รดน้ำผู้สูงอายุ
วันที่ 8 เมษายน 2553 วันนี้ทางหมู่บ้าน จัดงานรดน้ำผู้สูงอายุในหมู่บ้าน ซึ่งจะจัดเป็นประจำทุกปี
คณะลูกหลานนำปิ่นโต อาหารคาวหวานพร้อมผลไม้ไปถวายพระด้วย ในการจัดงานวันรดน้ำผู้สูงอายุก่อนถึงวันสงกรานต์ เพื่อให้ในหมู่บ้านได้ร่วมกิจกรรมกัน
วันนี้จึงได้อิ่มบุญอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับ ได้รวมญาติไปในตัวด้วย คณะลูกหลานของยายที่อยู่ห่างไกลกันก็มารวมกันหมด ยายมีสีหน้าสดชื่นที่ได้เห็นลูก ๆ หลาน เหลน มากันพร้อมหน้า
หลังจากพิธีพระเสร็จแล้ว พระท่านกล่าวถึงประวัติวันสงกรานต์ และได้เล่าเรื่องคร่าว ๆ พอจับใจความได้ แต่เขียนไม่ถูก เลยขอยกจากเวบ มาเผื่อนะคะ
.....ตำนานสงกรานต์ของไทย .......
ตำนานสงกรานต์นี้มีปรากฎในศิลาจารึกที่วัดพระเชตุพน ว่า
มีท่านเศรษฐีผู้หนึ่งไม่มีบุตรแต่ต้องการบุตรมาก ด้วยถูกนักเลงสุราที่บ้านใกล้กันนั้นกล่าวคำหยาบช้าต่อเศรษฐี ท่านเศรษฐีจึงกล่าวถามว่า "เหตุใดท่านจึง กล่าวดูถูกเราผู้มีสมบัติมาก" นักเลงสุราตอบกลับว่า "ถึงแม้ท่านเป็นผู้มีสมบัติมาก แต่ท่านก็ไม่มีบุตร เมื่อเสียชีวิตแล้ว สมบัติเหล่านี้ก็สูญเปล่า เรานั้นมีบุตร ย่อมประเสริฐกว่า" ท่านเศรษฐีจึงได้จัดพิธีบวงสรวงขอบุตรจากพระอาทิตย์ และพระจันทร์ รอนานสามปีก็มิได้เกิดบุตร เมื่ออาทิตย์ยกขึ้นสู่ราศีเมษ ท่านเศรษฐีจึงพาบริวารไปบวงสรวงขอบุตรจากพระไทร พระไทรมีความเมตตาสงสารเศรษฐีผู้นี้ จึงได้ขึ้นไปบนสวรรค์ทูลขอบุตรจากพระอินทร์ให้แก่เศรษฐี ผู้นั้น พระอินทร์จึงให้ธรรมบาลกุมารเทวบุตรลงมาเกิดเป็นบุตรของท่านเศรษฐี
เมื่อภรรยาของท่านเศรษฐีคลอดบุตร ท่านเศรษฐีได้ปลูกปราสาทเจ็ดชั้นให้อยู่ใต้ต้นไทรริมฝั่งแม่น้ำ และตั้งชื่อให้ว่า ธรรมบาลกุมาร ธรรมบาลกุมารนี้เป็น เด็กที่มีปัญญาเฉลียวฉลาดอย่างมาก เรียนรู้ไตรเทพจบเมื่ออายุ ๗ ขวบอีกทั้งยังสามารถเรียนรู้ภาษานกได้อีก ความดังกล่าวได้ล่วงรู้ถึงท้าวกบิลพรหม ท่านจึงต้องการที่จะทดสอบปัญญาของธรรมบาลกุมาร ท้าวกบิลพรหมจึงได้เสด็จลงมายังโลกมนุษย์ ถามปัญหาธรรมบาลกุมาร ๓ ข้อคือ
ข้อที่ ๑ เช้าราศีสถิตอยู่แห่งใด
ข้อที่ ๒ เที่ยงราศีสถิตอยู่แห่งใด
ข้อที่ ๓ ค่ำราศีสถิตอยู่แห่งใด
