คบเด็กสร้างบ้าน
เห็น กิจกรรมของหนูอายสายใยเลยนึกถึงเพื่อนๆเค้าอีก 1 โรงเรียน ที่เป็นสายใยแพทย์แผนไทยเหมือนกัน...ทำให้ย้อนกลับมาดูตัวเราที่บางครั้งมองข้ามความสามารถของเด็กๆไป จากเรื่องนี้ทำให้ตัวเองได้เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตของเด็กๆเช่นกัน
ณ.ของอาคารไม้เก่า 2 ชั้น สีขาวหม่น รอยถลอกของสีรอบๆบอกถึงความเก่าแก่ของอาคารได้อย่างดี เสียงอึกทึก โครมครามของเด็กที่วิ่งไปมาจากชั้นบน ดังผสมกับเสียง เสียงขิม ระนาด ทำให้ข้าพเจ้าเงยหน้าขึ้นดูด้วยความฉงน “อ้อ ชั้นบนเป็นห้องดนตรีไทยค่ะ เด็กกำลังเรียนดนตรี ห้องเรียนนวดอยู่ชั้นล่างค่ะ “ คำตอบจากคุณผู้รับผิดชอบขณะนำข้าพเจ้าไปห้องเรียน “ห้องวัฒนธรรม”..เป็นบรรยากาศช่างเหมาะสมกับห้องเสียนี่กระไร ข้าพเจ้าคิดในใจ ห้องไม้โทรมๆฝาห้องเก่าคร่ำคร่าบอกถึงความเก่าแก่ รอยขีดเขียนเต็มฝาห้อง ภายในห้องเต็มไปด้วยหนังสือกองโต โต๊ะญี่ปุ่นเก่าๆ 4 – 5 ตัว วางพิงอยู่ริมห้อง สายตาของข้าพเจ้าสะดุดลงที่ ดวงตาสีดำขลับกลมโตแฝงไปด้วยความกระตือรือล้น ของเด็กผู้หญิงผิวคล้ำ หน้าตาคมขำผมสั้นหน้าม้าในชุดนักเรียนคอซอง ที่นั่งพับเพียบอยู่แถวหน้า สบตาข้าพเจ้าและยิ้มอายๆท่ามกลางกลุ่มของนักเรียนยี่สิบกว่าคนที่นั่งจับกลุ่มกระจายอยู่ทั่วห้อง “สวัสดีค่ะ พี่ชื่อน้อย เป็นหมอนวดอยู่โรงพยาบาลค่ะ ”เสียงหัวเราะขบขันและรอยยิ้มล้อเลียนจากเด็กผู้หญิงทั้ง 22 คนที่นั่งจับกลุ่มกระจายในห้องดังที่ขึ้นขณะข้าพเจ้าแนะนำตัว
“วันนี้เเรามาฟังความรู้สึกของแต่ละคนกันว่าทำไมถึงอยากเรียนนวด แล้วจะเริ่มเข้าเนื้อหาในชั่วโมงหน้า ” ข้าพเจ้าเริ่มประเมินทัศนคติของเด็กๆก่อนเข้าสู่การเรียนการสอน “เพื่อนชวนหนูมาค่ะ” “ ไม่มีชุมนุมอื่นให้สมัครแล้วค่ะ” คำตอบของแพนและดาวสร้างความกดดันให้ข้าพเจ้าเข้าแล้ว “หนูอยากเรียนนวดค่ะ เพราะแม่ชอบให้หนูนวด คุณครูฝนบอกว่าจะติดต่อครูมาสอนให้พวกเรา หนูเลยชวนเพื่อนมาสมัครชุมนุมนวดกันนี่แหละค่ะ” คำตอบจากนุชเด็กหญิงที่สนใจข้าพเจ้าตั้งแต่ต้น และเสียงสนับสนุนจากนักเรียนอีก 2-3 คน““หนูก็อยากเรียนค่ะ” ข้าพเจ้ารวบความความเห็นของเด็กๆและคิดหากลยุทธิ์ให้เด็กสนใจเรียนนวดให้ได้ มันไม่ใช่เรื่องเล็กเสียแล้ว ถึงแม้ข้าพเจ้าจะร่วมงานกับชุมชนมาหลายครั้ง แต่ไม่เลยเคยสักครั้งที่ร่วมงานกับเด็กวัยรุ่นแถมกำลังเป็นวัยวุ่นซะด้วย “ เด็กจะสนใจเราไหมนะ นี่ขนาดยังไม่เริ่มเรียนยัง เจี๊ยวจ๊าวขนาดนี้ เทอมหนึ่งไม่ปวดแย่หรือเรา หลากหลายความคิดประดังเข้ามาในความรู้สึก กริ๊งๆๆๆ.....เสียงออดหมดเวลาเรียนหยุดความคิดข้าพเจ้า “เอาละค่ะ.. วันจันทร์หน้าเราจะเริ่มเรียนกัน ขอให้นักเรียน สวมชุดพละมานะคะ เพื่อสะดวกในการนวด แล้วนำที่นอนและหมอนมาคู่ละ 1 ชุดด้วยนะคะ” ไม่ทันจบคำสั่ง เด็กๆก็หายกันไปหมดแล้ว “อ้าว...ยังไม่กลับหรือคะ” เดี๊ยวก็ได้ค่ะครู หนูช่วยครูเก็บของก่อนนะคะ” ขณะช่วยเก็บเอกสารนุชก็เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่านุชมีพี่น้อง 4 คน ม๊ะมีอาชีพกรีดยางต้องตื่นตั้งแต่ 5 ทุ่ม ไปกรีดยางกับพ่อ และปวดหลังบ่อยคงมาจากการยกถังน้ำยางทุกๆเย็นม๊ะและป๊ะจะใช้นุชและน้องเหยียบให้ แต่ก็ยังปวดอยู่ ข้าพเจ้าให้นุชบอกแม่ให้มารักษาที่แพทย์แผนไทยของโรงพยาบาล และกำชับให้นุชเตือนเพื่อนๆเรื่องการแต่งตัวและเตรียมอุปกรณ์มาวันจันทร์หน้าด้วย
“วันนี้เราจะเริ่มเรียนนวดพื้นฐานขากันนะคะ ครูจะใช้วิธีนับ เพื่อให้พร้อมเพรียงกัน “เอ้า...เริ่มนะคะ จุดแรกใต้เข่า 2นิ้วระหว่างแนวกล้ามเนื้อชดกระดูกหน้าแข้งวางมือเฉียง 45 องศา ใช้หัวแม่มือซ้ายกดท่าคว่ำมือ หายใจเข้าลึกๆ เริ่มกด นับ 1..2..3..4..5..6..7..8..9..10 แล้วค่อยยกมือ เลื่อนไปจุดต่อไปหายใจเข้าลึกๆ เริ่มกด นับ 1..2..3..4..5..6..7..8..9..10 ”
ข้าพเจ้าอธิบายขณะเดินดูนักเรียนแต่ละคู่ “โอ้ย..จักจี้” “ โอ้ย...เจ็บ” “โอ้ยยยย..” เสียงเด็กๆดังผสมเสียงหัวเราะคิกคักๆๆ ในขณะที่นุชและเพื่อนอีกสี่ห้าคนนวดอย่างตั้งใจ “จะทำยังไงกับเด็กที่ไม่ตั้งใจเรียนดี จะตีก็ไม่ได้ ขู่ก็ไม่ได้” ข้าพเจ้าคิดหาวิธีดึงความสนใจเด็กๆจนในที่สุดก็ใช้วิธีสอนทำผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรสลับกับการเรียนนวดจนเทอม ผลการประเมินนักเรียนสามารถนวดและให้คำสัญญาอย่างมั่นเหมาะ ว่าจะกลับไปนวดให้พ่อแม่ ราว 10 กว่า ส่วนคนที่เหลือคงต้องลุ้นกันต่อไป...
