Kawah Ijen Crater Java

หมวดหมู่ของบล็อก: 

Blog ที่แล้วเราไปเที่ยวชวาตะวันออกกันแล้ว เป็นภาคโบราณสถาน พราบานัน - มหาเจดีย์บุโรพุทโธ แล้วต่อด้วย ภูเขาไฟโบรโม ที่มีข่าวพ่นเถ้าถ่านไปเมื่อเร็วๆ นี้ ท่านใดต้องการอ่าน blog เก่าเชิญที่นี่นะคะ ชวาดินแดนแห่งภูเขาไฟ
วันนี้เป็นตอนสั้นๆ เราไปดูเขาทำเหมืองกำมะถัน เป็นภูเขาไฟเหมือนกัน ดูรูปกันก่อนค่ะ

การทำเหมืองกำมะถันแบบนี้อาจจะมีที่อื่นอีก แต่ที่นี่เรานิยมไปกัน ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ เขาก็เปิดให้เข้าไปได้ ใช้เวลาในการเดินประมาณชั่วโมงครึ่ง จะถึงตัวปากปล่อง (Crater)บรรยากาศก็สบายๆ ภูมิประเทศจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เมื่อใกล้ถึงปากปล่องคืออัตคัตต้นไม้สีเขียวค่ะ คงเป็นเพราะความร้อนและกรดกำมะถัน หรืออาจจะโดนเปลวเพลิงจากใต้พื้นโลกเผาเสียหายก็เป็นได้ เมื่อถึงปากปล่องแล้ว ใครจะลงไปหรือไม่ลงไป ก็ตัดสินใจกันเอาเอง

     จำได้ว่ามีสารคดีการทำเหมืองกำมะถันที่นี่ด้วย แต่สัมผัสจริงๆ แล้วคนงานน่าสงสารกว่าในสารคดี ไม่เห็นคนงานสักคนเดียวมีผ้าปิดจมูก ส่วนของพวกเราที่ไป เตรียมหน้ากากไปด้วย แต่ไม่ถึงขนาดกันสารพิษเหมือนในหนัง เป็นหน้ากากกรองขนาด 0.3 ไมครอน  แทบเอาไม่อยู่เหมือนกัน Slowlife ลงไปได้สักระยะหนึ่ง โดนลมพัดแก๊สกำมะถันไปสามรอบ ก็ต้องรีบเดินขึ้นมา เดี๋ยวหมดลมหายใจก่อนจะขึ้นถึงปากปล่อง เพื่อนลงไปถึงตรงที่มีควัน ขึ้นมาพร้อมประสบการณ์แปลกใหม่ เขาบอกว่า แทบจะเอาหัวมุดลงดินเป็นนกกระจอกเทศ เวลาที่ลมพัดหวล เขาใช้ผ้าเช็ดหน้าผสมน้ำให้เปียกและปิดจมูก ที่เล่าให้ฟังไม่ใช่จะอวดเก่งนะคะ แต่อยากจะบอกว่า ทุกคนต้องเข้าใจถึงขีดความสามารถของตัวเอง อย่ากลัวเกินไปจนขลาด และพลาดประสบการณ์ที่น่าเสียดาย

กลับมากรุงเทพซักเสื้อผ้าเก็บไปตั้งนานแล้ว เอามาใส่อีกครั้งกลิ่นกำมะถันยังติดอยู่ที่เสื้อ เวลานี้ไปเที่ยวน้ำพุร้อนทีไร...บอกได้คำเดียวว่ากลิ่นกำมะถันน้ำพุร้อน จิ๊บๆ ไม่มีที่ไหนแรงเท่าที่ Kawah Ijen ....

