เรื่องมันยาว...จริงจริง

หมวดหมู่ของบล็อก: 

 หวัดดี มานะใช่ไหม บังเอิญจัง......................


 เสียงใสๆประกายแวววาวเอ่ยปากทักทายผมด้วยน้ำเสียงที่ผมรู้สึกคุ้นๆหู


อ้าว...ยังไม่กลับอีกหรือ..ผมย้อนถาม เมื่อแน่ใจว่าเธอคนนั้นเป็นใคร ขณะที่ก้าวขาออกจากประตูห้าง ตรงข้ามกับที่เธอและคณะกองโตวนเวียนวุ่นวายอยู่ตรงหน้านั้น


 เพื่อนในวัยเด็ก เติบโตด้วยกันมา ชื่อพ่อถือเป็นชื่อแรกที่นิยมเรียกล้อแทนตัวตนของอีกฝ่าย เธอไปๆมาๆอยู่ที่นี่บ่อย  จนผมรู้สึกจะชาชินและยินดีต่อวิถีของเธอที่เป็นแบบนั้น  ความรักบางครั้งก็ไม่ได้เกิดจากความอยากที่จะครอบครอง


ยังหรอก ไม่มีคิว รีแล็กๆ... เธอยิ้มพร้อมรุดเดินมายังที่ผมยืน ขณะที่ทุกสายตาเริ่มที่จะหันมาจับจ้อง เมื่อซุปเปอร์สตาร์ดารานางร้ายที่ใครๆรู้จักในชุดลำลองเบนหน้ามาทักทายผมอย่างคุ้นเคย ใครเล่าจะไม่สนใจ ผมยกมือขึ้นกระชับหมวกแก็บปีกยาว กางแว่นสีชาเข้มเพื่อปกปิดอำพลางใบหน้า กลัวเผลอพรั้งเผยรอยแง้มบานต่างหัวใจและปาปารัซซี


ที่นี่พัฒนาไปเยอะเลยนะ มีห้างเย็นๆใหญ่โตให้เดินเล่นด้วย มีโรงงานมากมาย รถราก็ขวักไข่ว ผู้คนหลากถิ่นมาตั้งหลักกันที่นี่ ก็เลยคิดว่าจะอยู่ต่ออีกสักระยะ เผื่อว่านึกสนุกๆอยากจะลงทุนทำอะไรบ้าง ประกายใสจากแววตาจ้องมองผ่านแว่นอำพันสอดลึกมายังสายตาที่หลบซ้อนของผมในระหว่างที่เธอเว้นวรรคประโยคก่อนทิ้งท้าย


ว่าแต่นายเถอะอยากให้เรามาอยู่ใกล้ๆนายไหมหละ


คำพูดนั้นมันแทรกผ่านรอยแงมหน้าต่าง เผลอปล่อยให้เธอหลุดเข้าไปนั่งจิ้มจุ่มอยู่ในส่วนที่อ่อนแอที่สุดของหัวใจ รู้สึกเหมือนครั้งแรกที่โดนผู้หญิงที่เราแอบหลงแอบปลื้มบุกรุกเยือนจีบเราถึงก้นครัวก็มิปาน


 


อยู่ต่ออีกระยะ ผมทวนคำบอกเล่าอย่างตระหนักใจ แปลกๆอย่างไรก็ไม่รู้นะ ผมรู้สึกว่ามันขัดกับธรรมชาติและบุคลิกของเธอยังไงชอบกล  ผมเบือนหน้าหลบหันมองสังเกตสิ่งรอบข้างของตัวเองเพื่อเร้นร่องรอย ที่เริ่มออกลาย


ใช่ เหมือนอย่างที่เธอว่าไว้จริงๆ แล้วเธอจะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ในสถานที่อบอ้าวเยี่ยงนี้ ผมเผลอคิดต่อ


 นานเท่าไรแล้วนะที่ผมหลีกหลี้หนีห่างจากเมืองฟ้าอมร มาตั้งหลักปักฐานนอกชานความเจริญแห่งนี้  คลื่นสวยทะเลงามที่ผมชอบ พักผ่านสายตาไปยังหมู่เกาะน้อยใหญ่ ลัดไล่ใกล้ไกลอยู่กลางทุ่งท้องทะเลสีครามสงบยามเช้า ทิวทัศน์เทือกเขาเงาไม้ไกลๆเป็นเรือนฉากหลังที่สวยงาม สิ่งเหล่านี้หละที่คอยเชื้อเชิญผมให้ต้องอพยพหนีความวุ่นวายมาตั้งหลักอยู่ที่นี่เมื่อหลายปีก่อนโน้น โดยมีเธอผ่านมาผ่านไปแวะทายทักเป็นครั้งคราว


