาน
**ท่อขนาดเล็กกว่า ในความยาวเท่ากัน จึงเกิดแรงดันน้ำสูญเสียมากกว่าท่อขนาดใหญ่ จึงทำให้ แรงดันน้ำปลายท่อไม่พอให้มินิสปริงเกลอร์หมุนได้
**ฉะนั้นอย่าลดขนาดท่อประธาน เช่น จาก 2 นิ้ว เหลือ 1.5 นิ้ว เหลือ 1 นิ้ว และปลายสุดเหลือ 3/4 นิ้ว ควรใช้ขนาด 2 นิ้ว ตลอด แรงดันน้ำจะลดลงน้อยกว่า
ภาพที่ 5 แสดงความดันสูญเสียในท่อยาว 100 เมตร
ตามภาพ สมมตว่า ต้องการน้ำออก ชั่วโมงละ 2 ลบ.เมตร ใช้ท่อยาว 100 เมตร ถ้า
1. ใช้ท่อ 1/2 นิ้ว แรงดันปลายท่อลดลง 40 เมตร น้ำไม่มีแรง
2. ใช้ท่อ 3/4 นิ้ว แรงดันปลายท่อลดลง 10 เมตร น้ำเหลือแรงดันน้อย
3. ใช้ท่อ 1 นิ้ว แรงดันปลายท่อลดลง 3.5 เมตร แรงดันน้ำเหลือมากพอ
4. ใช้ท่อ 1 1/4 นิ้ว แรงดันปลายท่อลดลง 0.7 เมตร
5. ใช้ท่อ 1 1/2 นิ้ว แรงดันปลายท่อลดลง 0.35 เมตร
ตามตาราง จะเห็นว่า การใช้ท่อขนาดเล็ก จะเกิดแรงเสียดทานในท่อมาก ทำให้น้ำที่ออกมามีแรงดันน้ำเหลือน้อย ไม่พอให้หัวมินิสปริงเกลอรืหมุนได้ นะครับ
**ฉะนั้นจากความคิดที่ว่า ท่อยิ่งรีดให้เล็กลง น้ำยิ่งออกแรง เป็นความเข้าใจผิด แต่ถ้าเราใช้ ท่อ 1.5 นิ้ว ยาว 100 เมตร แล้วรีดปลายท่อให้มีขนาดเล็ก 1/2 นิ้ว ยาวเพียง 2-3 นิ้ว น้ำพุ่งแรงแน่**
- บล็อกของ นายบุญลือ
- อ่าน 16696 ครั้ง
ความเห็น
chatchai.cn
15 พฤษภาคม, 2015 - 22:14
Permalink
Re: ระบบท่อ
แล้วถ้าเปนเทปน้ำพุ่งหรือท่อน้ำพุ่งต้องใช้ปั้มน้ำขนาดไหนหรอคับ ปล.ท่อน้ำพุ่ง ยาว 40 เมตร 5 เส้นคับ
หน้า