คราวหน้าจะพานั่งเรือเฟอรรี่ข้ามช่องแคบไปบาหลีดินแดนแห่งเทพเจ้ากันค่ะ

Blog อื่นๆที่เกี่ยวข้อง

เวียดนามครั้งเดียวไม่เคยพอ
พม่ากับศรัทธาที่ยิ่งใหญ่
สวรรค์สุดขอบฟ้า แชงกรีล่าในใจคุณ ตอนที่ 1
สวรรค์สุดขอบฟ้า แชงกรีล่าในใจคุณ ตอนที่ 2
นมัสเตเนปาล ภาคในเมือง
Langtang Trek Nepal
U-Ben Bridge Myanmar


ความเห็น

เคยอ่านเจอว่ากำมะถัน ผสมน้ำมันมะพร้าวทาแก้โรคสะเก็ดเงินได้...เคยแนะนำให้คนไข้ลองใช้ แต่บังเอิญเขาย้ายไปที่อื่นไม่ได้ติดต่อเลยไม่ทราบผลเหมือนกันค่ะ

ชีวืตที่เพียงพอ..

ดีใจมากที่ เจอ Slowlife ไม่นึกมาก่อน เลยว่า อินโดนีเชีย จะ สวยแบบนี้ เดินทางในแถบ เอเชีย ถูก ด้วย แต่ ลังเลใจมานานเพราะ ความที่ไม่มี ความรู้ พอเห็น คุณ ถ่ายภาพมาอยากไปทัน ทีแชงกรี ร่า อยากไปมานานแล้ว เวียดนาน ตอน เหนือ ด้วย ตอนนี้ มี อินโดนี เซีย อีก ยังไง คอยติดตามครับ ได้ความรู้ กว้างไกล มากเลย อ่านหนังสือ ไม่เท่าเห็นจากที่คนถ่ายมา เสีย ดายที่ คุณ ถ่ายรูป เก่ง ถ้าได้เห็น จากคนที่ถ่ายรูปไม่เก่ง ถ่ายแล้ว สวยนี่ คงไม่ช่างใจเลย อืม


Slowlife ครับ เวลาคุณ ท่องเที่ยว คุณ จัด ทริปเอง ใช่หรือ เปล่า ครับ ขอชื่นชม ทั้ง ทำงานส่วนตัว และทั้ง วางแผนเดินทาง เลย แน่นอนว่ากลุ่มที่ไปด้วย กัน ต้อง มีความสัมพันธื ที่ดีต่อ กัน มากครับ ผมนั้น ไปไหน กับ ใครเป็น กลุ่มไม่ได้ นอกจาก สนิท จริงๆ เดินทาง ไกลเป็น กลุ่ม จะได้ ประโยชน์ มากกว่าท้งเรื่อง ราคา และ ความปลอดภัย ผมนั้นถ้าเดิน ทางใช้เวลาเป็น เดือน จะไปกัน แค่สองคน แล้วไปหา พวก เอา ข้าง หน้า ติดขัดบ้าง สนุกบ้าง แปลกๆ ดี ปีนี้ต้อง มี เดินทางเหมือนกัน ทั้ง ทำธุระ และ แอบเที่ยว ไปกันสองคนตามเคย อยากไปซัก สองเดือน แต่หาคนเฝ้าบ้านเฝ้าสวนไม่ได้ ไม่อยากเสียเงิน จ้างใคร ด้วย ทำแค่สวนครัวเล็กๆยัง เดินทางลำบากใจเลย ดีที่ไม่มี ที่ใหญ่กว่านี้ คงอยู่ติดบ้านเลย ยังไงก็ ตามผม ถ่ายรุป ไม่เก่ง เท่าไหร่ยังไง เจอ อะไร ดีๆ จะ เก็บ มาฝากครับ

ขอบคุณที่ให้กำลังใจว่าถ่ายรูปเก่ง แต่จะบอกว่าจริงๆ แล้ว ภาพธรรมชาติที่ถ่ายมา สวยด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว เรื่องถ่ายรูปนี่ถ้าเป็นหนังสือ Slowlife ได้แค่เปิดหน้าบทนำเท่านั้นเองค่ะ อย่างที่แชงกรีล่า วิวสวยถ่ายมุมไหนก็สวย ถ้าเห็นของเพื่อนๆ ที่ไปด้วยกัน จะหยดย้อยกว่านี้ อลังการงานสร้างจนอยากจะแพ็คกระเป๋าไปดูด้วยตาตัวเอง อันนี้ไม่ได้โม้นะคะ


