ชามะรุมแล้วก็ .... เรื่องราวอันน่าหดหู่อื่นๆ
เมื่อวานเข้าทำงานที่ทำงานปกติหลังจากกลับไปบ้านเมื่อศุกร์ที่แล้ว ที่ทำงานให้เข้าไปทำงานได้ปกติ ( เอ่อ น่าจะให้เข้าไปวันจันทร์ทำให้ผมต้อง เข้ามากรุงเทพ วันพฤหัสเพื่อทำงานวันศุกร์ ) ปกดิผมกลับบ้านเกือบๆ ทุกเสาร์ จะมาถึงเช้า กลับไปคืนตอนเย็นก็กระไรอยู่ จริงๆ พูดเล่นกับแถวบ้านว่ามาแล้วจะกลับไปคืน กรุงเทพฯ บ้านผมห่างกันแค่ ตอนเย็นถึงเช้า( กลับเย็นๆ ดึกๆ ถึงบ้านเช้า ) แม่บอกว่าไม่ต้องกลับนะ กลัวผมกลับจริงๆ
อ้อ มีอะไรมาฝากนิดหน่อยในภาพทุกคนดูออกหมดใช่เปล่าครับว่ามันคืออะไรในกระด้ง 555
ครับ มันคือใบมะรุมสดๆ พิเศษด้วยใบโหระพาสดๆ เหมือนกัน
ก็เย็นวันที่ผมจะเดินทาง กำลังรดน้ำผักอยู่มองไปเห็นพ่อกำลังเด็ดอะไรนานมาก รดน้ำเสร็จเดินเข้าไปดู เอ่อ งง หน่อยๆ ปกติพ่อจะทำ ชามะรุม ( เอาใบระรุมมาตากแห้ง แล้วเอาไปปั่นเป็นผงๆ ดื่มตอนเช้าทุกวัน แล้วก็ตอนเย็น ) แต่คราวนี้มี โหระพาปนมาด้วยเยอะเสียด้วย พ่อบอกว่า ตะกี้ยกโหลแก้วที่ใช้ใส่ชามะรุมแล้วมันหล่นลงพื้นแตก ชาเยอะมากเสียดายมาก ( อ้อ ชามะรุมเหมือนชาเขียวเลย ลักษณะเป็นผงละเอียด เขียวๆ ) พ่อเลยจะทำใหม่ ลงมือเลยทันที ถามพ่อว่า แล้วใส่ใบโหระพาด้วยเหรอพ่อ พ่อบอกว่า เห็นในทีวีเขาบอกว่ามีประโยชน์ ...อะไรซํกอย่างของแกนี่แหละ
ชามะรุม พ่อบอกว่า แต่ก่อนกลางคืนแกจะต้องลุกขึ้นมาฉี่บ่อยมาก 3-4 ครั้งแต่พอเริ่มดื่มชามะรุมได้ซักพัก กลางคืนไม่ต้องลุกมาฉี่เลย ไม่รบกวนการหลับเลย อันนี้พ่อบอกว่า น่าจะเป็นผลมาจากชามะรุมแกเชื่ออย่างนี้
มีเครื่องดื่มแล้วจะไม่มีของกินก็ดูเหมือนจะไม่ใช่ blog ของผมเสียเท่าไหร่
ผลจากการมาทำงานวันแรกเดินทางมาด้วย ขอตื่นสายๆ หน่อย ( 7 โมง ) ไม่อยากหุงข้าวเพราะว่าเพลียหน่อยๆ กะไปหาไรกินดาบหน้า ( แย่สุด มาม่า 7-11 ดีสุดข้าวราดใต้ตึก ) เดินผ่าน 7 ไม่กินดีกว่าเดินผ่าน ม๊อบเข้าไปที่ทำงาน ปรากฏว่า ร้านข้าววันนี้ปิดไม่ขาย วันนี้ผมเลยอดข้าวเช้า
ตอนบ่ายลงมาหาไรกินกิน เจอป้ายของร้านกาแฟ บอกว่ามีข้าวราดแกงขาย แวะเข้าไปดู เกือบหมดแล้วกับข้าวราดทั้งสองอย่าง อืมมกินก็กิน ดีกว่ากินแซนวิสของ ซํบเวย์ อันล่ะ ร้อยกว่าบาท ครับ แซนวิสชิ้นล่ะ ร้อยกว่าบาท ไม่รวมน้ำ กินข้าวกล่อง 40 บาทดีกว่า
