จากเกาะชวาสู่บาหลี
ตอนนี้คงเป็นตอนสุดท้ายของประเทศอินโดนีเซีย แน่นอนว่าอินโดนีเซียไม่ได้มีดีแค่เกาะชวาและบาหลี ยังมีอีกหลายๆ ที่ที่น่าสนใจ แต่โอกาสของเรามีเท่านี้ ถ้ามีโอกาสเราอาจะได้ไปสัมผัสดินแดนที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์นี้อีกครั้ง ...ไปค่ะ...ไปบาหลีกัน เผื่อใครจะได้ไปสัมผัส ดอกแก้ว - การะบุหนิง
ขอบคุณแผนที่จาก oath ...
จากชวาตะวันออก เราใช้เรือเฟอร์รี่ข้ามจากเมือง Ketapan มายัง Gilemanuk ของบาหลี ค้างคืนที่ Lovina Beach ตอนเช้าซื้อทัวร์ไปดูปลาโลมา ก่อนจะย้ายตัวเองเข้าไปย่าน Ubud ซึ่งเป็นย่านที่นักท่องเที่ยวนิยมไปพักกัน เพราะหาข้อมูล ท่องเที่ยว ที่พัก อาหาร ได้สะดวก พอเข้าเขตใจกลางบาหลี เราจะเห็นภาพปูนปั้น อรชุนทรงรถศึกอยู่กลางสี่แยก สวยงามมาก...
( *** Slowlife เข้าใจเอาเองว่าเป็นอรชุน ตอนที่อรชุนออกรบ ในมหาภารตะ ที่่บอกว่า "รบเถิด อรชุน...หากท่านตายในสนามรบ สวรรค์ยังเปิดรับท่านอยู่ ... ผิดถูก ต้องขออภัย ห้ามนำไปอ้างอิงไม่ว่ากรณีใดๆ นะคะ คิๆๆๆ )
ใครๆ ก็อยากไปบาหลี ....บาหลีเป็นดินแดนสวยงาม ชาวบาหลีนับถือศาสนาฮินดู แต่ไม่น่ากลัวเหมือนชาวเนปาล ตามศาสนสถานต่างๆ ก็ไม่น่ากลัวเท่าที่เนปาล บาหลีสะอาดสะอ้านกว่า นิยมบูชาเทพเจ้าเยอะมาก เช้าตื่นขึ้นมาจะต้องทำพิธีเซ่นไหว้ ภายในบ้าน หน้าประตู ยุ้งข้าว ฯลฯ Slowlife ชอบบาหลีนะคะ...สถาปัตยกรรมก็แปลกตา รวมถึงพิธีกรรมต่างๆ ตามวัดส่วนมากจะไม่ให้คนต่างศาสนาเข้าไปภายใน แต่บางวัดก็ให้เราไปสังเกตการณ์พิธีกรรมได้ อันนี้ต้องดูเป็นแห่งๆ ไป ดูรูปกันก่อนนะคะ บางแห่งจะเห็นว่าซ้ำกันหลายภาพ ถ้าใครที่ชอบถ่ายรูปจะว่า...มันสวย...มุมไหนก็สวย ยิ่งแดดดีๆ...ถ่ายกันได้เรื่อยๆ
มีการแสดงที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดคือ การแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับรามเกียรติ์ หรือ รามยณะ ก็คัดมาเป็นตอนๆ Kacak Dance ก็ใช่ นอกจากนั้นก็มีการแสดงบารอง (Barong & Rangda) ใครไปบาหลี ตอนเย็นๆ กลับจากเที่ยวแล้วก็แต่งตัวสวยๆ ไปดินเนอร์แล้วไปดูการแสดงประเภทนี้กัน เหมือนกับเราไปเวียดนามแล้วต้องไปดู water puppet นั่นแหละค่ะ ทางการเค้าโปรโมท ไว้ในการท่องเที่ยว ขอแอบบ่นว่า ...ของเราน่ะค่ะ หุ่นละครเล็ก ทำท่าจะเจ๊งเอาเพราะเราไม่ค่อยสนับสนุนมั้งคะ นักท่องเที่ยวรู้จักคาบาเร่โชว์ที่พัทยา ที่ภูเก็ต มากกว่าหุ่นละครโจหลุยส์ซะอีก อย่างนี้แล้วจะโทษใคร
