ความซน..ของเด็กกับการถ่ายภาพ...ตอนที่ 2
ความซนของเด็ก ๆ ผู้ชาย..หลาน ๆ นะครับ...วันนี้มาดูการถ่ายภาพด้วยความเร็วชัดเตอร์
สูง ๆ กันบ้างนะครับ...วันนี้ก็ใช้เจ้าแก่..พานาโซนิค FZ 30 ตัวเดิมครับ...
2 หลานชายสุดซน..เล่นน้ำทั้งวัน..555...สนุกเลยครับ...
4 ภาพด้านบน..ใช้โหมด P ถ่ายภาพ ISO 200 รูรับแสง F 8.0 ความเร็วชัดตเตอร์
1/250 วินาทีและร่วมกับการถ่ายภาพต่อเนื่อง..จะเห็นได้ว่าภาพทั้ง 4 ภาพมีความต่อ
เนื่องกันจนเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจของการกระโดดลงน้ำของเด็ก ๆ 2 คนนี้..(ที่จริงมีภาพ
ต่อเนื่องมากกว่า 4 ภาพนี้นะครับมันเยอะเลยตัดออกไปบ้าง )..
ไม่นานก็โดนเรียกให้ไปไล่ปลา..อีกบ่อ..ไปเข้าสะดุ้ง (ยอ..ขนาดเล็ก)..เล่นน้ำอีกบ่อ...ที่นี้
แหละสนุกอีกตามเคย 2. หนุ่ม...5555..
ตีน้ำให้ปลาตกใจ..555...โหมด P ISO 200
รูรับแสง F 8.0 ความเร็วซัตเตอร์ 1/500 วินาที
มาดูกันชัด ๆ หน้าตา 2 หนุ่ม...ซนจริง ๆ ครับ..
อ้าวโยก...สังเกตุดีจะเห็นน้ำกระเด็นออกมาเป็นหยดใหญ่ ๆ โหมด P ISO 200
รูรับแสง F 8.0 ความเร็วชัตเตอร์ 1/500 วินาที...
จะเห็นว่าความเร็ว ชัตเตอร์ 1/500 วินาที สามารถหยุด
การกระเด็นของหยดน้ำได้ ทำให้ภาพมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น...
โหมด P เป็นอีกโหมดที่ผมชอบใช้ เพราะง่ายไม่ต้องปรับอะไรมาก แต่ถ้าเอาแบบ
จริง ๆ จัง ๆ ผมจะใช้โหมด M เพราะต้องปรับตั้งเองทุกอย่างให้ภาพออกมาตามความตั้งใจ
ของผู้ถ่ายนะครับ ทีนี้ลองก้มมองดูซิว่ากล้องดิจิตอลที่ท่านใช้เป็นประจำอยู่นั้นสามารถทำ
อะไรได้บ้าง บางทีอย่ามองข้ามความสามารถที่กล้องทำได้นะครับ...ใช้ให้คุ้มค่ากับเงินที่
เราเสียไปดีกว่าครับ...
ปล.ผมไม่ได้มีหลักวิชาการมากมายอะไรมากนะครับ...แค่ใช้ประสบการณ์ และมั่ว ๆ
นะคร้าบ เพราะไร้ซึ่งครูสอน..อาศัยการถ่ายรูปมาตั้งแต่ อายุ 19 ปี ครับ...มั่วมาตลอด
5555...ขอโทษ พี่โสทร นะครับ ที่บล็อกนี้ไม่ค่อยเกี่ยวกับด้านกษตรเลยครับ..
โปรดติดตามตอนต่อไปครับ..ความเร็วชัดเตอร์ต่ำกับการถ่ายภาพน้ำตก ยังไงให้พริ้ว ๆ อิอิอิ
...*** ขอบคุณบ้านสวนพอเพียง***...