สำหรับเรื่องโปรแกรมนั้นเราจัดเอง แต่เราได้ Guide จากเวปไซด์และโปรแกรมทัวร์ต่างๆ มาประยุกต์ให้เข้ากับของเรา เรื่องตารางรถไฟ รถโดยสารเราหาได้จากเวปไซด์ท่องเที่ยวต่างๆ รวมทั้งวิธีการเดินทาง กลเม็ดการโกงของเจ้าถิ่น นักท่องเที่ยวที่ไปมาแล้วก็จะมาบอกไว้ให้เราหาอ่านเป็นลู่ทาง แต่บางทีเราก็โดนเหมือนกัน เป็นสีสรรของการเดินทาง backpack


การท่องเที่ยวแบบ backpack มีเสน่ห์ในตัวเองตั้งแต่เริ่มคิดว่าเราจะไปไหน กำหนดวัน หาโปรแกรม จองตั๋วเครื่องบิน การไปเที่ยวแบบนี้เพื่อนก็สำคัญค่ะ ต้องเป็นคนที่รู้ใจกันระดับหนึ่ง แต่ Slowlife เที่ยวมานานก็เลยมีกลุ่มเพื่อนที่คอเดียวกัน บางครั้งในแต่ละทริปก็จะมีคนใหม่ไปแจมสักคนสองคนอาจเป็นเพื่อนของเพื่อน เพื่อให้โอกาสคนอื่นๆ ได้ลองในสิ่งที่คิดว่าตัวเองชอบ มันเป็นการเทรนคนให้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ชอบใจก็ไปด้วยกันอีก ไม่ชอบใจก็ไม่ต้องไป หากลุ่มใหม่ต่อไป ถ้าเราไม่ชอบใจเค้าคิดว่าไปกันไม่ได้คราวต่อไปเราก็ไม่ชวนอีก ไม่ต้องมานั่งเสียอารมณ์กันให้วุ่นวาย แต่ก็จะรู้จักกันในวงการ


เพื่อนๆ จะผลัดเปลี่ยนสลับมาเป็นเพื่อนเดินทางกันตามวาระและโอกาสของแต่ละคนจะอำนวย ทุกคนต้องเสียสละ ช่วยกันหาข้อมูล ใครเป็นตัวตั้งตัวตีก็ทำการบ้านหนักหน่อย บางที่ต้องติดต่อกับเอเจนซี่ต่างประเทศ ต่อรองราคา ส่งโปรแกรมไปให้เอเจนซี่ดู ปรับโปรแกรม ฯลฯ แต่ก็เป็นประสบการณ์ให้เราได้ใช้เทคโนโลยี และการเข้าถึงข้อมูล  


บอกตรงๆ ว่า Slowlife อยากให้คนไทยโดยเฉพาะเด็กไทย ออกเดินทางกันมากๆ เหมือนฝรั่งชาวต่างชาติ ที่เรามักพบเห็น พักหลังๆ มานี้ เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ จะพบเด็กวัยรุ่นญี่ปุ่นหรือเด็กวัยรุ่นจีน backpack เดินทางกันมากขึ้นทั้งๆที่ภาษาอังกฤษเขาก็ไม่ได้ดีกว่าเด็กไทย แต่สิ่งที่เขามีคือความกล้าที่จะออกเดินทาง กล้าที่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้า กล้าที่จะก้าวออกไปจากอกพ่อแม่