วันหนึ่งขณะข้าพเจ้านั่งทำงาน “ครูคะว่างไหม” เสียงนุชดังขึ้นพร้อมกับแทรกประตูห้องเข้ามา พร้อมกับผู้หญิงวัยกลางคน ร่างผอมบาง มือกุมเอวข้างซ้าย หน้าตาไม่ค่อยสดชื่น ดูท่าทางนุชเกรงๆเธอ อยู่ไม่น้อย “นี่น้าสาวหนูค่ะ สองวันก่อนยกกระถางแล้วปวดหลัง หนูนวดให้แล้วเมื่อวาน แต่เห็นน้ายังปวดอยู่เลยชวนมาหาครูค่ะ” “แรงครูกับแรงนุช พอๆกันเลย” น้าพูดขณะที่ข้าพเจ้ากำลังนวดหลัง ข้าพเจ้ายิ้มให้เธอและส่งสายตาให้กำลังใจแก่นุช ” ข้าพเจ้าใช้น้ำหนักมือในการกดจุดแค่ 50 ปอนด์ จะไม่เท่ากันได้งัย ” หลังจากนวดเสร็จข้าพเจ้าสั่งให้นุชกลับไปนวดและประคบสมุนไพรให้น้า วันเว้นวัน จนกว่าจะหาย “ครูคะ น้าหายปวดหลังแล้ว ทีนี้หนูไม่ว่างเลย วันเสาร์นี้หนูต้องไปนวดญาติคนอื่นๆอีก”น้ำเสียงตื่นเต้นและภูมิใจที่ดังมาจากปลายสายทำให้ข้าพเจ้านึกถึงดวงตากลมโตที่ทอประกายสดใสเหมือนนุชยืนอยู่เบื้องหน้าข้าพเจ้า “ ดีแล้วค่ะ เพราะยิ่งเรานวดเยอะ จะทำให้มีประสบการณ์มากขึ้นแล้วได้ช่วยเหลือคนอื่นด้วย ครูภูมิใจในตัวนุชมากเลยจ๊ะ” ข้าพเจ้าชื่นชมนุชอย่างจริงใจ และแผนการหาเครือข่ายสายใยแพทย์แผนไทยผุดขึ้นในใจข้าพเจ้าทันที “อ้อ..มีเรื่องหนึ่ง โรงพยาบาลมีกิจกรรมออกหน่วยแพทย์แผนไทยนุชไปกับครูมั้ย” “ไปค่ะ ” นุชตอบพร้อมกัน “เดี๊ยวหนู จะชวนเพื่อนๆไปด้วย”
หลังจากวันนั้นเด็กๆมักติดสอยห้อยตามข้าพเจ้าไปเวลามีกิจกรรมไม่ว่า จะสอนนวดนวด หรือจัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้ ในกลุ่มเป้าหมายต่างๆเช่น ผู้สูงอายุ อสม ชาวบ้าน หรือกลุ่มเยาวชนที่สนใจด้านการดูแลสุขภาพด้วยวิถีไทย
จากวันนั้นถึงวันนี้ เป็นเวลา 2 ปีแล้วที่นุชและเพื่อนในชุมนุมนวดไทย เข้ามาเป็นเครือข่ายสายใยแพทย์แผนไทยโรงพยาบาลละงู ปีนี้นุชและเพื่อนเรียนม.5 แล้ว และยังมีน้องๆม.ต้นที่สมัครเช้าชุมนุมใหม่อีก 20 คน และเริ่มเรียนนวดฝ่าเท้า ครูฝนซึ่งรับผิดชอบโครงการเล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า เด็กๆมีความคิดว่าช่วยกันสอนแบบสองพี่น้องแลกเปลี่ยนรู้ โดย รุ่นน้องช่วยกันสอนนวดฝ่าเท้าแก่รุ่นพี่ ม.5 และพี่นุชและเพื่อนก็จะสอนนวดไทยแก่น้องๆๆ โดยข้าพเจ้าไม่ต้องไปสอนให้อีกแล้ว นอกจากร่วมกิจกรรมกับชมรมสายใยแพทย์แผนไทยโรงพยาบาลละงูแล้ว เยาวชนกลุ่มนี้ยังนำชื่อเสียงมาสู่โรงเรียนหลายต่อหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการประกวดผลงานสุขภาพ การทำหนั้งสั้นสะท้อนทัศนคติของเยาวชนกับอาชีพหมอนวด รวมทั้งเผยแพร่ความรู้ด้านแพทย์แผนไทยโรงเรียนอื่นอีกด้วย
