แกงคั่ว “ถั่วงอกยักษ์”....แกงปักษ์ใต้
เมื่อเอ่ยคำว่า “ถั่ว” สัญญาความจำของผู้ฟังโดยทั่วๆไป ก็จะสร้างมโนภาพ ของถั่วผักยาว ถั่วแขก ถั่วครก(สุราษฎร์ฯ เรียก “ถั่วฝักคลก” เพราะรูปร่างคล้าย “ฝักมีดคลก”) และถั่วอื่นๆ อีกเยอะแยะตามแต่ประสบการณ์ของแต่ละคน พอบอกว่า ถั่วยักษ์ ก็คงงง ถ้าจะให้เดา คงจะเดาว่าถั่วลิสงละซีถ้า....อ๊ะๆๆๆ ...ไม่ใช่ครับ และเดากันไปต่างๆ นาๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องเดาให้ปวดหมอง ข้าพเจ้าจึงเอาเมล็ดของเจ้าถั่วยักษ์ที่พูดถีงมาให้ดู
นี่แหละ ถั่วยักษ์ ....รู้จักไหมเอ่ย...?
หลายคน คงหมั่นไส้ และนึกว่าถ้าอยู่ใกล้ จะล่อกะบาล ให้ซักโป๊ก ....(ฮี)โทษฐานโกหก เอา “ลูกเหรียง” มาหลอก ให้งง....
เปล่าหลอกครับ เพราะลูก “ลูกเหรียง” (ไม่ใช่ เขลียง... เหลียง.) ก็จัดเป็นพืชตระกูล “ถั่ว”(Legume) ครับ
ก็ทีไผ่ต่างๆ แม้แต่ไผ่ตง เรายังรับได้ว่าเป็นหญ้านี่ครับ
แต่เมล็ดเหรียงที่เห็นข้างบนยังนำมาประกอบอาหารไม่ได้ หรอกครับ นอกจากเอามาเป็นเกมส์แข่งขันกันในกลุ่มเด็กๆ ชนบท(รวมถึงข้าพเจ้าเมื่อ กว่า 60 ปีก่อน) คือเกมส์ขบแตก ใครขบเม็ดเจ้านี่แตกก่อน ก็คือผู้ชนะ
ดังนั้นขืนเอามาประกอบอาหารทั้งอย่างนี้ ทันตแพทย์ก็ยื้ม ซีครับ มีรายได้แน่ๆ
หนทางของเจ้าแมล็ดเหรียง กว่าจะนำไปประกอบอาหารได้ ยาวไกล หลายขั้นตอนอยู่ครับ ตั้งแต่รอให้ฝักมันร่วงจากต้น(ซึ่งโตประมาณ 2-3 คนโอบ) และสูงหลายเมตร(ประมาณคอนโดฯ ย่อมๆ) แล้วเก็บมาผ่านกระบวนการกระเทาะให้ได้แมล็ดดังภาพข้างบน ซึ่ง ใช้วิธีแช่น้ำบ้าง เฉือนฝักบ้าง ทุบฝักเอาบ้าง ข้าพเจ้าจึงลองทำเครื่องแกะเมล็ดเจ้านี่มาใช้ลองดู (ใช้เฟืองโซ่หลังจักรยานยนต์) จะเรียกว่า Appropriate Technology สำหรับชนบทก็คงได้ ครั้นทำเสร็จ เขาไม่อยู่ติดบ้านหรอกครับ เพราะถูกยกไปบ้านโน้นที บ้านนี้ที (จนตอนนี้ไม่ทราบว่าใครเอาไปกกอยู่)
ได้เมล็ดออกมาแล้ว ต้องมาเข้ากรรมวิธีเพาะ อีก 4-5 วัน ข้าพเจ้า เพาะครั้ง กิน 2-3 ครั้ง จึงใช้ แปลงเพาะชำ แบบ Micro Nursery (แอบใช้ที่รองกระถางต้นไม้ของลูก เหอๆๆๆๆ)
สี่ ซ่า ห้า วันก็ออกมา แบบนี้(Baby… Baby)...เหอๆๆๆๆ จะ ถอน แล้วละ แต่แม่บ้าน บอกว่าไว้อีกคืนเถอะ ไม่ อยากขัดใจ (ไม่ใช่กลัว นะ) เลยไว้อีกคืน
ถอน ขึ้นมา นำไป สรงธารา เห็นหน้าตาจิ้มลิ้มอย่างนี้.... ไง
ขั้นต่อไปเป็นเรื่องของแม่บ้าน คว้าตะกร้าเข้าครัว
เสียงครก...รัว เสียง กระทะ กะตะหลิว เรียกความหิวให้มาเยือน
นั่งดู เว็ปบ้านสวนฯ ไม่นาน กลิ่นคลุ้งบ้าน... ยั่วน้ำย่อย ของที่คอยอยู่ หลายวัน นั่นดูซี .....
