ชาใบหม่อน

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ชาใบหม่อน 


ปัจจุบันที่กระแสการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพ กำลังเป็นที่นิยมและมาแรงในขณะนี้ อาจเป็นเพราะคนไทยส่วนใหญ่เริ่มตระหนักถึงสุขภาพของร่างกายเพิ่มขึ้นจากเดิม จึงจำเป็นต้องหาสิ่งที่เสริมสร้างและก่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภทชีวจิต ธัญพืช น้ำผักผลไม้ และชา ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้


สรรพคุณ


      จากที่ความรู้ที่เคยเรียนมาแต่ไหนแต่ไรว่า การดื่มชากาแฟ ทำให้ท้องผูก แถมยังมีสารคาเฟอีนที่จะคอยกระตุ้นประสาท ทำให้นอนไม่หลับนั้น ทำให้หลายๆ คนพยายามหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มประเภทนี้


      แต่วันนี้  มีชาชนิดหนึ่ง ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอาการต่างๆ ที่ว่านั้นมานำเสนอ

       ชาที่ว่านั้นก็คือ ชาเขียวใบหม่อน นั่นเอง ที่ชาชนิดนี้จะไม่ทำให้เกิดอาการท้องผูก และไม่กระตุ้นประสาทนั้นก็เนื่องจากว่า ชาเขียวใบหม่อนนั้นไม่มีรสฝาดและขมจากสารเทนนินซึ่งทำให้ท้องผูก และยังมีสาร คาเฟอีนในปริมาณที่น้อยมาก คือเพียง 0.01เปอร์เซ็นต์

      นอกจากนั้นชาใบหม่อนยังมี


-สารกาบ้า (GABA) ซึ่งมีคุณสมบัติในการปรับลดความดันโลหิต


-มีสารฟายโตสเตอโรล (Phytosterol) ที่มีประสิทธิภาพอย่างสูงในการลดระดับโคเลสเตอรอล


-นอกจากนี้ยังมีสารดีอ็อกซิโนจิริมายซิน (Deoxynojirimycin) ที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน


-และในชาเขียวใบหม่อนก็ยังมีแคลเซียมในปริมาณที่มากไม่แพ้นมสดอีกด้วย

     ข้อดีของชาเขียวใบหม่อนยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังพบว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ถึง 3 ชนิดด้วยกันคือ เควอเซติน (Quercetin) แคมเฟอรอล (Kaempferol) และรูติน (Rutin) ซึ่งมีคุณสมบัติป้องกันการดูดซึมน้ำตาลในลำไส้เล็ก ทำให้หลอดเลือดแข็งแรง กระแสเลือดไหลหมุนเวียนดี ยับยั้งการเกิดสารก่อมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่

 ขอเสนอชาใบหม่อนให้เป็นเครื่องดื่มอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ที่รักสุขภาพก็แล้วกัน


วีธีการทำ



  1. ตัดก้านใบหม่อนสดจากยอดยาวลงมาประมาณ 1 - 1.5 เมตร

  2. ริดใบสวยๆ ที่ไม่เหลือง ไม่เป็นโรค ไม่มีแมลง ทั้งอ่อนและแก่ออกจากก้าน ใส่กะละมังไว้

  3. ล้างใบหม่อนให้สะอาด ใช้กรรไกรตัดก้านใบออกแล้วหั่นใบหม่อนให้มีขนาดกว้างประมาณ 0.5x4.0 เซ็นติเมตร ใส่ตะแกรงให้ใบหม่อนสะเด็ดน้ำ

  4. นำใบหม่อนไปลวกน้ำร้อน 30 วินาที (หรือนึ่งประมาณ 1 นาที) ถ้าลวกในน้ำร้อน จุ่มน้ำเย็นทันที เพื่อรักษาสีเขียวของใบหม่อนให้คงอยู่หลังจากผ่านขั้นตอนต่างๆจนกระทั่งเป็นชา ผึ่งลมให้แห้งหมาด ๆ

  5. นำใบหม่อนใส่กระทะใบใหญ่ ตั้งไฟอ่อนๆ สวมถุงมือสะอาดๆ แล้วนวดใบหม่อนเพื่อให้แตกกลิ่นออกมาและเพื่อให้ใบหม่อนม้วนตัวไม่ติดกันเป็นก้อน รวมทั้งได้รับความร้อนจากกระทะอย่างทั่วถึง คั่วในกระทะด้วยไฟอ่อน ประมาณ 20 นาที

  6. แล้วนำไปตากแดดจัด ๆ อีกสัก 1-2 ชั่วโมง หรือถ้ามีเตาอบก็อบที่อุณหภูมิ 80 ํC นาน 1 ชั่วโมง นำมาบรรจุใส่ภาชนะที่มิดชิดเพื่อสามารถเก็บไว้ดื่มได้นาน

ดื่มให้อร่อยและชื่นใจกันทุกคนนะคะ


ขอบคุณค่ะ....



ความเห็น

ขอบคุณค่ะ

"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"

ใบหม่อนที่เค้าเอามาเลี้ยงตัวไหมนะเหรอ  ตอนนี้ทุกคนต้องสนใจสุขภาพตัวเองและคนรอบข้าง เพราะสารพิษต่าง ๆ มีอยู่รอบ ๆ ตัวเรา

ใบหม่อนเลี้ยงไหมถูกต้องแล้วคะ


นอกจากนำมาเป็นชาแล้ว นำมาปรุงอาหารเช่นใส่ใบในต้มไก่ 4-5ใบ ก็จะให้รสชาดที่กลมกล่อมยิ่งขึ้นค่ะ


เรียกว่าต้มไก่สมุนไพร

ต้มไก่ ใส่ใบแห้ง หรือใบสดค่ะ วันนี้จะได้ลองทำเลย จะต้มอยู่พอดีค่ะ

 

กลิ่นหอม มากน่ากิน ที่สำคัญตัวยาสมุนไพรออกมา ยิ่งทานยิ่งดี


ถ้ามีกระเจี๊ยบแดงให้ใส่ใบสักกำมือแทนรสเปรี้ยวของมะขามเปียก จะดีนะคะ


สรพคุณพอๆกับใบหม่อนค่ะ


 

ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูล

 

 

msn:lekonshore@hotmail.com

ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร

ขอบคุณครับ

  เรียกง่ายๆว่า ขวัญก็ได้นะครับ my nickname

ทานอยู่เหมือนกันค่ะเป็นชาเขียวใบหม่อน


อ่านแล้วอยากลองทำเองแต่ไม่รู้จะหาซื้อใบหม่อนที่ไหนค่ะ ขอซื้อชาแบบสำเร็จรูปดีกว่า ถ้าใครหาอุปกรณ์ได้ก็น่าจะลองทำดู ทำเองกินเองภูมิใจกว่าซื้อค่ะ ขอบคุณนะค่ะ 

ศูนย์สมุนไพร และหน่วยบริการแพทย์แผนไทยของกระทรวงสาธารณสุขทุกจังหวัด


โรงพยาบาลที่มีบริการด้านแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก(มีเกือบทุกแห่ง)


ร้านขายยาแผนไทย(ถ้าไม่หมดซะก่อน)


และถ้าต้องการจริงๆ จะส่งไปให้นะคะแถวบ้านมีศูนย์สมุนไพรค่ะ

สรรพคุณดีจริงๆค่ะ...ต้องเลิกดื่มกาแฟหันมาดื่มทาแทนบ้างแล้วล่ะค่ะ..^_^..

MSN/MAIL/HI5 : Tongau_oomsin[at]hotmail[dot]com

หน้า