เอ...Slowlife จะพิมพ์อะไรเกี่ยวกับบาหลีอีก นึกไม่ออกล่ะคะ แค่นี้ก่อนดีกว่านะคะ ง่วงนอน ฝันดีค่ะ
----------------------------------------------------------
Slowlife เคยอ่าน "มหาภารตะ" และ "รามยณะ" แต่ก็นานแล้ว จำได้บ้างไม่ได้บ้าง ทั้งสองก็มีเนื้อหามากมาย จนเรียกกันว่าเป็น "มหากาพย์" ก่อนนอนก็ค้นๆ เรื่องย่อๆ คัดเอาแต่พอให้ทราบว่าแต่ละเรื่องคืออะไร ต่างกันตรงไหน ใครสนใจก็หาอ่านฉบับเต็มประดับความรู้
ทั้ง "มหาภารตะ" และ "รามายณะ" ถือเป็น มหากาพย์ของชาวตะวันออก ชมพูทวีป ส่วน "ภควัทคีตา" เป็นช่วงหนึ่งของ "มหาภารตะ"
- ..........มหากาพย์มหาภารตะ นั้น เป็นเรื่องราวของ กษัตริย์
ราชวงศ์จันทรา ( Moon Dynasty) ส่วนมหากาพย์รามายณะ นั้น
เป็นเรื่องราวของกษัตริย์สุริยะวงศ์ ( Sun Dynasty) ซึ่ง ทั้งสองนี้
ต่างสืบเชื้อสายมาจาก พระมนูไววัสวัติ อันเป็นบรรพบุรุษเดียวกัน
สายของจันทรวงศ์ นี้เริ่มจากพระจันทร์ กับ พระนางอิฑา ส่วนสุรยิวงศ์
สืบสายจาก พระนางอิฑา ที่ภาคหนึ่งเป็นพระเจ้า สุทยุมท์ และ
พระเจ้าอิกษวากุ พระโอรส ก็เป็นต้นวงศ์ของวงศ์ราม ต่อมา เป็นเรื่องราว
ของเทพเจ้า อวตารลงมาปราบอสูร ของมหากาพย์ รามายณะ หรือ
รามเกียรติ์นั้น กล่างถึง พระนารายณ์ ลงมาปราบทศกรรฐ์ และพระราม
ออกป่า 12 ปี ส่วนของ มหากาพย์มหาภารตะ นั้น พระนารายณ์อวตาร
ลงมาเป็น พระกฤษณะ มาปราบอสูร กังสะ ศิศุปาล ชราสัน
และการออกป่าเป็นเวลา 13 ปี เช่นเดียวกับ รามายณะ
……….ฝ่ายปาณฑพ นั้นมี ยุธิษฐิระ ภีมะ อรชุน ฝาแฝด เทพอัศวิน
(นกุล และ สหเทพ) อีกทั้งยังมี พระกฤษณะ ภราดา ฝ่ายยาฑพ
อยู่ข้างเดียวกันนั้น และฝ่ายเการพนั้นมี ศกุนิ ลุงของ ทุรโยชน์
ทุหศาสัน และ พี่น้อง 100 คน กรรณะและ อสูรที่ อวตารลงมาเป็น
กษัตริย์ที่เป็นพันธมิตรกับ เการพ
..........ฝ่ายปาณฑพ นั้น มักจะถูกกลั่นแกล้งจาก ฝ่ายเการพอยู่เสมอ
จนวันหนึ่งถูกเนรเทศออกป่า 13 ปี เช่นเดียวกับพระรามพระลักษณ์