และตกลงกันว่า ถ้าธรรมกุมารสามารถตอบปัญหา ๓ ข้อนี้ได้ ภายใน ๗ วัน จะตัดเศียรของตนบูชาธรรมบาลกุมาร แต่ถ้าธรรมบาลกุมารไม่สามารถตอบปัญหาได้ ธรรมบาลกุมารต้องตัดศีรษะของตนบูชาท้าวกบิลพรหมเช่นกัน
เวลาล่วงเลยไปถึง ๖ วัน ธรรมบาลกุมารก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ ด้วยความกลัวอาญาท้าวกบิลพรหม ธรรมบาลกุมาร จึงได้หนีไปแอบซ่อนอยู่ใต้ต้นตาลและบนต้นตาลนั้นมีนกอินทรี ๒ ตัว ผัวเมียทำรังอยู่นกอินทรีทั้งสองได้สนทนากันอยู่ในเรื่องการออกไปหากินในวันพรุ่งนี้ นางนกอินทรี : "พรุ่งนี้เราจะไปหากินที่ไหนกันดี "นกอินทรีตัวผู้ : "พรุ่งนี้เราไม่ต้องออกไปหากินไกลหรอก ด้วยพรุ่งนี้ธรรมบาลกุมารจะต้องตัดศีรษะบูชาท้าวกบิลพรหม เนื่องจากตอบปัญหาไม่ได้"
นกอินทรีรู้สึกหมั่นไส้นางนกอินทรีจึงได้บอกถึงคำตอบที่ท้าวกบิลพรหมถามธรรมบาลกุมารให้นางนกอินทรีได้รู้
นกอินทรีตัวผู้ : "ราศีแห่งมนุษย์นั้นจะสถิตอยู่ที่ร่างกายต่างวาระกัน คือ
เวลาเช้าจะสถิตอยู่ที่หน้า มนุษย์จึงต้องล้างหน้า
เวลาเที่ยงราศีสถิตอยู่ที่อก มนุษย์จึงต้องปะพรมน้ำที่หน้าอก
และเวลาค่ำสถิตอยู่ที่เท้า มนุษย์จึงต้องล้างเท้า จึงจะพ้นอัปรีย์จัญไรทั้งปวง"
ธรรมบาลกุมารเมื่อได้ยินดังนั้น ก็ได้จดจำคำตอบและนำไปบอกแก่ท้าวกบิลพรหม ท้าวกบิลพรหมจึงจำต้องตัดเศียรของตนบูชาธรรมบาลกุมาร แต่เศียรของท้าวกบิลพรหมมีพิษมาก คือ ถ้าตัดแล้วตั้งไว้บนแผ่นดิน แผ่นดินก็จะลุกเป็นไฟ ถ้าโยนขึ้นสู่ท้องฟ้าฝนก็จะตกไม่ถูกต้องตามฤดูกาล และถ้าทิ้งลงมหาสมุทรน้ำก็จะเหือดแห้ง
ท้าวกบิลพรหมจึงรับสั่งเรียกธิดาทั้ง ๗ เพื่อให้นำเศียรของท้าวกบิลพรหมไปแห่ประทักษิณรอบเขาพระสุเมรุ ๖๐ นาที แล้วจึงนำไปเก็บไว้ในมณฑปถ้ำธุลีเขาไกรลาศ ครั้นครบกำหนด ๓๖๕ วัน (โลกสมมุติว่าเป็น ๑ปี) เป็นสงกรานต์ ซึ่งหมายถึงขึ้นปีใหม่นั้นเอง นางสงกรานต์ก็จะต้องนำเศียรของท้าวกบิลพรหมแห่ประทักษิณรอบเขาพระสุเมรุเป็นประจำทุกปี
นางนกอินทรี : "น่าสงสารกุมารน้อยยิ่งนัก ท้าวกบิลพรหมก็ช่างถามปัญหาที่มนุษย์เกินจะตอบได้"
(ขอบคุณเนื้อหาจากเวบ)
http://download.clib.psu.ac.th/datawebclib/exhonline/page4html.html
พระท่านยังต่อด้วยเรื่องนางสงกรานต์ ทั้ง 7