แต่บัดนี้ ความเจริญเริ่มที่แผ่ซ่านเข้าถึง ตึกโรงงานใหญ่โตโอ่อ่า บ้านจัดสรรต่างๆทยอยผาดผุด ขยายตัวอย่างต่อเนื่องจนเกือบจะมาถึงที่ที่ผมอยู่ บดบังละเลยความสวยงามแห่งสภาวะธรรมชาติที่ดำรง  อย่างไม่เกรงอกเกรงใจ อย่างรุกไล่ เหมือนๆจะขาดการวางแผนอย่างไรก็ไม่รู้ ผมคิดคาด  รวมทั้งห้างที่ผมเพิ่งออกมานี้ก็คงด้วยเช่นกัน เป็นการเข้ามาเพื่อรองรับการใช้จ่ายจากบุคคลในภาคส่วนอุตสาหกรรม ที่ปักหลักเพิ่มขึ้นๆมากมายในระยะหลังนี้


ใช่สิๆ   ผมลืมไปว่ามันระยะเดียวกันหลังจากที่รัฐประกาศว่าเขตพื้นที่นี้ให้จัดตั้งเป็นเขตแห่งนครอุตสาหกรรม


จริงซินะทำไมผมถึงเพิ่งสังเกตเห็น สังเกตเห็นพอๆกับเรื่องราวของเธอคนนี้ ข่าวคราวจากสื่อที่นำมาเสนอ  ภาพเรื่องราวและสถานที่ที่เธอไปเยือน    ถี่ขึ้นๆ พร้อมๆกับเรื่องราวตกค้างหลังจากที่เธอจากสถานที่นั้นมา


โดยเฉพาะบทนางร้ายที่เธอเล่นในระยะหลังนี้ บทบาทสมจริงสมจัง ผันเปลี่ยนจากดาราบทบาทเจ้าน้ำตาที่ไม่มีใครสนใจอย่างเธอ ให้กลับกลายโด่งดังมาเป็นที่รู้จัก และผู้คนก็ให้ความสนใจ  เหมือนขัดเกลาให้เธอเป็นคนละคนกับที่ผมเคยรู้จักก่อนหน้านั้น 


ระยะช่วงมานี้ ดูเหมือนว่าเธอจะอยู่นานกว่าปกติทุกครั้ง ก่อนที่เธอจะจากไป  และที่แปลกกว่านั้น ผมมักจะเจอเธอบ่อยขึ้น บางครั้งในที่ไม่สมควรจะเจอ ผมก็เจอ เหมือนเธอกำลังติดตามผม เธอคิดอะไรของเธอกันแน่นะ หรือว่า...เธอจะ


แม้นจะเป็นช่วงเวลาเว้นว่างอันน้อยนิดที่เธอขยับตัวมาคุยกับผม แต่ก็เพียงพอที่ทำให้ผมเข้าใจเธอมากขึ้น เธอบอกว่าเธอไม่อยากจะเล่นบทแบบนี้หรอกนะ อยากใช้ชีวิตธรรมดาเหมือนเก่าก่อน เลือกรับเล่นแต่บทดีๆสร้างสรรค์ความงดงามจรรโลงแก่โลกอันบอบบางใบนี้ แต่เมื่อโลกและนายทุนต้องการให้เธอเปลี่ยนบท เธอก็จำต้องใจเล่นไปตามภาวะจำยอมและก็โด่งดังสุดๆในบทของนางร้ายตั้งแต่วันนั้น แต่ก็มีหลากหลายคน หลากองค์กรเช่นกันที่พยายามจะให้เธอกลับไปเล่นบทน่ารักเช่นเดิม แต่รู้สึกว่าอีกหลายภาคสวนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ก็ยังฝืนและละเลยเพียรปล่อยให้เธอคงต้องรับสภาพบทนี้  อาจเป็นความเห็นแก่ตัวหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เธอก็มิอาจทราบและไม่อาจไถ่ถาม


 แล้วนี่จะกลับวันไหนหละ บอกด้วย เผื่อจะได้กินข้าวด้วยกันสักมื้อนึง ผมกล่าวชวนเธอตามมารยาทความสนิท และลองเชิงเน้นย้ำความรู้สึกต่อเธออีกครั้งเพื่อความแน่ใจ กลัวว่าใจที่เปิดอ้า..จะพังงาบเพราะคำหวานๆของเธอที่อาจจะกล่าวมาอย่างเลื่อนลอยมิได้ตั้งใจ


 แม้นจะทราบดีว่าคิวงานที่แน่นเอียดของเธอช่วงนี้ มันยากที่เวลาจะให้โอกาสแก่กันขนาดนั้น แต่ผมก็ได้คำตอบกลับมา........