ตอนเย็นเลิกงานต้องเดินผ่าน ม๊อบเพื่อออกมาช่วงที่ผมเดินออกเขากำลังเข้าแถวตามซุ้มต่างๆ รับอาหาร เลิกได้ว่าอยากกินอะไรบางคนก็ไปชะโงกดู ว่าอยากกินเปล่าถ้าอยากกินก็เข้าแถว อาหารส่วนใหญ่ง่ายๆ ก๊วยเตี๋ยวไก่ แกงเขียวหวานราด แกงบางอย่างราด .... เดินได้ซักพักพี่ผู้หญิงตะโกนเรียกผม น้องๆๆ กินข้าว ฟรี ฟรีน้อง เอ่อ เขายิ้มด้วย เลยเดินเข้าไปดูช่วงนั้นไม่มีคนแล้ว เห็นต้มจับฉ่าย แฮะๆของโปรดผมเสียด้วย กินก็กินหยิบถ้วยข้าวให้เขาราดให้ ..... บริจาคไป 20 บาท ( ในกล่องบริจาค ) เพราะว่าผมไม่ใช่คนที่มาชุมนุม แค่อยากกินเฉยๆ ( ลองดู อยากรู้รสชาติเป็นไง ) เลยถือซะว่า ซื้อกินแล้วกันกินเฉยๆ ก็ได้นะ ก็ไม่ผิดหวังครับ เป็นต้มจับฉ่ายที่อร่อยสมหน้าตาเลย อร่อยมากครับ นั่งกินตรงถนน หน้า Siamparagon เลย เห็นทางม้าลายเปล่า รีบกินรีบออกไป 55 แปลกดี
กินข้าวเมื่อวาเสร็จ อืมม อดนึกถึงว่าถ้าตอนนี้อยู่บ้านจะได้กินอะไรมั้ง .... โทรหาแม่ที่บ้านถามว่าทำไรกิน แม่ไล่เมนูซะ ..
ไล่ดูภาพ เห็นมีมือกลางวันมื้อสุดท้ายก่อนเข้ากรุงเทพ เอามาให้ดู มีข้อสังเกตุหลายๆ รวมถึงสร้างความน่าสงสารให้ตัวเองยิ่งๆ ขึ้นไปอีกเมื่อเอากับข้าว หรือของที่กินๆ มาเทียบๆ กัน ระหว่างอยู่กับ แม่ .. กับอยู่กับ ม๊อบ
ที่บ้านผมอาหารส่วนใหญ่มี น้ำพริกมาด้วยเกือบทุกมื้อ แน่นอนมีสารพัดผัก แล้ว ที่บ้าน ( แล้วก็แถวบ้าน ) ยังนิยมใช้มือเปิบข้าวอยู่ครับ ( โดยส่วนตัวผมคิดว่ามันอร่อยกว่าใช้ช้อน หรือซ้อมกินข้าวครับ )
เช้าๆ ในกรุงเทพฯ ไม่มีไรทำ ไม่มีผักแล้วก็ต้นไม้ให้รด ไม่มีแม่ที่คอยเรียกให้ช่วยไปเก็บผัก สำคัญสุด ไอเจ้าตัวเล็กของผมสองคนข้างห้อง จากผมไปโดยไม่มีวิ่แววว่าจะได้กลับมา ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้พบกันอีกหรือเปล่า ... ( ไว้มีโอกาสจะเล่าให้ฟัง blog หน้านะครับ เช็ดน้ำตาก่อน)
จบด้วยความเศร้า
- บล็อกของ pomcob
- อ่าน 41647 ครั้ง
ความเห็น
ทราย
8 พฤษภาคม, 2010 - 09:56
Permalink
blog นี้มีหลายอารมณ์
blog นี้มีหลายอารมณ์นะ น้องป้อม แล้วข้าวแม่กับข้าวม๊อบอย่างไหนอร่อยกว่ากันจ๊ะ
pomcob
8 พฤษภาคม, 2010 - 10:00
Permalink
กับข้าวม๊อบ แปลกดีครับคุณทราย
เริ่มจากมันอยู่ในที่แปลกๆ
ความคาดหวังว่าจะอร่อยแต่ แรกไม่มีอยู่แล้ว ( คิดว่าคงไม่อร่อยอะไรมากมาย แต่แรก )
แต่เขาทำดีนะครับ รสชาติอร่อยกว่าที่ผม ซื้อกินที่ร้านข้าวราด ของห้าง Central World อย่างเทียบกันไม่ได้เลยครับ
ตอนกินตื่นเต้นดีครับ หลังๆ ดูแถวๆ ม๊อบผ่อนคลายกว่าแต่ก่อนมากที่แบบว่า เดินผ่านต้องรีบๆ เดินๆ ออก
แม่ไม่เคยทำต้มจับฉ่ายให้กินเลยครับ อาหารพวกผักต้ม ถ้าไม่ต้มจีด ก็ แกงอ่อมไรงี้ครับ ( เป็นความชอบส่วนตัว ตอนเข้าเมืองครับต้มจับฉ่าย )
ถ้าเทียบกัน กับข้าวแม้คุ้นลิ้นมากกว่า ( ใช่คำว่าอย่างนี้น่าจะเหมาะกว่าคิดว่าครับ )
กับข้าวม๊อบ กินแล้วก็คงไม่ได้กินอีกหรอกครับ ( ถ้าเขาไม่เรียกกินอีก 555 )
ทราย
8 พฤษภาคม, 2010 - 10:07
Permalink
โชคดี?????
