เมื่อร่างกายสึกหรอ

 อุทาหรณ์สอนไว้ให้หวนคิด

 เรื่องมีอยู่ว่า ผมมีอาการปวดต้นขาแล้วปวดร้าวลงไปที่เท้า จนเท้าชา ก็ยังไม่คิดเฉลียวใจ

 คิดแต่ว่าเมื่อก่อนก็เคยเป็นเดี๋ยวก็หายเองไม่เป็นอะไรมากหรอก พอ 2วันก็แล้ว 3 วันก็แล้ว

 อาการยังเป็นเหมือนเดิม ชักยังไงแล้วซิ  เคยไปหาหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งก็บอกว่ากล้าม

 เนื้อขาอักเสบให้ยามากิน พร้อมยาคลายกล้ามเนื้อและสเปรย์พ่น ระงับปวด คงน่าจะเป็นเหมือน

 เดิมน่าไม่มีอะไรที่รุนแรง  ปวดจนทนไม่ไหว ลาหัวหน้าเสร็จไปหาหมอที่คลีนิครักษาเกี่ยวกับ

 กระดูกและกล้ามเนื้อ ลงทะเบียนตอนเช้าได้คิวตอนเที่ยง ช่วงที่รอคิวก็หายามานวดจับเส้น

 เผื่อจะคลายหายปวดได้บ้าง งดทำงานทุกอย่าง พอถึงเวลาไปตามนัดตามคิว พบหมอถามอาการ

 เสร็จแจ้งให้เจ้าหน้าที่พาไป เอ็กซเรย์ นำผลเอ็กซเรย์มาให้หมอดู ปรากฎว่ากระดูกสันหลังอักเสบ

 และกระดูกทับเส้น จะต้องฉีดยาแล้วก็ทำกายภาพบำบัดโดยการดึงหลัง อย่างน้อยประมาณ 7 วัน

 ถึงจะหยุดทำได้ แต่หลังจากทำกายภาพ บำบัดแล้วทำไม ถึงปวดมากกว่าเดิม พอวันที่ 2 ไปทำ

 กายภาพจึงถามเจ้าหน้าที่ว่าทำไมปวดมากกว่าเดิม เจ้าหน้าบอกว่าถ้าปวดก็ให้หยุดมาสัก วัน 2

 วัน คงจะอักเสบแล้วค่อยมาทำใหม่ จึงโทรไปหาป้าคนรู้จัก ก็เคยเป็น ป้าแนะนำให้ไปหาหมอจับ

 เส้น ป้ากำลังรักษาอยู่ จึงไปตามที่ป้าบอก อาการปวดลดน้อยลงแต่เดิม ยังไม่หาย ที่บ้านหมอ

 เจอคนไข้ที่รอคิว เข้าจับเส้นเป็นจำนวนมากมาจากหลายๆจังหวัด ได้คุยกัน เป็นผลมาจากการ

 เมื่อก่อนยกของหนัก แล้วสะสมมาเรื่อยๆ นานๆเข้า มีอาการเตือนบ้างไม่มีอาการเตือนบ้าง

 สุดท้ายไม่เจ็บไม่หาหมอ  ที่เล่ามาเพื่อเตือนทุกๆท่านที่ยังทำงานหนักอยู่ ถ้ายังขืนทำอาจจะ

 ต้องผ่าตัด  เลยขอโอกาส ลาพักจากบ้านสวนฯ ชั่วคราว แล้วจะเข้ามาทักบ้าง

  เนื่องจากนั่งนานไม่ได้    สวัสดี