ผมก้าวเดินจากมาด้วยสมองที่ครุ่นคิด คำบอกเล่าของเธอคงฟุ้งค้างยากหาทางลง ขณะที่ผมก้าวขาฝ่าออกมาจากวงล้อมและทิ้งหนีความวุ่นวายไว้เบื้องหลัง


 ก่อนนั้นเธอบอกว่าจะมาลงหลักปักฐานอย่างถาวรที่นี่ เพราะการไปๆมาๆของเธอมีอุปสรรคมากมาย มันเบื่อกับภาวะฉุกเฉินและเหนื่อยมากกับด่านกั้นหลายหลากระหว่างเดินทางกลับ  เหมือนฟ้าที่ถูกปิด เหมือนกายที่ถูกจับขังและเธอก็ออกไปไหนมาไหนไม่ได้อย่างอิสระเหมือนก่อน เธอเปรียบเทียบให้ผมฟังอย่างนั้น


อีกอย่างหากที่นี่อำนวย เธอก็อยากจะพาพ่อแม่และน้องๆมาอยู่ที่นี่ด้วย รอเพียงความพร้อมของพื้นที่และเวลาที่เหมาะสม เธอบอกว่าเธอตัดสินใจเองไม่ได้ว่าจะได้อยู่ที่นี่หรือไม่ เพราะมีองค์ประกอบแวดล้อมมากมายเป็นตัวกำหนด บางครั้งการอยู่ในสภาพแบบเธอก็ยุ่งยากซับซ้อนเสียจริงๆกับการที่จะดำรงอยู่สภาพปกติ และยากยิ่งที่ผมและคนอีกมากมายจะเฉียดใกล้ถึงความหมายของคำว่าเข้าใจ


ที่สำคัญเธอบอกว่า ผมก็เป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยเร่งให้เธอตัดสินใจได้ในครั้งนี้


ผมรู้สึกตระหนกพอควรเมื่อคิดว่าเธอจะมาอยู่ที่นี่ด้วย ภาพข่าวสารต่างๆที่เธอไปเยือนผุดขึ้นในชั้นก้อนคิด ภาพน้ำแข็งขั้วโลกเหนือละลาย ภาพผู้คนในยุโรป นอนแช่นอนกอดอ่างน้ำพุกลางสวนสาธารณะ มีคนชราและเยาว์ผู้อ่อนแอต้องออกเดินทางไกล ไม่รวมถึงผลกระทบต่างๆที่ตามมาเป็นลูกโซ่อีกหลากระรอก


คลื่นความร้อนอย่างเธอ ไปๆ มาๆเพื่อสร้างความสมดุลย์แก่โลกมานับล้านปี เรามนุษย์ผู้เห็นแก่ได้ คิดแค่สมสร้างความมั่งคั่งให้กับประเทศ ให้กับตัวเอง ให้กับเงินตราในรูปตัวเลข ปลุกปั่นยอดจีดีพี เพื่อโอ้อวดความเป็นผู้นำสุดยอดประเทศด้านอุตสาหกรรม ปราศจากการป้องกัน ควบคุมการปล่อยกาซพิษธรรมชาติถูกทำลาย ด้านสิ่งสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม กลับกลายให้สิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนซี่กรงขังไม่ให้เธอย้อนกลับขึ้นไปได้


ไม่แปลกหากเธอจะมาอยู่ใกล้ผม พร้อมกับครอบครัวของเธอในอนาคต ไม่แปลกหากสรรพชีวิตต้องสังเวยเพื่อแลกกับการมีที่อยู่ของเธอ ไม่แปลกกับบทนางร้ายที่เราต่างก็มีส่วนบังคับให้เธอต้องรับเล่น  ถึงเวลานั้นเราคงต้องอยู่กับเธอไปอย่างปรับตัวและเท่าทันกันอีกนาน ลูกหลานเราจะเป็นอย่างไรบ้างมิอาจรู้


