ใบจามจุรี(ก้ามปู) มีค่ามาก

  ที่ราชภัฏภูเก็ตก็เช่นกัน  มีสวนต้นไม้  เอาถุงมาให้คนงานประจำอาคารเก็บใบจามจึรี เช่นกัน  โดยให้ค่าจ้าง  เขาเอาไปทำดินปลูกขาย

  ส่วนผม ตอนนี้ว่างงาน  เช้าๆ  ถือไม้กวาด  ขี่มอเตอร์ไวด์  ไปจอดโคนต้น  และกวาดเอาใบ  ได้เช้าละ 1 ถุงใหญ่  ทุกด้วยมอเตอร์ไวด์กลับบ้าน  หมักไว้ใช้

คุณ นนท์ ครับ  บ้านผมก็ไม่มี  แต่ผมไปกวาดจากบริเวณใกล้เคียงที่มีต้นจามจุรี

ผมคิดว่าคุณนนท์ก็คง สามารถทำได้เช่นเดียวกับผม

  ส่วนที่ถามว่าใช้ใบไม้อื่นได้หรือเปล่า

  ตอบว่า ใบไม้แทบทุกชนิดสามารถใช้ได้ครับ 

  ถ้าใช้วิธีไปเก็บใบไม้มาหมักตามบ้าน ขอแนะนำว่าควรเป็นพืชใบเล็กๆ  เช่น  มะขาม  กระถิน  หางนกยุง  ฯลฯ  เพราะใบเล็กๆ  เก็บกวาด บรรจุถุง สะดวก  หมักได้เร็ว  หรืออาจผสมกับดินปลูกได้เลย  และคลุกเคล้าเข้ากันได้ดี  

   ถ้าเป็นพืชใบใหญ่ ไม่แนะนำให้เก็บมาใช้   เพราะไม่สะดวกในการเก็บกวาด บรรจุถุง  เ้ปลืองพื้นที่เก็บ  หมักช้ากว่า  แต่ถ้าหมักในไร่ในสวน ทั้งใบเล็กใบใหญ่ เหมาะทั้งนั้น

คุณ แก้ว กุ๊ก กิ๊ก ครับ

     ตามที่ราชการ หรือสถาบันการศึกษา ในกรุงเทพ  หลายแห่ง  หรือ สวนลุม สวนสาธารณะ  มีต้นจามจุรี ต้นโตๆ มากพอควร  ถ้าเราต้องการ  ผมคิดว่าเอาถุงพลาสติกไปเก็บตามโคนต้น ได้ครับ  ขออนุญาตจากคนดูแลสถานที่ก่อน 

    เขาคงไม่หวง เพราะเป็นการช่วยกวาดใบไม้แห้งให่้เขาด้วย

    หรือไม่ ก็นำถุงไปให้นักการทีั่ทำความสะอาดสถานที่  ให้เขาเก็บเฉพาะใบไว้  แล้วให้ค่าขนมเขาบ้าง  ก็ย่อมได้

คุณทรายครับ  ใบที่เก็บหมักได้ที่แล้ว  ก็บรรจุถุง  แบบเดียวกับดินผสม  ที่เขาขาย 3-4 ถุง 100 บาท  จะรักษาแร่ธาตุไม่ให้สูญหายเร็วเกินไป

คุณ สายพิน  ครับ

  วิธีที่คุณสายพิณเก็บใบไม้  ทำให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเอง และ คนเก็บขยะด้วยครับ

  ผมมักพูดกับนักศึกษาเสมอว่า  เวลากวาดใบไม้ที่ร่วงหล่นลงพื้น  แล้วให้นำไปกองในถัง ในถุง  ก็เหนื่อยเท่ากับเอาไปเทใส่ถังขยะนั้นแหละ  แต่ได้ประโยชน์มากกว่า คือ

 1.  เราได้ปุ๋ยหมัก  ประหยัดเงิน  ต้นไม้งามขึ้น

 2.  คนเก็บขยะไม่ด่าเราลับหลัง

  วันหลังถ้ามีมูลสัตว์  ก็โรยทับลงไปด้วยซิครับ  ทั้งดิน ทั้งมุลสัตว์  เพิ่มแร่ธาตุด้วย