ทบทวนเศรษฐกิจพอเพียงกันอีกครั้ง
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลายคนเข้าใจผิดว่าเศรษฐกิจพอเพียงแล้วต้องเอาไปใช้กับการเกษตร ซึ่งจริงๆแล้วไม่ได้เป็นอย่างนั้น เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำไปใช้กับทุกๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจ การทำเกษตร การใช้ชีวิตประจำวัน หรืออื่นๆ นักธุรกิจพอเห็นคำว่าพอเพียงอาจจะรีบปฏิเสธทันทีเพราะเป้าหมายของธุรกิจคือ แข่งขัน กำไร รวย แต่หากศึกษาอย่างถ้วนถี่เศรษฐกิจพอเพียงก็ทำให้ธุรกิจราบรื่น และรวยได้เช่นกัน
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีหลักอย่างที่เราได้ยินกันอยู่เป็นประจำคือ สามห่วง สองเงื่อนไข
ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดี ที่ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่น การผลิตและการบริโภคที่พอประมาณ
ความมีเหตุผล หมายถึง การใช้หลักเหตุผลในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ
การมีภูมิคุ้มกันที่ดี หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงรอบตัว ปัจจัยเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้นั้น จะต้องอาศัยความรู้ และคุณธรรม เป็นเงื่อนไขพื้นฐาน
เงื่อนไขความรู้ หมายถึง ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังในการดำเนินชีวิตและการประกอบการงาน
เงื่อนไขคุณธรรม คือ การยึดถือคุณธรรมต่างๆ อาทิ ความซื่อสัตย์สุจริต ความอดทน ความเพียร การมุ่งต่อประโยชน์ส่วนรวมและการแบ่งปัน ฯลฯ ตลอดเวลาที่ประยุกต์ใช้ปรัชญา
เพราะฉะนั้นถ้าทำการใดก็ตาม ถ้าทำเกินตัว ไม่มีแผนรองรับความเสี่ยง ขาดความรู้ในการดำเนินการ เอาเปรียบ อย่างนี้ก็ไม่พอเพียง
ที่กล่าวมาข้างต้นอาจจะเข้าใจยาก มาทำความเข้าใจง่ายๆ จากหนังสือปราชญ์เดินดิน วิถีคนกล้า ท้าเปลี่ยนโลก ตอน วิวัฒน์ ศัลยกำธร ครูยักษ์หัวใจใหญ่แห่งมหาวิทยาลัยคอกหมู ที่นายไข่ถาม อ.ยักษ์ ว่า
อาจารย์ครับ เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงนี่ ผมเคยฟังคนนั้นพูดทีคนนี้พูดที แต่ยังไม่เข้าใจครับว่า เศรษฐกิจพอเพียงหมายถึงอะไร
มาดูคำตอบจาก อ.ยักษ์นะครับ อาจช่วยให้เราเข้าใจเศรษฐกิจพอเพียงมากขึ้น