  ในขณะที่อีกฝากหนึ่งก็ต้องเริ่มที่จะหันมาตกลงฟื้นฟูกันอย่างเป็นจริงเป็นจัง ขณะที่อีกฝากฝั่งก็ปลุกปั่นควันโขมงอย่างไม่รู้สึกร้อนเนื้อร้อนตัว ถึงเวลาหรือยังที่เราจะลุกขึ้นมาสะท้อนเพื่อช่วยโลกนี้กันแบบเป็นจริงเป็นจัง


เธอรับปากว่าจะแวะมาทานข้าวที่บ้านกับผมและอาจจะอยู่กับผมอย่างถาวรในที่แห่งนี้ ตราบใดที่ผมและพวกเรายังคงปฏิบัติตัวกันอยู่เช่นเดิม  


 ความจริงเราทุกคนต่างก็มีส่วนเร่งสร้างและเชื่อเชิญกักขังตัวเธอไว้ที่นี่ เราจะหาทางให้เธอได้ย้อนกลับไปสู่ที่ที่เธอจากมาอย่างไร หรือว่าเราจะทำได้เพียงแค่นั่งรอวันเวลา ให้ความเลวร้ายกว่านี้มาถึง แน่นอนย่อมอยู่ในระยะเวลาอันใกล้นี้


 หวัดดี ชาวบ้านสวนพอเพียงใช่ไหม บังเอิญจัง.........................


ไม่...มันไม่บังเอิญอย่างนั้นหรอก...ผมรู้


http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%8F%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%81


http://hilight.kapook.com/view/48109


 

ความเห็น

:sweating: สงสัยตกภาษาไทยค่ะ ( ตามองไม่ค่อยเห็นตัวหนังสือค่ะ) :nonono:

ทุกวินาทีมีค่า ถ้าเรามีความหวังเราจะไม่เคยพ่ายแพ้

:cute2: แต่ก็ขอบคุณครับที่แวะมา...


:wow:

เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด  ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่

คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู

มานี อาจจะเข้าใจคนเดียวก็ได้ค่ะ แต่การรำพึง บางครั้ง คนส่วนใหญ่ อาจจะไม่เข้าใจ ชนกลุ่มน้อยค่ะ 55555

#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#

สงสัยฉานเป็นคนกลุ่มน้อยเหมือนยายอี๊ด เพราะอ่านกี่รอบมันก็ยังงงๆๆ เหมือนเดิม :desperate:

:woa: รับรองว่า..หลับฝันดีแน่เลย...ฮา..

เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด  ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่

คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู

:work: หนึ่งคือเรื่องยาก


สองวิธีการสือยาก


สามอ่านยาก ยาว


และห้าสำคัญ..มันไม่ได้เรื่อง..ยากเข้าใจ

เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด  ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่

คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู

ตรงนี้ตั้งใจหรือเปล่า


มุขเล็กน้อยก็ไม่เว้นนะ อิอิ

พอกิน พอใช้ พอใจ คือความหมายของ พอเพียง

ใช่อย่างพี่อี้ดบอกหละครับ...


การเขียนให้คนอื่นอ่าน จะต้องปูพื้นเป็นปฐม...


แต่ผมพลาด..


โดยส่วนอยากจะจบแบบหักมุม แต่แล้วก็พลาด..


ก็เลยต้องปล่อยไปครับ...


การกลับมาแก้ไขงานเขียนที่เผยแพร่ไปแล้ว...


เพื่อให้กลับมาสมบูรณืย่อมไม่ยุติธรรมต่อผู้อ่าน และความสัตย์ซื่อของตัวเอง


พลาดแล้วพลาดเลย...ค่อยนำบทเรียนไปใช้กับงานเขียนอื่น...

เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด  ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่

คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู

ถ้าเธอมา...เรายินดีต้อนรับเพราะถึงอย่างไรเรามิอาจบังคับเธอได้...โลกกำลังเปลี่ยนไปแต่เราต้องมีวิธีการรับมือกับการเปลี่ยนแปลง...ชาวบ้านสวนเรานี้แหละจะช่วยได้

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

:uhuhuh: :good-job: :victory: หนึ่งหละก็คือหลีกเลี่ยงใช้สารเคมี...


 

เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด  ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่

คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู

หน้า