เข็ม ต่าง รอ พอใจ

หมวดหมู่ของบล็อก: 

“หวัดดีครับหัวหน้า  หวัดครับพี่รอง เป็นอย่างไรกันบ้าง”


ผมหันเหลือบมองไปยังต้นเสียงตัวเล็กๆ  ผอมบางแต่น้ำเสียงชั่งแจ่มชัดเหนือโต๊ะข้างๆใกล้ๆกับผนังห้อง  ผมเลือกที่จะเหลือบเงี่ยหูฟังการสนทนาโดยไม่รู้สึกกระดาก ตราบเท่าที่มารยาทของผม ยังคงถูกซ่อนไว้ได้อย่างมิดชิด และไม่คิดจะกลับนำออกมาใช้ในขณะนี้ คงจะอ้างได้ว่าเป็นไปเพื่อการฆ่าเวลาเช่นกัน  หากตราบใดที่ยังหาเหตุผลที่สมบูรณ์กว่านั้นมิได้ 


ขณะที่ปากนั่งดูดจิบ “เอสเปรสโซ” เย็นๆบางๆ  หูกับตาก็เลือกที่จะทำในสิ่งที่มันรักมันชอบ นั้นก็คือการสอดรู้สอดเห็น


“หวัดดีน้องเล็กมาทานข้าวด้วยกันเลย มา”  แทบจะพร้อมกัน


“เหนื่อยไหมวิ่งรอกมาทั้งวัน”


“ชีวิตผมก็เป็นแบบนี้หละครับ ตัวเล็กๆทำไงได้หละ ไม่ค่อยมีความสำคัญ ไม่เหมือนคนทำงานนั่งโต๊ะอย่างหัวหน้านี่นานๆจะเคลื่อนตัวที สบายๆ”


“แหมฟังดูเหมือนน้อยใจเลยนะ” พี่รองสวนคำขึ้นทันควัน ในขณะที่วางมือจากแฟ้มเอกสาร


“เราทุกคนก็สำคัญเหมือนกันหมดนั่นหละ” ก่อนขยายภาพต่อ


 “ เพียงแต่บทบาทหน้าที่เท่านั้นที่อาจจะทำให้เราต้องต่างกัน”


“ใช่....แต่เราก็ต้องไปด้วยกันไม่ใช่หรือ องค์กรของเราจะขาดใครคนใดคนหนึ่งได้ไง จริงไหม” หัวหน้าตอกลิ้มเน้นย้ำ


“แหมเล่นซะทางการเลยนะพี่..ผมก็แค่แอบบ่นประชันนิดหน่อย ผมรู้หละน่า”


“นั่งๆๆ สั่งเลยจะทานอะไร”    หัวหน้ากล่าวเชิญก่อนเสริม


“แค่จิบน้ำก็พอแล้วครับพี่  เดี่ยวผมต้องไปต่อ”


“เห็นไหม   น้องได้โลดเล่น พบปะผู้คนมากมาย ในขณะที่พี่มี ตำแหน่งใหญ่ก็จริงแต่ก็อย่างว่าหละ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นงานทางการตามตามตารางเวลานัดชะมากกว่า  รู้ไหมว่าการอยู่กับความคาดหวังของคนอื่นมันเป็นอย่างไร ทุกคนจะจ้องมองมาที่พี่ ผิดพลาดนิดหน่อย ก็อาจเป็นความเป็นความตายของพวกเราในองค์กรได้เลยนะ เรื่องนี้ถามน้องรองดูก็ได้  เค้านะ เจอมาบ่อยกว่าพี่”


“ใช่   พี่ใหญ่พูดถูก พี่ใหญ่นะเค้าคือผู้กำหนดทุกอย่างโดยภาพรวม แต่พี่คือตัวเดินงาน แต่ต้องสอดคล้องใกล้ชิดเทียบเคียง ผิดพลาดนิดๆหน่อยๆพี่นี่หละจะยื่นมีรับ  พี่นี่หละจะโดนหนักสุดทุกที คล้ายๆ เหมือนเป็นหนังหน้าไฟประมาณนั้น ว่าก็ว่าเถอะ แต่ทุกอย่างจะเดินหน้าไปได้ก็เพราะน้องเล็กอีกนั่นหละที่สำคัญ ”


“จริงหรือครับ...” น้องเล็กผะเหยอยิ้มขณะที่มือกำลังยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบ


 “ เอ้า...ว  น้องเล็ก ดูสาวน้อย ที่ยื่นอยู่กลางกลุ่มหนุ่มสาวที่นั่งล้อมวงโต๊ะข้างๆนั้นสิ”   หัวหน้าพี่ใหญ่ตัดบท


ผมหลงเผลอมองตามเหมือนจะเป็นส่วนร่วมหนึ่งของวงสนทนาอันออกรสนี้


“เห็นไหม....เธอส่ายตัวมองซ้ายมองขวา เดินไปเดินมา ปากก็คุยโทรศัพท์ ตาก็มองไปยังประตูร้านสับเปลี่ยนกับการเดินกลับมาทักทายก็กลุ่มหนุ่มสาวที่โต๊ะ”


“ก่อนหน้านั้นพี่เห็นมีเพียง หญิงสาวร่างเล็กนั้นเพียงคนเดียว แต่ตอนนี้เริ่มทยอยมาเรื่อยๆจนเต็มโต๊ะแล้ว แต่ดูเหมือนงานของเธอก็จะยังไม่จบในช่วงระยะเวลาสั้นๆนี้”


“คงมารอเพื่อนมากินข้าวเที่ยงแหง”....น้องเล็กชิงตอบ


“เปล่าหรอกคงจะมีนัดอะไรที่สำคัญกว่านั้น เห็นกระเป๋าแต่ละคนสิ เหมือนกำลังจะไปไหน”


“แต่ดูผู้หญิงเล็กๆคนนั้นสิ นั่นน่าจะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง คงจะเหนื่อยน่าดู แต่เห็นรอยยิ้มของเธอไหม เหมือนเธอจะเต็มที่และภูมีใจ ในสิ่งที่เธอทำและร่วมรับผิดชอบ”


“คงยังรอความคาดหวังที่ยังไม่ได้มา หรือมาไม่ได้” พี่รองกล่าวเสริม


“จริงๆนะ    นั่นหละคือน้องเล็กในสายตาของพวกพี่..น้องเล็กในความรู้สึกของเราและองค์กร น้องเล็กเข้าใจไหม”


“ทุกอย่างที่ยิ่งใหญ่รวมทั้งพวกพี่ด้วย  ล้วนขับเคลื่อนเดินได้จากสิ่งเล็กๆคนตัวเล็กๆอย่างน้องนี้หละ”


“ชีวิตน้องต้องวิ่งไปแผนกโน้นแผนกนี้ วันละไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ เก็บเล็กเก็บน้อยเพื่อตระเตรียมการ ให้พวกพี่ๆได้เคลื่อนตัวไปตามทางภารกิจที่สำคัญ แม้คนอื่นจะไม่เห็นคุณค่าของน้อง ไม่ให้ความสำคัญกับน้อง แต่นั่นอาจเป็นมุมมองของคนอื่นที่ไม่รู้จักค่า แต่น้องและพี่ต่างก็รู้กันดีว่าเราต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของความสำคัญ ความสำเร็จขององค์กรร่วมกัน....”


 แม้นจะเป็นแค่เศษส่วนเสี้ยววินาที ยามเที่ยงตรงที่ เข็มสั้น เข็มยาวและเข็มเล็กมาพบปะและคุยกัน แต่มันทำให้ผมรู้สึกได้ว่าแล้วผมหละ ปัจจุบันนี้ผมวางตัวเองเป็นเข็มใดของหน้าปัดนาฬิกา  วางตัวเองไว้ในจุดไหนในหน้าปัดแห่งสังคม ผมเป็นเข็มสั้น หรือเข็มยาว หรือเข็มเล็ก หรือยังไม่รู้จักตัวเองเลย  


แต่ชีวิตไม่มีอะไรตายตัวแบบนั้น  นอกบ้านบทบาทเราอาจจะเป็นเข็มเล็กๆ แต่ภายในบ้าน สถานภาพเราอาจจะเป็นเข็มใหญ่ หรือในบ้างครั้งเราก็ได้รับบาบาท อาจจะเป็นเข็มกลางๆอยู่ในสังคม หรืออาจถูกยกสภาพ ให้เป็นเข็มต่างๆตามที่เค้ากำหนดให้เป็น


 แต่ไม่ว่าจะมีบทบาทเป็นผู้ตามหรือผู้กำหนด   เข็มไหนๆ   เราได้ยอมรับและเต็มที่กับมันแล้วหรือยัง


 ยอมรับ อยู่กับศักยภาพของตัวเอง พัฒนาตัวเอง และก้าวไปสู่จุดหมาย ให้เหมาะสมกับศักยภาพและความสามารถที่มีที่เป็นอยู่นั้น


มันอาจจะดีกว่าที่จะเสียเวลาไปกับเข็มแห่งความฝันที่ไม่มีวันได้มาและ มีอยู่จริงในชีวิต...ไม่ใช่หรือ


......................................................


