ปุ๋ยหมักตื่นตัว (Rapid Compost)
13ปี แลกกับภาพ และการอธิบายสั้นๆ แค่นี้จริงๆ หยาดเหงื่อ และน้ำตา ชีวิตนักปิดทองหลังพระ จนทองก็หมด พระก็หาคนกราบไหว้ไม่ได้
ปุ๋ยหมักแบบเดิม กองหมักทิ้งไป นานๆ แม้แต่ข้ามปี แต่ปุ๋ยหมักที่แนะนำ ใช้เวลา 45วัน แต่ต้องกลับกอง ทุกๆ 3-4วัน กองหนึ่งๆ ได้ ประมาณ 800 กก.
อะไรที่วัวกิน (และย่อยสลาย)ใชัได้หมด แต่ เทคนิคอยู่ที่ ส่วนผสม สีเขียวต่อ สิเหลือง 1:1 โดยปริมาตร กองสูงไม่น้อยกว่า 90ซม. และความชื้น 50% และกลับกองทุกๆ 3-4วัน
เนื่องจากต้องกลับกองบ่อยๆ การออกแบบถังกลับมึความจำเป็นมาก
ปลูกผัก มะละกอ เป็นหลัก กากกาแฟ และขี้วัว ก็จะใส่ผสม แต่ไม่เกิน 20% เพราะ ปุ๋ยหมักติ่นตัวต้องมีอุณหภูมิสูง สมำเสมอ ไม่มีกลิ่น และไม่มีแมลงวัน และสัตว์ที่ไม่ต้องการ ไม่พึงประสงค์
ถ้าช่วงใด วัสดุใดขาด ให้ใช้ปุ๋ยหมักที่กลับได้ครึ่งทาง เป็นส่วนผสมแทน
หญ้าไม่ว่าสดแห้ง ถือเป็นสีเขียว
************************************************
ขอให้เจริญทั้งทางโลก ทางธรรม
- บล็อกของ 2s
- อ่าน 15175 ครั้ง
ความเห็น
2s
1 มีนาคม, 2011 - 09:43
Permalink
Rapid Compost พัฒนาจาก UC, Berkley
ท่านไม่ได้ใช้กล่องกลับ เพราะท่านใช้ หญ้า และเศษอาหารจาก Cafetaria ของมหาวิทยาลัยครับ
ชอบทำอาหารมีเศษอาหารลองทำดูนะครับ
เพื่อพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ การทำปุ๋ยหมักตื่นตัว และสวนผักปลอดภัย
pemi.evil
1 มีนาคม, 2011 - 09:36
Permalink
คุณ 2S
ถ้ามีโอกาสได้ย้ายกลับบ้าน คงจะได้ทำอะไรหลาย ๆ อย่างที่ตั้งใจไว้ รวมถึงปุ๋ยหมักตื่นตัวของคุณ 2S ด้วย ขอบคุณที่นำความรู้ดี ๆ มามอบให้ชาวบ้านสวน
2s
1 มีนาคม, 2011 - 09:39
Permalink
(No subject)
:confused:
เพื่อพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ การทำปุ๋ยหมักตื่นตัว และสวนผักปลอดภัย
จันทร์เจ้า
1 มีนาคม, 2011 - 09:39
Permalink
สองเอสสสสสสสส
กลับมาแล้ววว พร้อมกับความรู้ ข้อมูลชัดกิ๊ก พร้อมปฎิบัติ ขอบคุณนะคะ
พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า
2s
1 มีนาคม, 2011 - 09:46
Permalink
(No subject)
:bye: :admire2: :admire:
เพื่อพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ การทำปุ๋ยหมักตื่นตัว และสวนผักปลอดภัย
ป้าเล็ก..อุบล
1 มีนาคม, 2011 - 11:46
Permalink
ปุ๋ยหมัก
กำลังทำค่ะ แล้วจะมารายงานนะ ขอบคุณวิธีการทำ
084-167-4671
anongrat2508@hotmail.com
2s
1 มีนาคม, 2011 - 13:37
Permalink
อิติปิโส
:admire2: :admire2:
เพื่อพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ การทำปุ๋ยหมักตื่นตัว และสวนผักปลอดภัย
พัฒน์..ลูกธรรมดา
22 เมษายน, 2011 - 21:57
Permalink
คุณ 2s
สิ่งที่ท่านได้ทำมาเป็นประโยชน์ต่อทุกๆคน และยังได้เผยแพร่ปากต่อปากก็จะเป็นบุญทั้งของท่านและผู้อื่น แต่ปัจจุบันอาหารแพงอาหารขาดแคลนกำลังเกิดขึ้นสิ่งที่ท่านทำมาจะเกิดประโยชน์อย่างสูงแก่ตัวท่านและอีกหลายๆคนที่ได้รับความรู้
อ่าน
พัฒน์..ลูกธรรมดา
6 พฤษภาคม, 2011 - 22:22
Permalink
คุณ 2s
ถ้ามีข้อมูลเกียวกับปุ๋ยที่ใส่ลงไปเท่าใดแล้วจะใด้ผลผลิตเท่าใดขอให้ลงด้วยนะครับเขาเรียกอัตราแลกเปลี่ยนปุ๋ยหรือเปล่า ความรู้ท่านดีมากๆ ผมคอยติดตามอยู่