 ...บ่นซะเยอะนะคะ คุยกันสนุกๆ ละกัน 

Slowlife, ต้องยอมรับว่าการท่องเที่ยวนั้นไม่ใช่ แค่ภาษาที่จำเป็น ที่สำคัญอย่างยิ่งเลยคือค่าใช้จ่าย เด็กวัยรุ่นที่ต้องอาศัย รายได้จากคุณพ่อคุณ แม่คงต้องลำบากหน่อย หรือถ้าเป็น คนที่ใช้จ่ายสบายหน่อย คุณ พ่อคุณแม่ก็ ห่วงลูก ส่งไปเรียน แค่ไม่กีอาทิตย์ ยังตามมาดู แบคแพคกิ้ง นั้น สนุกจริงครับ ผมก็ชอบ แต่มาเริ่ม เอาหลังจาก ท่ได้ภาษาบ้างแล้ว ทำงานเก็บเงิน แล้วก็ เดินทาง สนุกดี แต่ก็ ยังมีข้อจำกัดเรื่อง พาสปอรต์ ต้องยอมรับว่า ถือพาสปอร์ของไทย เดิน ทางเข้าประเทศอื่น ลำบาก ยกเว้นในเขต อาเชียนด้วยกัน นี่เป็นอีกเหตุผลที่ผมใช้ พาสปอตร์สองใบ เด็กวัยรุ่น ญี่ปุ่น เกาหลี นั้น เดินทางในเอเชียและ ทั่วโลก สบายเพราะ พาสปอรต์ ของเขาใช้วีซ่า ทำผ่านอินเตอร์เน็ตได้เลย เด็กวันรุ่น ญี่ปุ่น เกาหลี นั้นเริ่ม ทำงานก่อน ออก ท่องเที่ยว เป็นส่วนใหญ่ น้อยรายมากที่จะ มี คุณพ่อคุณ แม่ส่ง เงิน เมื่อวีซ่าของ่าย มีเงินในกระเป๋า ท่องเที่ยวต่างประเทศไม่อยากเลย ประ กอบกับ เที่ยวต่างประ เทศถูกกว่าในบ้านเขาเองด้วย ดังตัวอย่างที่นี่ ถ้าผมไป เที่ยวซิดนีย์หนึ่ง อาทิตย์ ผมกลับ เมืองไทยได้เป็นเดือนและท่องเที่ยวแบบ นอนโรงแรมสีดาว ไม่อยู่กับ ญาติซื้ออาหารทาน ตามร้านไม่แพง ได้สบายๆ


เรื่อง ที่กล่าวมา คุณ คงรู้ บ้างแล้ว ผมเดินทางรอบทวีป ที่ผมอยู่ สมัยก่อนหลังจากเรียนจบ เป็น ประชากรที่นี้แล้ว เที่ยวใช่ วิธีค่ำไหน นอนนั้น เงิน หมด ทำงามตามฟามร์ สะสมมี เงิน เยอะ เดินทางต่อ สมัย ก่อน เที่ยวที่นี่แบบนี้นิยมกันมาก โดยเฉาะ วัยรุ่นยุโรป งานก็หาง่าย ใครๆ ก็ ต้อนรับ ผมสองคนใช้ เวลา เกือบปี กิน อยู่ แบบนั้น ถึงได้รัก กันมาก ตอนนี้ท่องเที่ยว ไปด้วยทำงาน ไปด้วย แต่ต่างกันที่ทำเป็น อาชีพ มี เอเจนท์ คนไทย เอเจนท์ คนจีน หาคนมาทำงาน แบบนี้กินค่าหัว ส่วนที่เป็น แบคแพคกิ้งจริงๆ น้อยลง ขนาดเด็กไทยที่มาเรียนก็ โดนหลอกไปทำงาน ฟรามได้ค่าแรง ถูกๆ คนชาติเดี๋ยวกัน เอาเปรียบกันเองในต่างประเทศ เห็น แล้ว เจ็บใจ ครับ กลับไป สมัย ก่อน สนุกมาก สมัย นี้ ไม่มี แบบนั้น แล้ว ไปไหน รัก สบาย ทำงานหนักสะสมวัน หยุด แล้ว ก็ หายไปเป็น เดือน ตอนนี้เที่ยว ลำบาก อีกครั้ง อย่างที่ทราบ เพราะ ต้อง ผ่อน บ้าน ดู แล สวน ถ้ามี คนเฝ้า บ้านเฝ้า สวนให้เหมือน ครั้งก่อน ถึงจะเดินทางได้ นาน


Slowlife อาจสะสัยว่าทำไมหายไปได้เป็น เดือนสอง เดือน ที่นี่กฎหมายให้พักร้อน แบบจ่ายเงิน สี อาทิตย์ ครับ แต่ส่วนใหญ่ให้หก ที่ทำงานเก่าให้หก ปีนี้ไม่ใช้ สะสมได้ เราเลยเที่ยวกัน สบายไม่ห่วงเรื่อง เงิน