- บล็อกของ วิศิษฐ์
- อ่าน 7717 ครั้ง

ความเห็น
CHANYA
20 มิถุนายน, 2011 - 12:16
Permalink
อยากกระโดนเล่นน้ำบ้างจังเลย
เห็นแล้วอยากกระโดดน้ำเล่นบ้างจังเลยค่ะ
หนูนิว
20 มิถุนายน, 2011 - 12:22
Permalink
อยากเล่นบ้าง
เมื่อก่อนน้าเขยทำงานที่ชลประทานเวลาถึงหน้านา
ก็จะเปิดน้ำส่งไปตามคลอง น้าเขยชอบพาไปเล่น
สนุกดี ท่าทางคนเล่นจะสนุกกว่าคนถ่ายนะคะ
(ขอถามไว้เป็นความรู้
นิวก็หัดถ่ายรูปมั่วๆ มาตลอด กะเอา แต่นิวอยากรู้ว่าเค้ามีวิธีคำนวนยังไงว่า ความเร็วชัตเตอร์ ต้องใช่เท่าไหร่ขึ้นอยู่กับอาไรบ้าง ปกติก็มั่วๆเอง over บ้าง under บ้าง ตามสถานการณ์ :uhuhuh:
ก่อนจะถ่ายต้องกะๆเอา ลองวัดแสง กว่าจะถ่ายได้แต่ละรูป นานมาก)
วิศิษฐ์
20 มิถุนายน, 2011 - 14:14
Permalink
หนูนิว
เอาง่าย ๆ นะครับเดี๋ยวนี้กล้องดิจิตอลมีโหมดถ่ายภาพสำเร็จรูปให้หมดทุกอย่างครับเช่นภาพระยะใกล้ ก็จะมีรูปดอกไม้ ถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบให้หยุด ก็จะมีรูปคนวิ่ง ถ่ายภาพวิว ก็จะมีรูปภูเขา ถ่ายภาพบุคคล ก็จะมีรูปหน้าคน และโหมดอื่น ๆ ซึ่งทำมาให้สำเร็จรูปนะครับ ส่วนโหมด P นั้นพี่ว่าในกล้องทุกตัวมีมาให้นะครับเช่น พี่ถ่ายภาพเด็ก 2 คนกระโดดน้ำพี่ต้องการความเร็วชัดเตอร์ที่สูงพี่ก็จะหมุนๆตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ให้สูง ๆไว้ส่วนรูรับแสงกล้องจะคำนวนให้เองเสร็จ (ในสภาพแสงดีๆแดดแรงรับรองได้ความเร็วชัดเตอร์สูง ๆ นะครับ ) และอีกอย่างโหมด P ยังสามารถชดเชยแสงให้ โอเวอร์ อันเดอร์ ได้ อีก 2 สต็อบ นะครับช่วยให้การถ่ายภาพง่ายยิ่งขึ้น..และอีกอย่างถ้าความเร็วชัดเตอร์ยังไม่สูงเท่าที่เราต้องการก็สามารถเพิ่ม ISO ขึ้นมาได้อีก เช่น 50 ,100 ,400, 800 1600 ,3200 แต่ต้องจำไว้เสมอว่ายิ่งความไวแสง(ISO) สูงขึ้นเท่าไร ก็จะทำให้ภาพขาดรายละเอียดและความคมชัดตามมามากขึ้นเท่านั้นนะครับ...ถ้าจะอธิบายเรื่องนี้ยาวมาก ๆนะครับ ไว้พี่หาข้อมูลที่เป็นหลักวิชาการให้มากกว่านี้สักหน่อยแล้วค่อยอธิบายให้อ่านใหม่นะครับ...หนูนิว..ต้องทดลองปรับ ๆ กล้องและใช้บ่อย ๆ นะครับถึงจะเคยชิน ทีแรกก็จะขัด ๆ รู้สึกว่ายากมาก ๆแต่ถ้าทำบ่อย ๆก็จะเกิดความชำนาญนะครับ พี่ว่าไม่เกินความสามารถของหนูนิวคนเก่งไปได้หรอกครับ....ขอใหสนุกกับการถ่ายภาพนะครับ...บล็อกนี้แค่เพิ่มสาระมาบ้างนิดหน่อยนะครับ..อิอิอิ..
ย่าตอน
20 มิถุนายน, 2011 - 13:09
Permalink
คุณศิษฐ์
เมื่อ 35 ปีที่แล้ว ย่าตอนใช้กล้อง Single lens เรียนวิชาถ่ายภาพ ตอนนั้น
ยังเป็นภาพขาวดำ ภาพสีเพิ่งเริ่มมีไม่นาน ผู้เรียนต้องเข้าแล็บทำภาพขาวดำ
หลับตาโหลดฟิลมเข้าแท้งค์ ล้างฟิลม อัดรูปได้ ผลการเรียนก็ดีนะ แต่จบแล้ว
ไม่ได้หยิบกล้องอีกเลย ผ่านไป 35 ปี ความรู้ความมั่นใจที่เคยมีมันหายไปหมด
มาหยิบกล้องถ่ายรูปอีกทีเหมือนคนไม่เคยถ่ายรูป ถ่ายมั่ว ๆ จริง ๆ ดีนะถ่ายต้นไม้
ไม่มีบ่น ตอนนี้ใช้กล้อง Non Power Shot A 495 ถ่ายอยู่ดูไม่จืดเลย แต่ถูกตังดี
แบบพอเพียงนิ
วิศิษฐ์
20 มิถุนายน, 2011 - 14:20
Permalink
ย่าตอนครับ
ถึงจะเล็กราคาถูก...แต่ประสิทธิภาพไม่ได้ด้อยนะครับย่าตอน...
ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล
• ซูมออปติคัล 3.3 เท่า
• หน้าจอ LCD ขนาด 2.5”
• ใหม่ ! ชิปประมวลผล DIGIC III พร้อม Face Detection และ Scene Detection
• ถ่าย Macro ระยะ 1 ซม.
• ตั้งค่า ISO ได้หลายระดับ Auto ISO 80/100/200/400/800/1600
• ใหม่! ระบบสมาร์ทออโต้ 18 แบบ
• ใหม่! ระบบสมาร์ทแฟลช
• ใหม่! โหมดถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย (Low light)
• โปรแกรมถ่ายภาพ 16 แบบ
Auto, Program, Portrait, Night Snapshot, Kids & Pets, Indoor, Foliage, Snow, Beach, Fireworks, Long Shutter, Face Self-Timer , Movie ใหม่ ! Super Vivid ให้ภาพสีสด , Low-Light ถ่ายภาพภาวะแสงน้อย / กลางคืน และ Poster Effect ปรับแต่งภาพพิเศษแบบโปสเตอร์
• มี 3 สี : เงิน แดง และน้ำเงิน
สมาร์ทออโต้
• กล้องอัจฉริยะ Powershot มาพร้อมกับระบบ ใหม่! สมาร์ทออโต้ เทคโนโลยี ใหม่ล่าสุดของแคนนอน ที่พัฒนาขึ้นให้สามารถปรับค่าความสว่าง ความ contrast และคุณสมบัติอื่นๆ รวมถึงการถ่ายภาพภายใต้สภาวะแสงที่แตกต่างกันทั้งช่วงเวลากลางวัน และช่วงเวลากลางคืน ได้อย่างอัตโนมัติ เพื่อให้การถ่ายภาพสวย คมชัด เป็นเรื่องง่ายมากกว่าที่เคย
• โหมดออโต้อัจริยะ สมารท์ออโต้ รู้ว่าคุณกำลังจะถ่ายภาพอะไร และเปลี่ยนโหมดถ่ายภาพให้ทันทีในสถานการณ์ต่างๆ ครอบคลุมได้มากสูงสุดถึง 18 แบบ
Canon PowerShot A495
จารึก จันทร์เกตุ
20 มิถุนายน, 2011 - 14:36
Permalink
น้องศิษฐ์
ได้ความรู้เรื่องกล้อง การถ่ายรูป แต่เวลาจะถ่ายรูปปรับโหมดไม่ทันสักที ใช้โหมดออโต้ตลอดเลย555"""
"จะปลูกทุกอย่างที่กิน จะกินทุกอย่างที่ปลูก"
หนุ่มชาวสวน
20 มิถุนายน, 2011 - 15:23
Permalink
พี่วิศิษฐ์
เดี๋ยวนี้มีปลิงบ้างไหมครับ หรือว่าสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว เห็นเด็กโดดน้ำแล้วระวังต่อเด้อ แต่ในบ่อคงไม่มีมั้งครับ
วิศิษฐ์
20 มิถุนายน, 2011 - 15:25
Permalink
หนุ่มชาวสวน
หายากมาก ๆ แล้วครับเดี๋ยวนี้นะครับ....
RUT2518
20 มิถุนายน, 2011 - 18:18
Permalink
คุณวิศิษฐ์ครับ
เห็นแล้วคิดถึงตัวเองสมัยก่อนแบบนี้แหละครับ
ตั้ม
20 มิถุนายน, 2011 - 18:36
Permalink
นึกถึงวัยเด็ก
ก็เหมือนกันแบบนี้แหละ..ต่างกันที่บ้านผมเป็นคลอง กระโดดตีลังกาจากท่าที่สูงประมาณสองสามเมตร แต่ที่สนุกและชอบมากที่สุดคือเกาะเรือโยง เกาะแพซุงที่ล่องตามน้ำ เกาะไปไกลเป็นกิโล ขากลับหากไม่มีเรือโยงล่องกลับก็ต้องเดิน(ทางบก)ทั้งที่ตัวเปียกๆนั่นแหละ..
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
หน้า