โชคดี????? ที่เขาเรียกกินข้าวทั้งๆที่ไม่ใช่คนในม๊อบ
ตัวเองไม่ต่างจากน้องป้อมเลย เดินผ่านม๊อบระยะทางประมาณ 1 กม.ทุกวัน เห็นจนชินตา
แต่แปลกเค้าไม่เคยเรากินเลย 555
เจ้โส
8 พฤษภาคม, 2010 - 10:12
Permalink
น้องทราย
ก็น้องทรายไปทำหน้าปลาทูแม่กลองใส่เค้าหรือเปล่า เค้าถึงไม่เรียก
garden_art1139@hotmail.com
ทราย
8 พฤษภาคม, 2010 - 10:15
Permalink
ยิ่งกว่าปลาทูแม่
หน้ายิ่งกว่าปลาทูแม่กลองอีกค่ะเจ้โส ไม่นึกว่าจะมีคนรู้ทันนะเนี่ย
pomcob
8 พฤษภาคม, 2010 - 10:20
Permalink
หุหุ
หุหุ ไม่ขอนึกภาพตามนะครับ ยังชอบกินปลาทูอยู่ครับ แฮะๆ
ทราย
8 พฤษภาคม, 2010 - 10:27
Permalink
เป็นบางช่วง
เป็นบางช่วงเท่านั้นแหละ แต่บางช่วงก็ปลาทูแม่กลอง+แกงจืดหน้าบูด 555
pomcob
8 พฤษภาคม, 2010 - 10:51
Permalink
ไปกันใหญ่เลยทีนี่คุณทราย
แกงจืดเนี่ยถ้าไม่ร้อนไม่กินเลยนะ ยังมาหน้าบูดอีก ( ขออนุญาติ เอาไปทำปุ๋ยหมักนะครับ 55 )
ทราย
8 พฤษภาคม, 2010 - 11:05
Permalink
ก็ยังดีน้าาาา...
ก็ยังดีน้าาาา...ที่ยังมีประโยชน์ เป็นปุ๋ย
pomcob
8 พฤษภาคม, 2010 - 10:18
Permalink
มันชินตามั้งครับ
อาจจะจ้องมองเขามากไป เหมือนเราอยากกินข้าวมองหาข้าวกินมั้งครับ คุณทราย เขาเลยคิดว่าเราอยากกินข้าวมั้งครับ เลยเรียก หุหุ
ทั้งที่จริงๆ แล้ว ผมพยายามสังเกตุ นอกจากเขามาลำบากกันทำไม แล้วยังมีคำถามอื่นๆ ที่อดจะแปลกใจไม่ได้
เขาอยู่กันยังไง อาบน้ำตรงใหน นอนยังไง ... ใครมาบ้าง เด็กๆ แบบนี้มาด้วยเหรอ ? มีพระด้วยเหรอ ?
เขานั่งคุยอะไร กัน มีของกินอะไรกัน ทำไมเยอะยัง ????
เก็บของยังไง ? ร้านขายอะไร ?
ต่อคิวกำลังจะกินอะไร ?
เขาไม่กลัวหรือไง ? คนนี้ การ์ดหรือเปล่า ? มีคนที่เรารู้จักเปล่าหว่า ?
แล้วส่วนใหญ่ บางอย่างที่ผมว่ามันแปลกดีอยากได้ภาพ ก็จะเข้าไปถามเขาก่อนว่า พี่ครับ ผมขอถ่ายรูปได้เปล่าครับ อิอิ ถ่ายเลยกลัว
หน้า