นางสงกรานต์
หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับนางสงกรานต์ทั้ง 7 มาบ้าง แล้ว ส่วนใครที่ยังไม่ทรายหรือว่าจำไม่ได้ วันนี้เราก็มีเรื่องราวของนางสงกรานต์ทั้ง 7 มาเล่าให้ฟัง
นางสงกรานต์นั้นเป็นธิดาของท้าวกบิลพรหม หรือท้าวมหาสงกรานต์ และเป็นนางฟ้าอยู่บนสรวงสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช (สวรรค์ชั้นที่ ๑ ในทั้งหมด ๖ ชั้น) ซึ่งมีหน้าที่ในการรับศีรษะของท้าวกบิลพรหมแห่รอบเขาพระสุเมรุในแต่ละรอบปี หรือในวันสงกรานต์นั้นเอง โดยมีเกณฑ์กำหนดที่ว่าวันสงกรานต์ คือวันที่ ๑๓ เมษายน ตรงกับวันใดก็ให้นางสงกรานต์ประจำวันนั้นเป็นผู้แห่ นางสงกรานต์มีทั้งหมด ๗ องค์ ได้แก่
๑. นางสงกรานต์ทุงษเทวี
ทุงษเทวีเป็นนางสงกรานต์ประจำวันอาทิตย์ ทัดดอกทับทิม มีปัทมราค (แก้วทับทิม) เป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ อุทุมพร (มะเดื่อ) อาวุธคู่กาย พระหัตถ์ ขวาถือจักร พระหัตถ์ซ้ายถือสังข์ เสด็จไสยาสน์เหนือปฤษฎางค์ครุฑ
๒. นางสงกรานต์โคราดเทวี
โคราดเทวีเป็นนางสงกรานต์ประจำวันจันทร์ ทัดดอกปีป มีมุกดาหาร (ไข่มุก) เป็นเครื่องประดับภักษาหาร คือ เตละ (น้ำมัน) อาวุธคู่กาย พระหัตถ์ขวาถือพระขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายถือไม้เท้า เสด็จประทับเหนือพยัคฆ์ (เสือ)
๓. นางสงกรานต์รากษสเทวี
รากษสเทวีเป็นนางสงกรานต์ประจำวันอังคาร ทัดดอกบัวหลวง มีโมรา (หิน) เป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ โลหิต (เลือด) อาวุธคู่กาย พระหัตถ์ขวาถือตรีศูล พระหัตถ์ซ้ายถือธนู เสด็จประทับเหนือวราหะ (หมู)
๔. นางสงกรานต์มัณฑาเทวี
มัณฑาเทวีเป็นนางสงกรานต์ประจำวันพุธ ทัดดอกจำปา มีไพฑูรย์ (พลอยสีเหลืองแกมเขียว) เป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ นมและเนย อาวุธคู่กาย พระหัตถ์ ขวาถือเหล็กแหลม พระหัตถ์ซ้ายถือไม้เท้า เสด็จไสยาสน์เหนือปฤษฎางค์คัสพะ (ลา)
๕. นางสงกรานต์กิริณีเทวี
กิริณีเทวีเป็นนางสงกรานต์ประจำวันพฤหัสบดี ทัดดอกมณฑา(ยี่หุบ) มีมรกตเป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ ถั่วและงา อาวุธคู่กาย พระหัตถ์ขวาถือพระขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายถือปืน เสด็จไสยาสน์เหนือปฏษฎางค์ชสาร (ช้าง)
