….............ที่มา ๒๘ ผมคิด....................

หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

ผมคิด…

อย่างน้อยในชีวิตที่ผ่านมาผมฝึกคนในบางมิติที่ผมชำนาญไว้หลายคน สามารถหยัดยืนเป็นคนดีได้ในสังคมของคนปรกติ(หลายคนกลายเป็น Someone ที่สามารถทำงานในระดับชาติได้) แม้จะเป็นคนเล็กๆ ของสังคมใหญ่ก็ตาม

มีเพื่อนบางคนของผมเคยพูดให้ผมฟังว่า เคยทำงานมาหลายอย่างในชีวิต แต่งานที่ชอบที่สุดกลับเป็นงานสอน การเป็นครู การถ่ายทอดความรู้ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ในงานนั้นๆ ของพนักงานในกำกับ หรือความรู้เพื่อใช้ในการเรียนของเด็กนักเรียน เมื่อใดที่ผู้ที่เราสอนเรียกเราว่าครูมันปลาบปลื้ม

แม้จะเป็นการติดในถ้อยคำ – ผมก็ชอบ

ดูเหมือนโลกปัจจุบันจะขาดแคลนครูในแง่ของจิตวิญญาณของความเป็นผู้ให้อย่างแท้จริง จะด้วยเหตุผลทางการเปลี่ยนแปลงของบริบททางสังคมหรือด้วยภาวะความเป็นครู(ทั้งโดยอาชีพและมืออาชีพ)ที่อ่อนด้อยลงไปหรือความเป็นศิษย์ซึ่งควรจะเป็นศิษย์ที่ดีหดหายไปแล้ว ฯลฯ

จะโทษนโยบายของรัฐหรือปัจจัยประกอบอยางอื่นตามแต่จะสรรหามารองรับความชอบธรรมแห่งตนของทั้งศิษย์และครู

ภาพเก่าๆ ของการเรียนหนังสือด้วยกระดานชนวน ครูคือพระ ผู้เรียนกับพระคือเด็กผู้ชาย ขณะที่เด็กผู้หญิงในยุคนั้นมีครูเป็นแม่ น้า อา ใกล้บ้าน การเรียนและการสอนแตกต่างกันแต่เอื้อให้ บูรณาการไปสู้หมุดหมายเดียวกันคือมีชีวิตได้อย่างมีความสุขภายใต้ความรู้ที่ถูกบ่มเพาะ ปลูกถ่าย ทั้งฝีมือและศีลธรรม

ถัดจากนั้น..โรงเรียน ครูในระบบ เด็กจากหลากหลายถิ่นฐานมาอยู่ในร่งเงาของสถานศึกษาเดียวกัน สังคมของการปรับตัวเริ่มต้นก่อนจะออกไปเผชิญโลกจริง

โลกเปลี่ยนแล้ว.....เปลี่ยนไปรวดเร็วเหลือเกิน

ท่ามกลางสรรพความรู้ที่หาได้ง่ายดายเพียงนิ้วคลิก....เรากำลังถอยหลังเข้าคลองอย่างแท้จริง?

เราสูญเสียความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบภายใต้ศีลธรรมในมโนสำนึก เราติดอยู่กับปลีกเปลือกที่ลูกหลานของเราไปร่ำเรียนมาจากข้างนอก ทำงานเป็นฟันเฟืองของบริษัทนั้น โน้น นี้ ผลิตข้าวของเกินความจำเป็นออกมาให้เราให้ถลุงเงินซื้อหามาประดับบารมีโดยไม่มีความจำเป็นจริงๆ ของชีวิตมารองรับ

ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรืออ้อมเราทั้งหลายหนีไม่พ้น(ข้าวของและ)ความไม่จำเป็นเหล่านั้นกันทุกคนเว้นเสียแต่ว่าคุณจะปลีกวิเวกไปอยู่หลังเขาเป็นคนไม่เอาสังคม 

 


ผมคิด(เอาเองว่า)นี่เป็นผลผลิตของการสอน จะโดยพ่อแม่ โรงเรียน สถาบัน สังคม องค์กรหรือสันดานของลูกหลานของเราเอง

โดยกลับกัน ถ้าคนของเราสามารถคิดดี ทำดี เป็นคนดีในสังคม สามารถไปเป็นครูของคนอื่นๆ ได้ต่อไป ใครที่ไหนจะไม่รู้สึกภาคภูมิ?

.......ผมคิด

 

 

              ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

 



มีดแนวนี้อีกครั้ง(ในหลายๆ ครั้ง) เป็นมีดของศิษย์คนหนึ่งของผม ที่ได้เคยถ่ายทอดวิชาการมองโลก มองชีวิต มองธรรมชาติป่าเขาลำเนาธาร ต้นไม้ ผ่านตาเนื้อ ผ่านเลนส์กล้องถ่ายภาพ บอกเล่ากระบวนการคิดเป็นถ้อยอักษร เคยสอนการลำดับภาพเคลื่อนไหวด้วยเครื่องมือตัดต่อนอนลิเนียร์ในยุคแรกๆ

 

เป็นศิษย์คนหนึ่งที่ผมภูมิใจ....