เศรษฐกิจพอเพียง คือการรู้จักตัวเอง แล้วก็ทำให้พอกับตัวเอง เลี้ยงชีวิตให้ได้ อุ้มชูตัวเองให้ได้
จะอยู่อย่างไร...ก็หาที่อยู่ให้พอ
จะกินอะไร...ก็หากินให้พอ
จะใช้อะไร...ก็ทำใช้ให้พอ
แม้จะหาเงินไม่ได้หรือเป็นหนี้เป็นสิน แต่ก็ยังพออยู่ พอกิน พอใช้ จะอาชีพอะไรก็เหมือนกันหมด การพึ่งตนเองให้ได้ คือพื้นฐานของเศรษฐกิจพอเพียง ถ้าพอมีเหลือก็เอาไปทำบุญทำทานเสียก่อน จากนั้นค่อยไปสู่ขั้นก้าวหน้า คือนำไปค้าขายแข่งขันกับใครก็ว่ากันไป แต่ทุกอย่างให้เริ่มต้นที่คำว่า "พอ"
มาดูอีกคำถามจากนายไข่ อีกคำถาม
จำเป็นไหมครับว่า คนที่ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง ต้องเป็นคนยากจน
อ.ยักษ์ตอบว่า
ไม่เกี่ยว เศรษฐกิจพอเพียงรวยได้ แต่เราพอเพียงขั้นพื้นฐาน ใช้หลักว่า ทำให้พออยู่ พอกิน พอใช้
วันหนึ่งถ้าไม่มีเงิน หรือค้าขายแล้วเจ๊ง กลับมาบ้านต้องไม่อด ไม่ใช่ค้าขายเจ๊งแล้วกลับมาบ้านก็ไม่มีเงิน ไปลักขโมยถูกจับติดคุกติดตะราง อย่างนี้ก็ไม่พอ เราเอาแค่พอ
ความพอเพียงของแต่ละคนไม่เท่ากัน
อีกคำถามที่นายไข่ถาม อ.ยักษ์ ซึ่งหลายคนอาจกำลังสงสัยอยู่เช่นกันว่า แบบนี้ แบบนั้น พอเพียงหรือไม่
ถ้าผมมีเงินเยอะแล้วจำเป็นต้องใช้รถยนต์หลายคัน คันนี้เอาไว้ส่งลูก คันนี้เอาไว้ซื้อกับข้าว คันโน้นใช้ทำธุระ อีกคันเอาไว้ขับขึ้นป่าขึ้นดอย อย่างนี้ถือว่า "ฟุ่มเฟือย" หรือว่า "พอเพียง" ครับ อาจารย์
คำตอบที่ได้จาก อ.ยักษ์ คือ
ถ้าคุณไข่มีเหลือเฟือ แจกจ่ายให้ทานแล้วยังเหลือ คุณอยากซื้ออะไรก็ซื้อไปเถอะ ไม่มีใครเขาว่าหรอก เอาให้มันพอดีๆ อย่าไปเบียดเบียนใครเขาเท่านั้นพอ
จากที่ผมเขียนมา จะพอเพียงได้มีหลายองค์ประกอบจะขาดส่วนหนึ่งส่วนใดไม่ได้ แต่ส่วนตัวแล้วก็ยังมองว่าจุดเด่นอีกอย่างของเศรษฐกิจพอเพียงคือเรื่องของคุณธรรม อย่างที่ อ.ยักษ์ บอกว่าถ้ามีเหลือก็ให้แบ่งปันทำบุญก่อน แล้วค่อยขาย อย่างไรก็ตามจะพอเพียงได้ ก็ต้องมีการพึ่งพาตนเอง
อ้างอิง
- หนังสือ ปราชญ์เดินดิน วิถีคนกล้า กล้าเปลี่ยนโลก หน้า 16-17
- เศรษฐกิจพอเพียง
- บล็อกของ sothorn
- อ่าน 84166 ครั้ง
ความเห็น
ann
16 มกราคม, 2011 - 23:38
Permalink
.....
:cheer3: ......
....ความสุขอย่างแท้จริง ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง....