๖. นางสงกรานต์กิมิทาเทวี
กิมิทาเทวีเป็นนางสงกรานต์ประจำวันศุกร์ ทัดดอกจงกลนี มีบุษราคัมเป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ กล้วยและน้ำ อาวุธคู่กาย พระหัตถ์ขวาถือพระขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายถือพิณ เสด็จประทับยืนเหนือมหิงสา (ควาย)
๗. นางสงกรานต์มโหทรเทวี
มโหทรเทวีเป็นนางสงกรานต์ประจำวันเสาร์ ทัดดอกสามหาว (ผักตบชวา) มีนิลรัตน์เป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ เนื้อทราย อาวุธคู่กาย พระหัตถ์ขวาถือจักร พระหัตถ์ซ้ายถือตรีศูล เสด็จประทับเหนือมยุราปักษา (นกยูง)
(ขอบคุณเนื้อหาจากเวบ)
http://www.getgang.com/variety/index.php?id=63
วันนี้ได้สงบจิต รับฟังพระเทศน์ ได้ข้อคิดจากพระท่าน.... ได้รดน้ำผู้สูงอายุ ร่วมทำบุญ และพบปะญาติสนิทมิตรสหาย และร่วมรับประทานอาหารกัน ได้
ร่วมกันสืบสานวัฒนธรรมไทย วันขึ้นปีใหม่ไทย
ขอให้มีความสุขกับเทศกาลสงกรานต์ค่ะ
..........
- บล็อกของ แจ้ว
- อ่าน 9670 ครั้ง
ความเห็น
โหยหาชนบท
8 เมษายน, 2010 - 14:47
Permalink
คิดถึงบ้าน
พัทลุงจัดเริ่มงานเร็วมากๆ แต่ประเพณีดีๆ แบบนี้ ผมว่าทำได้ทุกวันนะครับ
สงกรานต์พัทลุงสนุกป่าวครับ อยากปะแป้งสาวๆ 555
...วิถีชีวิตแห่งเกษตรกรรมที่สมบูรณ์ จะหล่อเลี้ยงบุคคลทั้งร่างกายและวิญญาณ เป็นหนทางไปสู่ความสมบูรณ์แห่งความเป็นมนุษย์...
แจ้ว
8 เมษายน, 2010 - 15:03
Permalink
หมู่บ้านจัดก่อน
ทางผู้ใหญ่บ้านจะเชิญผู้สูงอายุทั้งหมู่บ้าน เพื่อรดน้ำดำหัวขอพรจากท่าน และมีการมอบขวัญให้ผู้สูงอายุ จะมีข้าวสาร อาหารแห้ง ผ้าใหม่ ร่ม รวมถึงเงิน เพื่อแสดงความเคารพรัก และนับถือผู้สูงอายุ และเพื่อสร้างความสามัคคีในหมู่คณะด้วยค่ะ
ส่วนการเล่นน้ำส่งกรานต์จะเริ่มวันที่ 13 เมษายน ค่ะ ถนนสายหน้าบ้านจะเป็นเส้นทางไปน้ำตก จึงมีรถกระบะวิ่งผ่านมาก มีการนำน้ำใส่ถัง เพื่อสาดน้ำ กันระหว่างทางค่ะ
หนุ่มสาว วัยรุ่นก็จะออกมาเล่นสงกรานต์กันเยอะค่ะ ถ้าน้องมาก็ได้ประแป้งสาว ๆ แน่นอนค่ะ
pomcob
8 เมษายน, 2010 - 14:47
Permalink
เอ่อ ..