 


ผมออกจากภวังค์คิดเมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ 


“อยู่กันที่ไหนครับ...พี่" ผมเแกล้งทวนย้อนเมื่อต้นสายใชัคำถามเดียวกันนี้


“พวกเรามานั่งรอกันอยู่พักใหญ่แล้วหละคุณพี่ แล้วพี่หละอยู่ไหน นัดไว้สิบเอ็ดโมงครึ่งไม่ใช่หรือจ๊ะ  นี่มันเที่ยงตรงแล้วนะ....คุณชายเจ้าขา”(ประชด)


“ผมก็อยู่ที่นี่หละครับ แอบมามองพวกพี่ๆตั้งนานแล้วหละ ฮา...


“อ้าว...อีตาบ้านี่..มาแล้วก็ไม่บอก...เดี๋ยวก็ไปถึงปากช่องมืดค่ำกันพอดีหรอก เราช้ากว่ากำหนดการ ครึ่งชั่วโมงแล้วนะ"


"....ครับๆ...ฮา ..ฮาาาา.."


......................................................


“เห็นไหมน้องเล็ก ไม่มีใครว่าน้องเล็กสักคำนึง เข็มชั่วโมง เข็มนาทีอย่างพี่นี้หละ ที่โดนมากสุด ผิดมากๆเป็นชั่วโมง ๆก็โดน ผิดน้อยๆเป็นนาที ๆก็โดน ”  เสียงพี่รองส่งเสียงบอกกล่าวย้ำถึงสภาพหน้าไฟของตัวเอง ก่อนที่น้องเล็กจะเดินผละจากไปทำหน้าที่ด้วยรอยยิ้ม


พร้อมๆกับที่ผมผละจากโต๊ะ ยกกระเป๋าและเอสเปรสโซที่เหลืออยู่ค่อนแก้วไปรวมกลุ่มกับพี่ๆ เช่นกัน


 


 

ความเห็น

อ่านเสียเพลินเลย อิอิ เข้าใจเขียนนะ น่าติดตาม ลุ้นตั้งนาน

 

 

msn:lekonshore@hotmail.com

ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร

ผมพยายาม...ที่จะเขียนให้ถึงความหมายที่มันควรจะเป้นแต่เขียนได้เท่านี้ครับ...


เหมือนจะใช่แต่ไม่ใช่...ดั่งที่ควรจะเป้น พออ่านกันได้นะครับ

เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด  ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่

คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู

พี่พุทรานี่เองที่เป็นต้นเหตุของเรื่อง 555++ ขอบคุณนะคะที่ให้ข้อคิดSmile

สุดมือสอย ก็ปล่อยมันไป^^ ธรรมะ จากท่าน ว.วชิรเมธี

เรื่องเรียนพี่อาจจะเป็นคคนตาม..


แต่เรื่องความฮัก...ถามพี่นะครับ...


เหลวไม่เป็นท่า...เรียนบอก

เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด  ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่

คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู

ไหงเป็นงั้นหล่ะ 555++

สุดมือสอย ก็ปล่อยมันไป^^ ธรรมะ จากท่าน ว.วชิรเมธี

ความรักคือหนังสือที่เราอ่านได้ไม่มีวันจบงัยจ๊ะ


และยากที่จะสรุปด้วย...เจ้าค่ะ

เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด  ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่

คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู

แนะนำให้ไปเป็นนักเขียนค่ะ...เขียนทีไรอ่านเพลินทู้กกกกที..^__^..

MSN/MAIL/HI5 : Tongau_oomsin[at]hotmail[dot]com

นักเขียนหรือครับ...


ผมแค่เป็นเข็มๆนึงที่พยายามอย่างเต็มที่ในสิ่งที่ตัวเองเป็น...


อย่างที่บอกครับ


อย่างไปหวังกับเข็มที่ไม่มีอยู่จริง...ฮา...

เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด  ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่

คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู

อยากจะอยู่ในกลุ่มสาวน้อยกลุ่มนั้นจัง  Laughing    แต่หันมามองตัวเรา...สาวเหลือน้อยแร้วววววววว    Cry

ปากช่อง...แต่ผมคงไม่ได้ไป..น่าเสียดาย

เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด  ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่

คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู

หน้า