ว้าว เขียนไป เขียนมา เดี๋ยวจะออกนอกเรื่องไปใหญ่ จะเริ่มยังไงต่อ อื่ม จะบอกว่า พอ ผมถือ พาสปอตร์ สองใบแล้ว ที่นี้เที่ยวที่ไหน สบายเลย ขอ วีซ่าทาง อินเตอร์ เน็ต เอา สมัย ก่อน เดี๋ยว นี้ ซื้อ ตั๋ว เครื่องบิน เขาทำให้ เสร็จเลยสบายมาก แฟนนั้น พาสปอรต์เขา สบายไปไหน ไม่ต้องขอวีซ่าท่องเที่ยว


เรื่อง วีซ่าท่อง เที่ยวนั้น ไม่ว่ายังไง ก็ ต้อง ขอ ที่ บ้านผม เดินทางก็ ต้องทำวีซ่า บางประเทศให้ ที ละ สามเดือน หรือ สิบปี กฎหมายแตกต่างกันไป พี่ชายผม จะ รู้ เยอะ เพราะ เป็น คนพาที่บ้านเดินทาง ผมนั้น สบายไม่ต้อง กังวนเรื่องวีซ่าท่องเที่ยว แต่ก็ ไม่ดี ทำให้ไม่มีข้อมูล เรื่อง การขอวีซ่ามาก  แต่ที่ปวดหัว คือ เวลาญาติ ผม ไป พบ ญาติ แฟน ที่ ประ เทศ เขา ทำ เรื่อง วุ่นว่าย ต้อง เสนอ เอกสารเยอะ และ ต้อง ยอมรับ เรื่อง แสดงเงินในธนาคาร รวมถ฿ง จด หมายเชิญ จาก ญาติ แฟนผม หนักใจมาก โชคดี ที่ญาติๆ ช่วยกัน เลยไม่ติดขัด แต่พอ ทางญาติแฟน มางานแต่งงานผม ที่เมืองไทย ยก กันมาเท่าไหร่ ไม่ต้อง ขอวีซ่าเลย ทำ เสร็จ ตั้ง แต่ซื้อ ตั๋ว


นี่และ ครับ คือ ความ ขุ่นค้องใจ แต่เรา บ่นไป ก็ ไม่มี อะไรดีขึ้น มา เหตุ ผลนี้เอง นักเรียนไทยที่ชอบ เดินทาง อยากเปลี่ยน พาสปอตร กันเยะ และ ก็ นำมาซึง ขบวนการ ลอกลวงเรือง เปลียนสัญชาติ ที่ไหนที่ไหน ก็ มี ทั้นนั้น มิตรฉาชีฟ ทั้ง คนชาติ เดียว กัน คนต่างชาติ หลอก ชาติ อื่น ท้องถิ่ง หลอก นักท่องเที่ยว ที่ไหนๆ ก็ มี แต่ที่นี้ดี หน่อย ที่ระบบ การท่อง เทียวแบบพึ่งตัวเองนั้น เข้าถึงง่าย ปลอดภัย แบะ โปร่งใส ตัวอย่างง่ายๆ นะครับ โดยเฉพาะที่นี่ จะ มี ศุนย์ กลางท่อง เที่ยว ทุก อำเถอ ที่ไม่ใช่ เขต เมืองหลวงนะครับ ศูนย์ เหล่านี้เป็น ของ รัฐ บาล บริการ ดีมาก จองได้ ทุกอย่าง ที่พัก รถ ร้านอาหาร ข้อมูล ท่องเที่ยว และ ข้อมูล ขอฟรี หลายๆ ประเทศ ก็ เป็น แบบนี้ แต่ที่พิเศษ ตรงที บริการฟรี และ อัธยาศัยดีมาก ผูดภาษาไม่ได้ ไม่มี ปัญหา เขามีวิธี สื่อสาร เราจองกับ หรือ ได้ข้อมูลจาก รัฐบาลเราไม่ต้อง กลัวมากเรื่อง การโกง ตอนนี้ ค่าเงิน ที่นี่สูง นักท่อง เที่ยว น้อยลง การ บริการ ไม่ได้ แย่ลง มี มาตรฐานเดิม ประเทศ ในเขต เอเชียใต้ เอเชียตะวันตก ไม่ค่อยมี แหล่ง ข้อมูล ของท้องถิ่น ทำให้ คนขี้ เกียจแบบผม เที่ยว ลำบาก อย่าที่ คุณ ว่า เราต้อง หา ข้อมูล และ เตรียมตัว ดีๆ ถึง จะ เป็น ประ เทศที่ส่ง เสริม การท่องเที่ยว ดีๆ มีข้อมูล ดีๆ และ มี ความพร้อม ไว้ ไม่เสีย หาย ครับ