หารูป พี่แจ้วไม่เจอ นั่งตรงใหน คร๊าบบ บบบ อิอิ
แจ้ว
8 เมษายน, 2010 - 14:57
Permalink
ยังไม่ได้เป็นผู้สูงอายุ
โห พี่อุตส่าห์บอกว่ารดน้ำผู้สูงอายุนะคะ ป้อมจะหาเจอได้งัยคะ ต้องเป็นคนถ่ายรูปค่ะ
pomcob
8 เมษายน, 2010 - 15:08
Permalink
อ้าว เมนต์ผมไหงไปอยู่ข้างบนได้ล่ะพี่
งงง คับ แฮะๆ
amporn
8 เมษายน, 2010 - 14:54
Permalink
มองดูปฎิทิน
จริงซินะเดือนนี้ก็เดือนเมษายน ใกล้จะถึงสงกราต์บ้านเราแล้ว ลืมไปเลยจริง ๆ รดน้ำขอพรจากคนเฒ่าคนแก่เป็นสิ่งที่ดีค่ะ พรและโชคลาภจะได้ไหลมาเทมา
ทุกวินาทีมีค่า ถ้าเรามีความหวังเราจะไม่เคยพ่ายแพ้
pomcob
8 เมษายน, 2010 - 15:00
Permalink
พี่อันพร
ถ้าเป็นคนไทยที่อยู่เมืองไทย คนทำงานด้วยนะ สงกรานต์นะเป็นอะไรที่
เขานับวันเวลา แทบจะนาทีชั่วโมงเลยล่ะครับ
ไม่ไช่ิอะไรหรอกครับบ จะได้หยุดนาน นนนนนนน
( มาตรฐานผมเอง ตอนนี้เหลือเวลาอีก ราวๆ 24 ชั่วโมง ผมจะได้หยุดสงกรานต์อีกแล้ววววว )
amporn
8 เมษายน, 2010 - 15:13
Permalink
คุณป้อม
ทำไมได้หยุดเร็วจังเลย น่าอิจฉาจัง ทุกวันงานยุ่งมากขนาดไม่สบายยังต้องไปทำงานเลย วันหยุดก็เหมือนไม่ได้หยุด เพราะต้องทำงานบ้าน ไปซื้อของกับเด็ก ๆ บ้าง บางทีก็คิดเหมือนกัน อยากนอนอย่างเดียวโดยที่ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ข้าวไม่ต้องทานเลยก็ได้ เฮ้อ พูดแล้วอิจฉาคุณป้อมจัง
ทุกวินาทีมีค่า ถ้าเรามีความหวังเราจะไม่เคยพ่ายแพ้
pomcob
8 เมษายน, 2010 - 15:48
Permalink
เอ่อ คนไทยเขาเอ่อ
หยุดๆ กันแล้วครับพี่
ของผมใช้สิทธิลาพักร้อน 1 วัน คือวันจันทร์ ที่ 12 นอกนั้นวันหยุดครับ 13 -14 - 15 -16 ครับ ต่อด้วย 17 - 18 เสาร์อาทิตย์ + 10 -11 ( 9 วันครับ )
เรื่องไม่สบายแล้วยังต้องไปทำงานเนี่ย
พูดตรงๆ นะครับ ได้แต่เวทนา ครับทำงานอยู่ญี่ปุ่น เป็นพนักงานญี่ปุ่น ( ต้องตายล่ะถึงจะได้หยุดพักจริงๆ เสียที )
ผมทำงานบริษัทญี่ปุ่นทราบดีครับ ทำงานดึกๆ ดื่นๆ ยังต้องเข้างานโคตรเช้าอีกไปสายแม้แต่วินาทียังไม่ได้
หุ่นยนต์ทำงานยังมีเวลา มีชัวโมง ซ่อมบำรุง แต่คนญี่ปุ่นเนี่ย ไม่มีเลยจริงๆ
ติดดิน
8 เมษายน, 2010 - 14:55
Permalink
โฮฮฮ
คิดถึงบ้านจัง คิดถึงป้ออุ้ยแม่อุ้ย
ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
หน้า