ป๋ยหมักหากไม่กลับกองเลยทำแบบเตี้ยๆสูงไม่เกินเท่าใดครับ
อ่าน
2s
7 พฤษภาคม, 2011 - 00:01
Permalink
เรื่องผลผลิต และอัตราที่ใช้ค่อยๆ พูดคุยทีหลังนะครับ
เรื่องผลผลิต และอัตราที่ใช้ค่อยๆ พูดคุยทีหลังนะครับ มาพูดถีง จุลินทรีย์ในปุ๋ยอินทรีย์ โดยเฉพาะ ในปุ๋ยหมักพอเพียงก่อนนะครับ
ปุ๋ยเคมี ไม่มีคุณสมบัติที่ดีเด่นนี้ แม้ว่าจะมีการพัฒนาเคลือบ ไตรโคเดอร์มา หรือไมโครไรซ่า ก็ตาม ถือว่า น้อยๆมาก ถ้าทำได้
ในปุ๋ยอินทรีย์น้ำ เกือบทั้งหมด เป็นจุลินทรีย์กลุ่มที่ ไม่ต้องการออกซิเจน(ใช้ภาษาง่ายๆ) กว่า 80% เป็นจุลินทรีย์ชั้นต่ำ และจะแตกต่างกันในสูตรน้ำหมัก ที่ใช้ว้สดุ และสภาพเป็นกรด เป็นด่างของน้ำหมัก
ในปุ๋ยมูลสัตว์ จะแตกต่างกันพอควร จะยังไม่พูดถึงมากตอนนี้ มูลสัตว์ที่ได้จากสัตว์กินหญ้า จะใช้เวลาย่อยสลายนานกว่า มูลสัตว์ที่ไม่ได้กินหญ้า เช่น ขี้วัวถ้าใส่หน้าดินก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าผสมในดินต้องคอย 3-4อาทืตย์ ถ้ามูลสัตว์ที่ไม่ได้กินหญ้า ผสม คลุก 1อาทิตย์ ปลูกก็ใช้ได้ จุลินทรีย์ ส่วนใหญ่อยู่กลุ่มกลางๆ มีเชื้อราจำนวนมาก หลายชนิด(ทั้งที่นำเชื้อโรคด้วย) ดังนั้นส่วนใหญ่จะเห็นการแก้ปัญหานี้ด้วยการหมักด้วยรำข้าว กากน้ำตาล น้ำหมัก ทั้งทำเอง และที่มีวางขาย ส่วนใหญ่สูตรมาจาก ญี่ปุ่น
ปุ๋ยหมัก ที่กองเตี้ย ไม่กลับกอง เกือบทั้งหมด จะมีความไม่สม่ำเสมอมาก เพราะการย่อยสลายขอบด้านนอกไม่ดี และเก็บความร้อนไม่ได้ถึงมาตรฐาน ทำให้มีโรคพืช เมล็ดวัชพืช พอสมควร (ปุ๋ยเคมีหัวเราะชอบใจ) ขาดจุลินทรีย์ กลุ่มเฉพาะแบคทีเรียที่เจริญในสภาพอุณหภูมิสูง เหมาะกับ สภาพดิน อากาศเมืองร้อน
ปุ๋ยหมักพอเพียง ออกแบบมาเพื่อแก้จุดอ่อนด้านต่างๆที่กล่าวมา ไม่ว่าจะมี จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์มากมาย หลายๆกลุ่ม และมีจุลินทรีย์โรคพืชน้อยๆมาก มีธาตุอาหารสูงขึ้นมาก คุณภาพสม่ำเสมอมากกว่า มี%ธาตุอาหารหลัก ที่ละลายน้ำสูงมาก(เกือบ 70%) และให้เกษตรกรใช้ประโยชน์จากเศษพืช(ไม่ให้เผา)ที่มีอยู่ตามฤดูกาล มากกว่าปุ๋ยอินทรีย์อื่นๆทั้งหมด เรียกว่า ดูแลสภาพแวดล้อมโดยรวมด้วย แม้ต้องแลกด้วยหยาดเหงื่อ เวลา และต้นทุนที่สูงขึ้นแต่ ถ้า ปรับแต่ง เทคนิค ทดลองต่อเนื่อง จะคุ้ม ยิ่งกว่า คุ้ม
ปุ๋ยหมักพอเพียง มีจุดประสงค์ไม่ต้องการให้เผาเศษพืช ใบไม้ ฟาง หญ้า จึงออกแบบ โดยใช้ เศษพืชสด(หญ้า เศษอาหาร ผัก) ต่อ แห้ง(ฟาง) 1:1 โดยปริมาตร แต่เพื่อไม่ให้กองยุบมาก และจะทำให้ได้ปุ๋ยหมักน้อยไป จึงแนะนำให้ใช้มูลสัตว์ที่มีแกลบสดรองพื้น(จะกลับกองง่ายขึ้น) กากกาแฟ ประมาณ 25% จะต้องกองสูงไม่น้อยกว่า 90ซ.ม. ความชื้น 50% และกลับกองบ่อยครั้ง ทุกๆ 4วัน จะทำให้ย่อยสลายสมบูรณ์ภายใน 1เดือนเท่านั้น แต่ถ้าไม่มีเวลามากกลับ ทุกอาทิตย์ก็จะต้องย่อยสลาย 6-7อาทิตย์
ปุ๋ยหมักเศษพืชแบบเก่า ก็ต้องใช้เวลานานกว่านั้นมากๆ และจะมีโอกาสมีจุลินทรีย์โรคพืช(โรคคนด้วย) ติดมาบ้าง ถ้าไม่ดูแลดีพอ(แต่ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่...)
ค่อยๆแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ที่ละ อย่างสอง อย่างจะได้ไม่สับสน
ขอบคุณมากที่สนใจ ต่อเนื่องครับ
เพื่อพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ การทำปุ๋ยหมักตื่นตัว และสวนผักปลอดภัย
หน้า