จริงๆ แล้ว Slolwlife ไม่มีเงินมากพอที่จะไปเที่ยวทวีปอื่นๆ หรอกค่ะ แต่พอทราบถึงความยุ่งยากในการขอเข้าประเทศเพราะเราเป็นคนไทย ถือพาสปอร์ตไทย ชาติอื่นๆ ที่เจริญมากกว่ามักตั้งข้อกำหนดมากมายเพื่อนสกรีนคนที่จะเข้าประเทศ ก็เป็นธรรมดา เขากลัวว่านักท่องเที่ยวจะแปลงร่างเป็ยพวกยิปซี ไม่ยอมกลับแอบเข้าเมืองทำงานผิดกฏหมาย รวมถึงการค้ามนุษย์ ยาเสพติด ฯลฯ


ก็ฝันไว้ว่า คงมีโอกาสได้เดินทางออกนอกทวีปเอเซียสักวัน....

Slowlife, ถ้าเรารู้จัก กันมากว่า นี้ เวลาผม ไม่อยู่ ถ้า คุณ และ เพื่อน ไม่ถือ มาเอยู่บ้านผมไป เที่ยวไป ที่นี่ได้ก็นะครับ ประหยัด ค่า โรงแรม ทำอาหารได้ด้วย ดูแล ต้นไม้ ให้ผม ก็ พอ


 :evil-smile:

เหมือนได้ไปเที่ยวด้วยเลยค่ะ ประหยัดอีกต่างหาก

 

 

msn:lekonshore@hotmail.com

ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร

ก็ดีใจ..ที่มีคนได้ประโยชน์จาก blog ที่เราเขียนนะคะ

ได้อ่านบล็อกของคุณ Slowlife  แล้วเหมือนได้ไปเอง...ป้าเป็นคนชอบเดินทางไม่ชอบอยู่กับที่แต่ติดขัดอยู่ที่งบประมาณเลยได้เที่ยวแต่ในประเทศ...คิดหาทางออกนอกประเทศหลายครั้งแต่ภาระและหน้าที่มากมายเหลือเกิน  ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้มีชีวิตแบบนี้บ้าง....ยังไงเสียก็ของบอกว่าเขียนบล๊อกให้อ่านบ่อยๆนะคะจะค่อยติดตาม...เดินทางบ่อยๆดูแลสุขภาพด้วยคะ

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

มีประโยคหนึ่งบอกว่า "สัมภาระที่หนักอึ้งสำหรับคนเดินทาง คือกระเป๋าตังค์ที่ว่างเปล่า" เป็นจริงเสมอค่ะ ได้อย่างก็เสียอย่างนะคะ จะไปบอกว่าให้พร้อมก่อนค่อยทำอย่างโน้น อย่างนี้ ต้องถามตัวเองว่า "พร้อมคืออะไร"
     ตอนเด็ก ...อยากเที่ยว มีแรงมากมาย สุขภาพแข็งแรง แต่ไม่มีเงิน ยังขอพ่อแม่อยู่
     ตอนโต.......อยากเที่ยว ยังมีแรง สุขภาพแข็งแรง มีเงิน แต่ไม่มีเวลาจะเที่ยวต้องทำงาน
     ตอนอายุมาก..อยากเที่ยว  มีเงิน มีเวลา แต่สุขภาพไม่ดีไม่เหมาะกับการเดินทาง


สรุปว่า...พร้อมของเราคืออะไร...โจทย์คือว่า "เราจะทำอย่างไร ให้ทุกอย่างมันลงตัว พอดี พอดี"


บริหาร เงิน / เวลา /สุขภาพ สำหรับการทำงาน ดูแลครอบครัว ไปทำบุญ ไปเที่ยว ถ้าเราบริหารได้ เราก็ตอบโจทย์ได้นะคะ


หน้า