 

(ใช่ครับ - ผมคิด)

 

ความเห็น

ครับ...ใช่ครับ

ออกปากรุนท็อกที !!!

เรื่องเล่า น่าสนใจเหมือนเดิม แต่มีสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไป..........

เล็บพี่สายลม ขาวขึ้น อิอิ

พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า 

ขอบคุณครับ


แย่จัง...เล็บขาวซะแระ

ออกปากรุนท็อกที !!!

คุณสายลมลอยน่าจะผลิตมีดกริซขายบ้างนะ ตอนนี้หาดูยากแล้ว(ด้ามรากไม้ไผ่)

กริชเป็นงานศาสตราภรณ์ชั้นสูงครับ..ผมแค่เด็กกระเตาะ เรียนรู้ทั้งชีวิตคงไม่ถึงไหน เพราะเครื่องเคราประกอบเยอะมากมาย

แต่อยากรู้ครับ

ออกปากรุนท็อกที !!!

ทุกวันนี้บ้านเราขาดครูที่มีจิตวิญญาณของความเป็นครูจริงๆครับ  ภรรยาผมก็เป็นครูคนหนึ่งที่ทนอยู่กับนโยบายการศึกษาที่มุ่งเน้นด้านความรู้และวัตถุมากกว่าการปลูกฝังคุณธรรมคุณธรรมให้กับเด็กๆ จนทนอยู่ไม่ได้กับเด็กที่มีแต่ความกร้าวร้าวเอาแต่ใจไม่มีความเคารพและกตัญญูต่อผู้ให้ความรู้จนต้องลาออกก่อนกำหนด และหันมาสร้างเสริมคุณธรรมต่างๆให้กับเด็กๆนอกระบบการศึกษา


มีดสวยมากครับ มีความคิดสร้างสรรดี แต่ถ้าจะใช้งานจริงๆ คงจับไม่ค่อยถนัดมือมั้งครับ

ขอบคุณครับ..

มีด..แนวนี้เีรียก striker ครับ ปลายด้ามที่งอนๆ กลมๆ นั่นเอาไว้เคาะหินเหล็กไฟเพื่อจุดไฟ(ตี) ส่วนที่เป็นมีดเป็นส่วนแถมออกมาจากเหล็กไฟที่ว่านั่นครับ..เลยกลายเป็น Striker Knife ผมทำด้ามสั้นเพราะคนที่สั่งเป็นผู้หญิง มือเล็ก ครับ

ตามจุดประสงค์การใช้งานของเจ้าของครับ






 

ออกปากรุนท็อกที !!!

ผมชอบคำนี้มากครับ


คุรุ กูรู ครู มันเหมือนว่า การให้ ให้ด้วยวิญญาณ


แต่กับคำว่าอาจารย์ มันทางการอย่างไรไม่รู้นะผมว่า...

เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด  ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่

คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู

ผมว่ากัน

ออกปากรุนท็อกที !!!

ปกติของคนเราต้องมีการเรียนรู้ และถ่ายจากรุ่นสู่รุ่น ในอดีตของไทยได้แน่นเรื่องของศีลธรรม จริยธรรม การเคารพเชื้อฟัง รู้จักตนเอง รู้จักพอ รู้จักช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ซึ่งผู้สอนนั้น ยิ่งกว่าครู


เวลาที่ผ่านไป กับคนบางคนที่เรียกว่าตนเองว่าเป็นครูมีใบประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู ไม่ได้เรียนรู้สิ่งดีๆในสังคมไทย แต่ใช้หลักทางวิทยาศาสตร์ คือเหตุ และผล การพิสูจน์ แทนความเชื่อ ทำให้ตัวเองมีความเชื่อมั่นสูง สามารถว่ากล่าวผู้ที่สูงวัยกว่าได้ สิ่งเหล่านี้ได้สืบทอดจากครูสู่ศิษย์ สิ่งที่มองเห็นในสังคมปัจจุบัน คือความกร้าวร้าว การแข่งขัน เหมือนสังคมโลกทั่วไปในปัจจุบัน


การเป็นครูที่พยายามจะสอนศิษย์ให้เป็นคนดีนั้นก็ไม่มีโอกาส เพราะต้องสอนตามหลักสูตร ทำตามนโยบายผู้บริหาร เมื่อเป็นครูที่ดี ที่รู้จักพอ หรือจะสู่ผู้ที่คอยหาโอกาศที่จะเติบใหญ่ได้อย่างไร เมื่อผู้เป็นใหญ่ได้มาจากการแข่งขัน แล้วรุ่นต่อไปคนดี คนรู้จริง จะมีให้เห็นไหม 


ยังมีผู้สอนผู้เรียน โดยไม่มีใบประกาศ นับเป็นศิษย์เป็นครู ก็จะกลายเป็นชนกลุ่มน้อย ของสังคม


ความคิดของผม

หน้า