ในเรื่องรามายณะ เหตุที่ฝ่ายปาณฑพนั้น ถูกขับนั้นเป็นเพราะแพ้
พนันสกาการเดิมพันที่ต้องใช้บ้านเมือง และพระชายา เป็นสิ่งเดิมพัน
จนไม่เหลืออะไร นอกจากการที่ต้องเข้าไปถือสันโดษ อยู่ในป่าเป็นเวลายาวนาน
..........เรื่องราวทั้งสองมหากาพย์นี้ ล้วนเป็นเรื่องของ ธรรมะ ปราบ อธรรม
มุ่งเจตนา ที่จะสอนให้ทราบถึงความดีงาม ความเที่ยงธรรม การแสดง
ภควัทคีตา ของ พระกฤษณะ แสดงให้เห็นถึง หน้าที่ ที่มิอาจหลีกเลี่ยงได
หน้าที่ทีต้องกระทำ ถึงแม้จะต้องสังหารพี่น้อง ของตนเองก็ตามเหตุ
แห่งการกระทำที่ชั่วร้าย นั่นเอง
ที่มา : เรื่องย่อ มหาภาระตะ คลิ๊กที่นี่ค่ะ
- บล็อกของ Slowlife
- อ่าน 7706 ครั้ง
ความเห็น
ตั้ม
31 มกราคม, 2011 - 06:13
Permalink
ท่าจะไปกับลูกสาวผมได้ดีมาก
เรื่องราวที่คุณ slowlife เขียนทั้งท่องเที่ยว ภูมิศาสตร์ วรรณกรรม ประวัติศาสตร์ เป็นสิ่งที่ลูกสาวผมสนใจทั้งนั้น..หากได้พบกัน..สงสัยคุยกันไม่หยุดเลย..
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
นนท์
31 มกราคม, 2011 - 17:42
Permalink
อีกที่
เป็นอีกสถานที่ ที่อยากไปเที่ยวครับ
ชอบมั๊กมากๆ ขอบคุณนะครับที่นำมาฝากครับ
NONT..
Slowlife
31 มกราคม, 2011 - 19:35
Permalink
คุณนนท์...
ด้วยความยินดีค่ะ เดี๋ยวนี้บาหลีไปง่ายนะคะ ถ้าไม่รังเกียจสายการบินต้นทุนต่ำ มีบินตรงไปจากสุวรรณภูมิไปสนามบินของบาหลี ส่วนค่าครองชีพในบาหลีก็ไม่แพงนะคะ ที่พักตามรีสอร์ทธรรมดาๆ สะอาดปลอดภัยคืนนึงสองสามร้อยเองค่ะ ห้าร้อยนี่ก็อย่างหรู
บ้านสวนพชร:เมื่อมนุษย์เงินเดือนอยากทำสวน
คนยอง
31 มกราคม, 2011 - 19:20
Permalink
ภาพสวย
ภาพสวย ขอบคุณครับที่แบ่งปัน
ผมคงหาโอกาสไปยาก ติดข้อจำกัดหลายๆอย่าง
Slowlife
31 มกราคม, 2011 - 19:36
Permalink
คุณคนยอง...
ไม่เป็นไรค่ะ ไปไม่ได้ก็ดูรูปไปพลางๆ ใครจะรู้สักวันอาจจะมีโอกาสไปก็ได้
บ้านสวนพชร:เมื่อมนุษย์เงินเดือนอยากทำสวน
Tui
1 กุมภาพันธ์, 2011 - 12:04
Permalink
Slowlife ภาพ สวยบรรยาย
Slowlife ภาพ สวยบรรยาย กระทัดลัดได้ใจ ความอ่านตามนึก ในใจเป็น เสียงผู้ หญิงผูดเร็วๆ อ่านให้ ฟัง อื่ม เพลินดีครับ ขอบคุณ สำหรับ ข้อมูล
หน้า