สาวน้อย
16 มกราคม, 2011 - 23:51
Permalink
ความเคยชิน
เมื่อวันก่อนมีน้องมาปรึกษาโครงการเนื่องจากไปสอนผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน...ตอนสอนก็พยายามเน้นให้ทำเองใช้เองซึ่งกลุ่มที่สอนก็ตกลงกันว่าจะลงทุนคนละ 10 บาท 20บาท ค่า หัวแชมพู ส่วนน้ำมะกรูดจะลองหมักเอง..แต่มีกลุ่มผู้นำหัวใส..คิดจะทำขายจึงมาปรึกษา..เลยบอกไปว่า..ที่สอนไม่ได้เน้นให้ขาย...ทำไมไม่เน้นให้ชาวบ้านดูแลตัวเองให้ได้...เมื่อก่อนก็ไม่เข้า คำว่าเศรษกิจพอเพียงมาก...เมื่อลงมือเอง..จึงบอกต่อคนอื่นได้เต็มปากขึ้น...แต่คงยากที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดของแต่ละคน...หากตัวเขาไม่ประสบเองนะคะ.. รู้สึกอิจฉาผู้ใหญ่เล็กๆ กับชีวิตที่เลือก...หลายครั้งที่เจอปัญหาที่ทำงาน..อยากตัดสินใจทำงานส่วนตัวเต็มที่บ้าง...แต่ไม่กล้าพอ...ตอนนี้เลยคิดว่าทำหน้าที่ที่รับผิดชอบให้ดีที่สุดและทำสิ่งที่เรารักไปด้วย...ขอบคุณผู้ใหญ่ที่นำสิ่งดีๆมาฝากเสมอๆค่ะ
ชีวืตที่เพียงพอ..
ชวิน
17 มกราคม, 2011 - 00:06
Permalink
ชอบมากครับ
กับคำพูดที่ว่า ถ้ามีเหลือก็ให้แบ่งปันทำบุญก่อน แล้วค่อยขาย
เหลือกินเหลือแบ่งปันแล้วจึงขาย ตามความพอเพียง พออยู่พอกินพอใช้
พอเพียงเพื่อเพียงพอ
jabee_68@hotmail.co.th
จันทร์เจ้า
17 มกราคม, 2011 - 04:56
Permalink
อยากจะเข้าใจ
ให้มากกว่านี้ต้องทำความเข้าใจอีดหน่อย ขอบคุณค่ะ
พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า
ดวงหทัย
17 มกราคม, 2011 - 05:55
Permalink
ทบทวน
ขอบคุณค่ะพี่โส
sam k.
17 มกราคม, 2011 - 06:53
Permalink
ที่ผู้ใหญ่เน้นมา
ส่วนใหญ่แล้วคนจะเข้าใจไขว้เขว...คิดไปเอง..ความจริงก็คือ..เดินทางสายกลาง..ขององพระศาสดาของเรานั่นเอง..ไม่มาก ไม่น้อย เผื่อแผ่ เผยแพ่ร พอเพียง ...
Sopha B'
30 สิงหาคม, 2013 - 11:33
Permalink
เข้าใจ
เข้าใจ ความพอเพียง
และเพียงพอ
บุญพา
17 มกราคม, 2011 - 07:55
Permalink
พอเพียง
คิดว่าตัวเอง มีความพอเพียงในระดับหนึ่งนะ(อาจจะไม่เต็มร้อย) มีกิน มีใช้ พออยู่พอกิน ได้น้อยก็จ่ายน้อย ได้มากก็ให้รางวัลกับชีวิตบ้าง คนรอบข้างมักจะเข้าใจผิด คิดว่าคงจะมีเงินมากเพราะเราอยู่แบบสบายๆไม่เดือดร้อน
ยังมีคนอีกมากมาย ที่ยังไม่เข้าใจความหมายของคำๆนี้...
ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เวลาชีวิตน้อยลงทุกวัน
ครองขวัญ
17 มกราคม, 2011 - 08:08
Permalink
พยายามพอเพียงค่ะ
พยายามพอเพียงค่ะ พอมาประเมินตัวเอง ด้วยความซื่อสัตย์ คิดว่าก็ทำได้ประมาณ เจ็ดสิบ เปอร์เซ็นค่ะ ที่เหลือก็มีหลงไปกับกิเลสบ้าง รู้สึกตัว ก็พากันฉุดกลับ
ป้าเล็ก..อุบล
17 มกราคม, 2011 - 08:34
Permalink
กินดีอยู่ดี
ขอแค่กินดีอยู่ดี ชีวีมีสุข
084-167-4671
anongrat2508@hotmail.com
หน้า