ที่ซ้ายมือ.....
พรือ เห็นคั่วเผ็ดพรรค์นี้ คิดถึงปักษ์ใต้ บ้านเราม้าย
- บล็อกของ paloo
- อ่าน 10484 ครั้ง
ความเห็น
9wut
17 พฤศจิกายน, 2010 - 12:58
Permalink
เห็นรูปสุดท้ัายแล้วก็น้ำลายไห
เห็นรูปสุดท้ัายแล้วก็น้ำลายไหล น่าอร่อยมากๆ
วิธีลงรูปประจำตัว |การใช้งานเว็บบ้านสวน |การแทรกรูป |การแทรก VDO
paloo
17 พฤศจิกายน, 2010 - 13:08
Permalink
ทำง่ายกคับ
ถ้ามีลูกเหรียง ก็ทำง่ายครับ มีน้ำพริกแกงคั่ว เนื้อตามชนิดที่ชอบ
แล้วให้แม่บ้านจัดกาลลลลลล เหอๆๆๆๆๆ
แจ้ว
17 พฤศจิกายน, 2010 - 12:59
Permalink
ตักแล้วนะ
ข้าวสวยร้อน ๆ พร้อมแล้วค่ะ ตักก่อนได้ก่อน แต่ว่าไม่รู้พันพรือกินลูก เหรียงแล้วมันท้องเสียทุกที
paloo
17 พฤศจิกายน, 2010 - 13:12
Permalink
ให้เครดิต ป้า
ฝีมือป้านะ ลุงใส่ปากอย่างเดียว
แสดงว่า ท้องหลานแจ้ว ไม่สมพงค์กับลูกเรียง ม้ายพรือ บ้านเรา ยังลูกตอ ลูกเนียง ลูกนาง ให้เลือกลุย
ไอรินลดา
17 พฤศจิกายน, 2010 - 14:02
Permalink
เหมือนพี่แจ้วค่ะ
อาการเดียวกันเลยนิพี่แจ้ว
กินลูกเหรียง,(สะ)ตอ แล้วท้องเสียทุกที
แต่ก็หรอยแหล่ะของบ้านเรา
โอ โอ่ ปักษ์ใต้บ้านเรา อิอิ
paloo
17 พฤศจิกายน, 2010 - 14:22
Permalink
เห็นใจ
เหมือนเค้า ต้องแอ๊บเปิ้ล โด
เจ้โส
17 พฤศจิกายน, 2010 - 13:01
Permalink
ลุงพาโล
เห็นคั่วเผ็ดลุงพาโล แหม่ ...น่าว่าเผ็ดได้แรงอกแม่น
garden_art1139@hotmail.com
paloo
17 พฤศจิกายน, 2010 - 13:17
Permalink
ผิดคน
แกงไม่ใช่ฝีมือลุง ลุงหามาเพาะอย่างเดียว ที่เหลือ ฝีมือป้า
แกงปักษ์ใต้บ้านเรา ต้องกินไป ผ้าห่ม(ผ้าขาวม้า) พาดบ่าเช็ดเหงื่อไป
ที่ขายตามร้านอาหารใน กทม. พานทางไปแล้ว
จันทร์เจ้า
17 พฤศจิกายน, 2010 - 13:08
Permalink
น่ากินจัง
อร่อยมั้ยคะ ไม่เคยกินค่ะ อิอิ
พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า
paloo
17 พฤศจิกายน, 2010 - 13:20
Permalink
จันทร์เจ้า
ต้องลองครับ... แต่ผมต้องบอกว่าอร่อยไว้ก่อน ไม่งั้น .... เป็นเรื่อง
ฮุๆๆๆๆๆ....
หน้า