เรื่องราวของนุชและเพื่อนๆ ทำให้ข้าพเจ้าคิดถึงคำพังเพยที่ว่า”คบเด็กสร้างบ้าน” ไม่ต่างกับข้าพเจ้าซึ่ง ”คบเด็กสร้างงาน” ที่หลายคนมองว่าจะไม่สำเร็จ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป วันนี้บ้านของสายใยรักษ์แพทย์แผนไทย ที่มีรากฐานและโครงสร้างที่แข็งแรงและสวยงาม สืบเนื่องมาจากความตั้งใจอันเต็มเปี่ยมของสมาชิกทุกคน ไม่ว่าจะเป็น พวกเราบุคลากรสาธารณสุข และพลังมวลชนและชุมชนที่เข้มแข็ง
หนูตามเพื่อนมา.....ค่ะ...เลยโยเยกันเล็กน้อย...เวลาเรียน
เอาการทำลูกประคบสมุนไพรมาล่อ...ดูสนุกสนานขึ้น
ออกงานได้แล้ว....ทุกครั้งที่มีกิจกรรมน้องๆจะมีส่วนร่วมเสมอ
พี่สอนน้องทำเกลือผลไม้ไล่ยุง... น้อยไม่ต้องไปดูแลแล้ว
เริ่มเข้าหาผู้ใหญ่...สอนทำน้ำมันไพล..น้อยแค่สังเกตุการณ์
นี่ละค่ะ...โฉมหน้าเจ้าตัวยุ่งทั้งหลาย...ถ่ายหน้าร้านน้อยเอง ป่าวโฆษณาร้านนะคะผู้ใหญ่... ใครผ่านมาแวะดื่มน้ำเย็นๆประคบสมุนไพรแก้ปวดเมื่อยได้นะคะ ยินดีต้อนรับทุกเมื่อ
- บล็อกของ สาวน้อย
- อ่าน 6643 ครั้ง
ความเห็น
ธารน้ำใส
3 ธันวาคม, 2010 - 12:15
Permalink
ดีค่ะพี่น้อย
ดีค่ะพี่น้อย จะได้บ้านหลังใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
e-mail. puangpech_@hotmail.com
สาวน้อย
3 ธันวาคม, 2010 - 12:16
Permalink
น้องหญิง
เราคนอุดมการณ์เดียวกันเนอะ... แพทย์แผนไทย ถ้าไม่สานต่อ...ไม่นานก็จะสูญหายไปเหมือนก่อนๆๆ
ชีวืตที่เพียงพอ..
ธารน้ำใส
3 ธันวาคม, 2010 - 12:32
Permalink
มีประชุมของสมาคมแพทย์ผสมผสานไ
มีประชุมของสมาคมแพทย์ผสมผสานไทย พี่น้อยไปมั้ยคะ หญิงไปค่ะ วันที่10-12
e-mail. puangpech_@hotmail.com
สาวน้อย
3 ธันวาคม, 2010 - 12:34
Permalink
ไม่ได้ไปจ้า น้องหญิง
รพ. รับประเมิน Ha อดเที่ยวเลยช่วงนี้
ชีวืตที่เพียงพอ..
ธารน้ำใส
3 ธันวาคม, 2010 - 12:43
Permalink
อาทิตย์ที่แล้วไปประชุม
อาทิตย์ที่แล้วไปประชุม สปสช.ที่ลีการ์เด้น อาทิตย์หน้าไปประชุมการตรวจรักษาโรคทางคลินิกที่ปากเกร็ด อาทิตย์ถัดไปประชุมHAที่เขื่อนเชี่ยวหลานค่ะ ช่วงนี้เดินสายบ่อย อิอิ เดินทางบ่อยพอๆกับซุปเปอร์สตาร์เลยค่ะ
e-mail. puangpech_@hotmail.com
หน้า